แบรนด์ใหญ่จีนบุกหนัก ‘โมชิ โมชิ’ เร่งเครื่องสโตร์ปี 68 รักษาผู้นำ
.
ส่องภาพรวมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย มีการแข่งขันรุนแรงขึ้น จากทั้งแบรนด์ไทย ที่อยู่ในตลาดมายาวนานมีสาขาทั่วประเทศ และการมีแบรนด์ใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา กับ “เคเควี” (KKV) แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่ ได้รุกเปิดสาขาแรกในไทย ต่อมาได้เร่งขยายสาขาไปในหลายทำเลของศูนย์การค้าทั่วประเทศ รวมถึงได้มีการเปิดสาขาในภูมิภาคอาเซียน ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นต้น
.
สง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ผู้บริหารร้าน โมชิ โมชิ กล่าวว่า ภาพรวมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ มีการแข่งขันมากขึ้น จากผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามาเร่งขยายสาขา โดยแต่ละแบรนด์ต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกัน รวมถึงต้องติดตามภาพรวมเศรษฐกิจไทย และกำลังซื้ออย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น แต่จุดที่แตกต่างของ โมชิ โมชิ มาจากทั้ง การมีสินค้าที่ออกแบบและพัฒนาเอง ในสัดส่วน 90% ทำให้บริษัทมีแผนขยายธุรกิจในปี 2568 เตรียมเปิดสาขาใหม่จำนวน 40 แห่ง เน้นการเปิดสโตร์สาขาเดี่ยวมากขึ้น และนำเสนอโมเดลแบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ด้วยพื้นที่กว่า 300 ตร.ม. เพิ่มการตกแต่งร้านและขยายสินค้าใหม่ ซึ่งสาขาแรกเตรียมเปิดได้ในต้นปี 2568.
แนวทางการเปิดสโตร์สาขาเดี่ยวมากขึ้น เนื่องจากผลตอบรับจากการเปิดในช่วงที่ผ่าน สร้างผลประกอบการที่ดี และเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่า นอกจากการขยายสาขาในประเทศไทย ได้วางแผนรุกไปในตลาดอาเซียนภายในปี 2568 เช่นกัน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาใน 2 ประเทศ และอาจเป็นการร่วมลงทุนกับพันธมิตร
.
อีกทั้งวางแผนธุรกิจในปี 2568 เตรียมนำเสนอสินค้าใหม่กว่า 1.5 หมื่นรายการ พร้อมวางเป้าหมายสร้างการเติบโตในแบบ “คอนเซอร์เวทีฟ” ขยายตัวประมาณ 15-20% จากในปี 2567 จากการมีหลายปัจจัยต้องประเมินอย่างต่อเนื่อง
.
ทางด้าน ศุภรดา โรจน์วัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เสริมว่า ภาพรวมสาขาของโมชิ โมชิ ที่เปิดให้บริการในรีเทลต่างๆ เมื่อมีแบรนด์ใหม่เข้ามาเปิดในพื้นที่ใกล้ๆ กัน แต่สาขาของโมชิ โมชิ ยังสามารถสร้างการเติบโต 8-10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงบริษัทมีความแข็งแกร่งในตลาด
.
อีกทั้งได้มีการขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้ากลุ่มใหม่ ที่เน้นพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับเทรนด์ของตลาดและความต้องการกลุ่มลูกค้า ผสมด้วยการเป็นสินค้าที่อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน พร้อมได้มีการขยายสู่สินค้าเครื่องสำอางและความงาม ภายใต้แบรนด์ “Momora”
.
รวมถึงได้มุ่งเสริมแกร่งให้สินค้ามีความโดดเด่นมากขึ้น ผ่านความร่วมมือกับ ศิลปินไทย มาร่วมออกแบบ และขยายความร่วมมือกับแบรนด์ดังนำเสนอสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ ร่วมสร้างสีสันให้แก่ลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยว ซึ่งในทำเลท่องเที่ยวมีลูกค้าจากจีนจำนวนมากเข้ามาใช้บริการ และสาขาในภาคใต้ที่มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย มาซื้อสินค้าเช่นกัน
.
สำหรับภาพรวมกำลังซื้อในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา โดยเมื่อประเมินช่วงเดือน พ.ย. ผลประกอบการจากสาขาเดิม มีการเติบโตประมาณ 20% ส่วนสาขาทั้งหมดที่เปิดให้บริการในสิ้นปีนี้ ครอบคลุม 159 สาขา อยู่ใน 62 จังหวัด พร้อมประเมินผลประกอบการโดยรวมในปีนี้ จะเติบโต 15-20% รักษาความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของไทย
.
“ในช่วงต้นปี 2567 ตั้งเป้าหมายขยายสาขาใหม่ 20 สาขา แต่ในรอบปี ได้รุกเปิดสาขาเพิ่มขึ้นและมีหลายทำเลมีศักยภาพ ทำให้ทั้งปีได้เปิดสาขาใหม่ได้ทั้งหมด 34 สาขา สูงเกินแผนที่วางไว้แล้ว”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้