คุณตัน จะฝ่ามรสุม "อิชิตัน" ยังไง เมื่อชาเขียวไม่สร้างรายได้เหมือนก่อน

ผมเคยพูดถึงเสี่ยตัน
เจ้าพ่อชาเขียว ที่ชอบใช้เงินทุ่มโปรโมชั่น
ว่าทำไมช่วงนี้แกหายไป
แล้วแกจะแก้เกมยังไงดี
.
ต้องบอกว่าตอนนี้ มรสุมรุมเร้าธุรกิจ“เสี่ยตัน” 
ตลาดชาเขียวในไทยดิ่ง 
อินโดนีเซียขาดทุนยับ 
แต่แกบอกจะ “ฮึดสู้” ฮึกสู้อีกครั้ง 
มาดูกันว่าเจ้าบุญทุ่ม จะฟื้น “อิชิตัน” ยังไง
.
“ยอดขายชาเขียว 2 ปีที่ผ่านมาตกลง 
ตอนนี้กำลังหาทาง เพื่อทำให้ยอดขายกลับมา 
อย่าง น้อยที่สุด จะพยายามทำให้ 
ผู้ถือหุ้นรายย่อยของผมไม่ขาดทุน”
นี่เป็นวรรคทองที่ คุณตัน ภาสกรนที 
กล่าวไว้ในการพบปะนักลงทุนเมื่อเร็วๆ นี้
.
คำพูดดังกล่าว สะท้อนภาพธุรกิจของ “อิชิตัน” 
รวมถึงเห็นสมรภูมิ “เครื่องดื่มชาเขียว” 
ที่อยู่ในอาการ “วิกฤติ” ไม่ใช่เล่น 
เมื่อก่อนตอนตลาดเฟื่องฟูสุดๆ 
มูลค่าแตะ 1.7 หมื่นล้านบาท 
แต่ปี 2561 ลดเหลือราว 1.5 หมื่นล้านบาท
.
ตลาดในประเทศย่ำแย่ไม่พอ
เจ้าพ่อชาเขียวอย่าง “คุณตัน” 
ยังเจอโชคร้าย 2 ชั้น 
เพราะการผนึกกับ “มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” 
และ “พีที ซิกมันทรา อัลฟินโด้” จากอินโดฯ
ลงขันตั้งบริษัทมีทุน 1,000 ล้านบาท 
เพื่อลุยตลาดเครื่องชาเชียวในอินโดนีเซีย 
ต้องผชิญการ “ขาดทุน” ต่อเนื่อง 
แม้ปี 2562 "ตัวแดง" จะลดลง 
แต่กระนั้นก็ยังทำทำธุรกิจ “กำไร” ไม่ได้ซักที
.
“คุณตัน” เคยประสบความสำเร็จจาก “โออิชิ”  
ก่อนขายกิจการให้ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” 
แต่ภายหลัง “โออิชิ” ปรับกระบวนยุทธ์ 
ไม่เล่นตามเกม “คุณตัน” 
แต่เล่นในเกมที่ตัวเองเป็นผู้กำหนด 
ก็สามารถ “ตีคืน” มาร์เก็ตแชร์
มาครอบครองได้มากขึ้นต่อเนื่อง
.
มีคำถามว่า แล้ว “คุณตัน” 
จะพาอิชิตัน ฝ่าวิกฤตระลอกนี้อย่างไร !!
กลยุทธ์ 3N ถูกคิดขึ้นมาแก้สถานการณ์ 
ให้ธุรกิจฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง 
ประกอบด้วย New Product, New Market 
และ New Business
.
เมื่อตลาดชาเขียวเป็น “ขาลง” 
ทำให้บริษัทเจอผลกระทบยากจะหลีกเลี่ยง 
ยอดขายที่เคยอู้ฟู่! 
ปี 2558 มูลค่า 6,356 ลบ. กำไรสุทธิ 812 ลบ. 
ปี 2559 เหลือ 5,266 ลบ. กำไรสุทธิ 368 ลบ.
ปี 2560 ขาย 5,719 กำไรสุทธิ 315 ลบ.
และปี 2561 ขาย 5,216 กำไรเหลือ 43 ลบ.
กระเทือนความมั่งคั่งของบริษัทฯ ยิ่งนัก
New Product ถูกนำมาใช้ในส่วนแรก 
ดันชาพรีเมี่ยมแบรนด์ “ชิซึโอกะ” ออกตลาด
และกำลังทำยอดขายและกำไรไปได้สวย 
จึงเขย่า “พอร์ตโฟลิโอ” สินค้าระลอกใหญ่
โละ!! เครื่องดื่มน้ำผลไม้ “ไบเล่” ออกจากตลาด
ที่เขาได้ซื้อกิจการเข้ามาเมื่อปี 2557 
รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง T247 
ที่ปลุกปั้นมาทำตลาดในช่วงชาเขียวขาลง 
แต่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทย 
เต็มไปด้วย “พี่เบิ้ม” ทั้งเอ็ม-150, คาราบาวแดง 
กระทิงแดง และลิโพวิตันดี 
จนต้องยอมถอย ดีกว่าทู่ซี้สู้จนพังพาบ
.
ส่วน New Market ที่คุณตันมองหา 
ตอนปรับทัพทีมงาน รับจ้างผลิต(โออีเอ็ม) 
เพราะทำกำไรได้ดี หากมีปริมาณออเดอร์มาก
รวมถึงเตรียมขยายตลาดเจาะ “ประเทศจีน” 
ประเดิมส่งน้ำนมมะพร้าว “อิชิตันหวัง” 
และตอนนี้ก็กำลังหา “พันธมิตรการค้า” อยู่
ขณะที่ New Business ตอนนี้ยังหาไม่เจอ 
ต้องจับตาว่า “คุณตัน” จะหาเจอหรือไม่
.
หัวใจการทำธุรกิจตอนนี้ 
จะโฟกัสชาพรีเมี่ยมแบรนด์ “ชิซึโอกะ” มากขึ้น
ซุ่มทำตลาดเงียบๆ มา 1 ปี 
สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ 37% 
แซงฟูจิชะ 35%, อิโตเอ็น 23%,โออิชิ โกลด์ 4% 
.
อีกสินค้าที่ทำกำไรได้ดีคือ สินค้าราคา 10 บาท 
ทั้งชาเชียว และเครื่องดื่มสมุนไพร “เย็นเย็น” 
ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจกำลังซื้อชะลอ 
รวมถึงเครื่องดื่มหมวดอื่นเจอภาษีความหวาน
ทำให้ต้องปรับราคาสูงขึ้น 
กระทบยอดขายระนาว 
จึงน่าจะทำให้ชาเขียวเป็นทางเลือกอีกครั้ง
.
เศรษฐกิจไม่ดี คนอื่นขายไม่ดี 
แต่ตัว 10 บาทของอิชิตันขายดี 
ที่สำคัญกว่านั้น 10 บาท ของผมมีกำไร
พฤติกรรมของผู้บริโภคต่างจังหวัด 
ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะเลือกยี่ห้ออะไร 
แบรนด์ไหน และราคาเท่าไหร่ 
แต่จะมอง “เงิน” ในกระเป๋าว่าซื้ออะไรได้บ้าง
.
คุณตันยอมรับว่า 
เครื่องดื่ม “ชาเขียว” เป็นธุรกิจหลัก 
ยังไงต้องสู้ในเกมนี้ต่อไป 
ที่ผ่านมาทุ่มมหาศาลเพื่อทำตลาด
และจัดแคมเปญใหญ่ทั่วประเทศ
แจกทอง แจกรถ ทัวร์ยกแก๊งฯ 
เป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อกอบโกยยอดขาย 
โดยเฉพาะหน้าร้อนชาเขียว “โออิิชิ-อิชิตัน” 
ละเลงเงินในตลาดหลาย “ร้อยล้านบาท”
.
แต่เมื่อพิจารณาแล้ว
ผลตอบแทน “ไม่คุ้มค่าลงทุน” 
เลยจำใจปรับกลยุทธ์ ลดงบแคมเปญโปรโมชั่น 
โฟกัสกลุ่มเป้าหมาย ทำแคมเปญให้ผู้ค้าแทน 
เช่น อิชิตัน ยกลัง ลุ้นเบนซ์ รวยทอง 
กระตุ้นการขายสินค้า “บิ๊กล็อต” ผ่านยี่ปั๊วซาปั๊ว 
และไตรมาส 3-4 ก็เตรียมส่งแคมเปญ
เจาะช่องทางร้านค้าทั่วไปมากขึ้น
.
กลยุทธ์ตลาดเจาะตามเซ็กเมนต์ 
ทำให้บริษัทประหยัดงบการตลาด 
ช่วยเพิ่ม “กำไร” ได้อีกทางหนึ่ง 
ช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา
บริษัทลดใช้งบประมาณมากถึง 70 ล้านบาท 
ส่วนทั้งปีใช้เงินเพียง 410 ล้านบาท 
ลดลง 104 ล้านบาท จากปีก่อนใช้ 514 ลบ.
.
“เราพูดกันในองค์กร 
เราใช้ระเบิดนิวเคลียร์ลูกใหญ่ๆ 
ลงทุนเยอะๆ ตู้ม!เดียวเข้าไปในตลาด
ให้เกิด Impact ยอดขาย 
แต่ 2 ปีนี้ เราเห็นว่าไม่คุ้ม 
จึงมีนโยบายทำแคมเปญย่อย
เจาะแต่ละกลุ่มโดยตรง 
ใช้เงินน้อยแต่มีประสิทธิภาพ”
.
ย้อนไปช่วง 5 ปีก่อน 
อิชิตัน ขยายธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียว
ที่ “อินโดนีเซีย” 
ลงขันกับ 2 ยักษ์ใหญ่ทั้งมิตซูบิชิฯ ญี่ปุ่น 
และเจ้าของอัลฟ่ามาร์ท ร้านสะดวกซื้อ
ที่มีสาขามากสุดในอินโดนีเซีย 
ตั้งบริษัทร่วมทุน จดทะเบียนกว่า 1,000 ลบ.
ตั้งเป้าขายสินค้าให้ติด Top 10 ใน 5 ปี
.
แต่ความเป็นจริงสวนทางกับความคาดหวัง 
เพราะยอดขายลดลง! 
จาก 4,500 รูเปียห์ เหลือ 3,900 รูเปียห์ 
ลูกค้ายังไม่ซื้อ ออกสินค้าใหม่
รสชาติเหมือน “คู่แข่ง” ก็ยังไม่โดนใจ 
เพราะโจทย์ใหญ่สุดคือ 
“การจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า” 
สู้คู่แข่งไม่ได้ จึงงัดทุกกลยุทธ์
ให้ “อิชิตัน” ตายไปก่อน
.
หมากใหม่ของ “คุณตัน” 
เกิดจาก “Sense” การตลาดแม่น! 
ทุกครั้งที่เท้าแตะสนามบิน 
สังเกตเห็นร้าน “ชานมไทย” 
Dum Dum(ดื่มดื่ม) ราคาแพง!! 
แต่ขายดิบขายดีมาก 
รอบแรกไปร้านมี 40 สาขา 
ไปเยือนอีกครั้งมีเป็น “ร้อยสาขา”
.
สุดท้าย สูตรพลิกธุรกิจ 
“ขาดทุน” ให้มี “กำไร” 
ตัดสินค้าเดิมออกและปั้น“ชานมไทย”ทำตลาด 
.
ส่วนการทำการตลาด 
“คุณตัน”ยังใช้ “ตัวเอง” เป็น Personal Brand 
สะท้อนเจ้าตลาด “ชานมไทย” ตัวจริง 
ทั้งชงชา ขับตุ๊กตุ๊กที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย 
จัดโปรโมชั่นรหัสใต้ฝาชิงโชค
ชวนชาวอิเหนามาเที่ยวไทยกระตุ้นยอดขาย 
กอบกู้สถานการณ์ธุรกิจให้ดีขึ้น
.
การลงทุนอินโดนีเซีย เป็นมรสุมลูกโต
ทำให้ขาดทุนมาในช่วง 2-3 ปี
แต่ระยะยาว คงพลิกฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอน 
และนี่คือการเดินอีกก้าวหนึ่งของ “คุณตัน”
เพื่อนำพา “อิชิตัน” ให้พ้นจากวิกฤติ
เฮ่ย! มันเป็นแบบนี้ได้ไงฟ่ะ
.
ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น
www.facebook.com/chatchaitalk
Tel.092-387-1241 , Line ID : ChatTalks
Email : kittisak1241@yahoo.com

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

Heineken 0.0 เบยร์ไม่มีแอลกอฮอลล์ แกกกฏโฆษณา และฉีกภาพเบียร์ในตำนาน

เมื่อ 11 Street โดยซื้อโดยเสี่ยกึ้ง…เฉลิมชัย มหากิจศิริ

สงคราม ‘อีคอมเมิร์ซ’ เป็นมากกว่าแย่งยอดขาย แต่คือศึกชิง Data ธุรกรรมนักช้อป

เปิดที่มากว่าจะมาเป็น “รีเจนซี่” บรั่นดีไทย