ยักษ์ค้าปลีกยึดแผนลงทุน 5 ปีมุ่ง ‘มิกซ์ยูส’ ปั้นแลนด์มาร์ก เสริม สมาร์ตรีเทล

อุตสาหกรรมค้าปลีกหนึ่งในเซกเตอร์สำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แม้อยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่เปราะบาง และแรงกดดันจากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ “การลงทุน” ยังขยายตัวต่อเนื่อง เพื่อชิง “ทำเลงาม” ปักหมุดบิ๊กโปรเจกต์ ส่วนร้านขนาดเล็กยังเร่งขยายสาขา

ณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ฉายภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไทยในปี 2568 มีปัจจัยท้าทายจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ กำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศยังไม่ฟื้นจากปัญหาหนี้ครัวเรือน อย่างไรก็ดี ธุรกิจค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว การส่งออก การลงทุนภาครัฐ และภาคเอกชนไทย และต่างชาติ ทำให้มีมุมมองเชิงบวกในการขยายตัวดีที่ระดับ 3-5% สูงกว่าจีดีพีประเทศไทย ที่ประเมินว่าจะขยายตัว 2.3-3.3%

.

ทั้งนี้ ท่ามกลางตลาดการค้าที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องปรับตัวมุ่งใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็น สมาร์ตรีเทล (Smart Retail) สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าในแต่ละเซกเมนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

:: ภาพรวมค้าปลีก 67 ::

ภาพรวมค้าปลีกตลอดปี 2567 พบว่าปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ผลจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีจากภาครัฐ แต่เป็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ และไม่สมดุล ทั้งประเภทร้านค้าปลีก และประเภทภูมิภาคเมื่อเทียบกับปี 2566 โดยร้านค้าปลีกประเภทแฟชั่น-ไลฟ์สไตล์, สเปเชียลตี้สโตร์,และเชนภัตตาคาร ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม เติบโต 3-7%, ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ตกแต่ง ซ่อมบำรุง เติบโต 2-5%  ส่วนร้านค้าสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค โตน้อยสุด 1-3% โดยเป็นการเติบโตแบบกระจุกตัวในกรุงเทพฯปริมณฑล ภาคตะวันออก และในเมืองตามจังหวัดท่องเที่ยวเท่านั้น

.

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อภาคครัวเรือน และผู้ประกอบการค้าปลีกในปีนี้ อาทิ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นตามที่ภาครัฐคาดการณ์ไว้ ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกเกินกว่า 37% ผลิตหรือสต๊อกสินค้าเกินความเหมาะสมไว้ก่อนแล้ว, การหดตัวด้านการลงทุน ที่ส่งผลต่ออัตราการจ้างงาน และการบริโภค,หนี้ครัวเรือนสูง และภาระหนี้สินของเอสเอ็มอี รวมทั้งมาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ชัด และยังต้องรอความชัดเจนในเฟสต่อไปที่จะแจกให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มอื่นๆ ประกอบกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจกว่า 5-6 หมื่นล้านบาท

:: เปิดเซ็นทรัลกระบี่ - ดีเดย์ “เซ็นทรัลพาร์ค” ::

สำหรับเซ็นทรัลพัฒนา ได้ประกาศแผนลงทุนต่อเนื่อง ภายใต้งบ 121,000 ล้านบาท (2567-2571) มุ่งมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 5 โครงการ หรือเฉลี่ยลงทุนปีละ 20,000-28,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายสร้างผลประกอบการเติบโตเฉลี่ย 10% ช่วง 5 ปีนับจากนี้

.

ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปี 2568 มีสัญญาณบวกจากบรรยากาศการใช้จ่ายในเทศกาลฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และช่วงเวลาของการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐ ตั้งแต่ปลายปี 2567 ทั้งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจกลุ่มเปราะบาง รายละ 10,000 บาท นโยบายดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทย เช่น ฟรีวีซ่า หนุนให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน รวมทั้งมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท นับเป็นแรงส่งต่อเศรษฐกิจและภาคค้าปลีกขยายตัวในครึ่งปีแรก 2568

.

สำหรับ เซ็นทรัลพัฒนา มุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีธุรกิจ “ศูนย์การค้า” เป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงธุรกิจต่างๆ ทั้งที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม โดยปี 2568 เตรียมเปิดบริการ “เซ็นทรัล กระบี่” มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท เป็นแลนด์มาร์กเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวกระบี่ และต้อนรับนักท่องเที่ยว

.

รวมถึงมุ่งทรานฟอร์ม 4 โครงการสำคัญ ได้แก่ เซ็นทรัล บางนา, ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง  รวมทั้ง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต พร้อมเปิดบริการแบรนด์ใหม่ “เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) ในโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค 

:: เดอะมอลล์ ระบุปีแห่งโอกาส และความท้าทาย ::

.

ขณะที่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป อยู่ระหว่างพัฒนาเมกะโปรเจกต์ แบงค็อก มอลล์ (Bangkok Mall) ย่านบางนา มูลค่าลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท ประกอบด้วยศูนย์การค้า ศูนย์ประชุม โรงแรม และสำนักงาน เป็นต้น คาดทยอยเปิดบริการช่วงปี 2570 เป็นต้นไป

.

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปี 2568 เป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และโอกาสสำหรับธุรกิจค้าปลีก ด้วยปัจจัยบวกจากมาตรการของภาครัฐ เช่น E-Receipt 2.0 กระตุ้นการใช้จ่ายเทศกาลตรุษจีนสร้างแรงส่งที่สำคัญต่อบรรยากาศการใช้จ่ายในภาพรวม

.

ทั้งนี้เมื่อประเมินภาพรวมการบริโภคในประเทศไทยกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งคือ ตลาดกลาง เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ รวมถึงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว จากตลาดสำคัญ เช่น จีน ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ ช่วยผลักดันธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชั่น ของที่ระลึก และบริการ ให้ขยายตัวตามนักท่องเที่ยว

.

ทางด้านแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทย ต่างมีความต้องการสินค้า และบริการที่ส่งเสริมสุขภาพ (Health & Wellness) และความยั่งยืน (Sustainability) ถือว่าผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ส่วนธุรกิจที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีในปีนี้ ได้แก่ พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยี ดิจิทัล เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) , คลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing), การท่องเที่ยว และบริการโลจิสติกส์

.

:: เร่งลงทุนเทค เอไอ ทำข้อมูลอินไซด์ สร้างบริการที่ดีสุด ::

ขณะที่แผนการขับเคลื่อนธุรกิจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ อาทิ AI และ AR ร่วมช่วยยกระดับระบบสมาชิกเอ็มการ์ด (Mcard)  และบัตร โค-แบรนด์ (Co-Brand) เดบิต และเครดิต Bangkok Bank M Visa ร่วมสร้างความสะดวกสบาย และมอบประสบการณ์การชอปปิงให้ตรงใจกลุ่มลูกค้า

.

รวมถึงได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากจีน นำรถเข็นอัจฉริยะ จำนวน 200 คัน มาให้บริการที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ตั้งแต่เดือนธ.ค.2567 ที่ผ่านมา โดยความพิเศษของรถเข็นได้ช่วยนำพาไปยังสินค้าที่ต้องการ (Navigation) แสดงยอดรวมการซื้อแบบเรียลไทม์ (Real-time) และรองรับการ เซลฟ์ เช็กอิน (Self-checkout) เพิ่มความสะดวก พร้อมเก็บข้อมูล คอนซูเมอร์ อินไซด์ นำมาปรับปรุงบริการให้ตรงตามพฤติกรรมผู้บริโภค

:: AWC เดินหน้าขยายเอเชียทีคฯ เฟสใหม่ ::

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า  ภาพรวมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีในปี 2568 ซึ่งประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในโลก และได้แรงหนุนจากนโยบายภาครัฐร่วมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีก

.

สำหรับแผนพัฒนาเมกะโปรเจกต์พื้นที่แลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น” มุ่งขยายการลงทุนเฟสใหม่ตามไทม์ไลน์ด้วยงบลงทุนมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท หนึ่งในนี้กำลังศึกษาแผนก่อสร้าง “ตึกสูงระฟ้า 100 ชั้น”

.

ขณะเดียวกัน ได้ลงทุน 1,400 ล้านบาท ดึง “จูราสสิค เวิลด์” (Jurassic World: The Experience) จัดแสดงในประเทศไทยครั้งแรก ร่วมสร้างประสบการณ์ความบันเทิงแบบอิมเมอร์ซีฟขนาดใหญ่สุดในโลก บนพื้นที่ 6,000 ตร.ม. เปิดเฟสแรกไตรมาส 2 ปี 2568 ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวนมาก

:: ส่องศูนย์การค้าปี 68 เติบโต ผู้ประกอบการปรับแผนนำข้อมูลทำการตลาดเชิงลึก ::

จักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยาง มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และ ผู้อำนวยการสำนักการตลาด บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจศูนย์การค้าไทยในปี 2568 มีทิศทางขยายตัว โดยผู้ประกอบการต่างมีการวางกลยุทธ์ทำการตลาดอย่างเข้มข้น และเน้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในเชิงลึก เพื่อให้สอดรับกับความต้องการลูกค้าที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

.

“การนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชิงลึก ทำให้สามารถจัดกิจกรรม และนำเสนอด้วยวิธีแตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ของลูกค้าในแต่ละเซกเมนต์ เนื่องจากลูกค้าแต่ละกลุ่มอาจต้องมีความจำเป็นในการใช้จ่ายไม่เหมือนกัน ส่วนกลุ่มลูกค้าระดับฐานราก ต่างให้ความสำคัญในเรื่องราคามากกว่ากลุ่มอื่น”

.

ทางด้านความท้าทายของผู้ประกอบการรีเทล ต้องมุ่งหาจุดแข็งของแบรนด์ เพื่อสร้างแบรนด์ดีเอ็นเอที่โดดเด่น และมุ่งนำเสนอความแตกต่างให้แก่ลูกค้า พร้อมมุ่งรักษาสภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจให้ดีที่สุด เพื่อรักษาวินัยทางการเงินให้ดีต่อเนื่อง

.

สำหรับซีคอนสแควร์ มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงาน 2 มุมเมืองกับ ซีคอน บางแค และซีคอน ศรีนครินทร์ โดยแต่ละศูนย์การค้าต่างมุ่งจัดทำอีเวนต์ และการรีโนเวทพื้นที่ต่างๆ ทุกปี ซึ่งมีทั้งรีโนเวทใหญ่ และเล็ก เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จำเป็นต้องยกระดับศูนย์การค้าให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า ซึ่งไฮไลต์กับซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ที่มีการรีโนเวทครั้งใหญ่ด้วยงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ที่ลงทุนในช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมเปิดโฉมใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2568 ส่วนทางเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีสวนหลวง ร.9 กับศูนย์การค้ามีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต้นปี 2568 เชื่อมั่นว่าจะร่วมดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น

:: สยายปีกแม็คโคร ปูพรม โลตัสโกเฟรช-เซเว่นฯ ::

จากการสำรวจแผนลงทุนของค้าปลีกรายใหญ่เครือซีพี ทั้ง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนลงทุนปี 2568 เตรียมเปิดแม็คโคร 6-8 สาขา และ โลตัส เน้นขยายสาขาขนาดเล็ก โลตัส โก เฟรช 200 สาขา มีพื้นที่ขนาด 300 ตร.ม. ขึ้นไป พร้อมวางแผนระยะยาว 5 ปีข้างหน้า เตรียมขยายพื้นที่เช่าอีก 2 แสน ตร.ม. จากปัจจุบันมีพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าประมาณ 1.5 ล้าน ตร.ม.

.

ทางด้าน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น มองโอกาสร้านสะดวกซื้อในไทยยังมีหลายทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยวางงบลงทุน 12,000-13,000 ล้านบาท ในปี 2568 เพื่อปรับปรุงสาขาเดิม ขยายสาขาใหม่ 700 สาขา รวมถึงลงทุนไอที และคลังสินค้า ปัจจุบันเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขารวม 15,000 แห่งทั่วประเทศ

.

ขณะเดียวกันบริษัทที่มีไลเซนส์เปิดร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในกัมพูชา และลาว โดยในปัจจุบันมี 98 สาขาในกัมพูชา และ 9 สาขาในลาว ซึ่งปี 2568 จะเปิดสาขาในกัมพูชา 10 แห่ง ส่วนลาว ขยายแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากขนาดตลาดไม่ใหญ่มากนัก

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

แก้เกมถูกบล็อค Porn Hub ทวงคืนเว็บดัง

สำนักงานสลากฯ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสลาก ผ่านเว็บไซต์ www.glolotteryshop.comp

เปิดโฉมทางการ ‘เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ’ พร้อม 10 ไฮไลต์เด็ด ปลุกย่านบางกะปิคึก

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชูบริการ Plus Luxury Management ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย

ทำไมกาแฟสมัยนี้ ขายแก้วละ 100 บาท?