7-11 รุกหนักปี 68 คอลแลปซุปตาร์สุดฮอต “หมีเนย” ปลุกพลังความปัง

“เซเว่น อีเลฟเว่น” รุกตลาดหนักในช่วงต้นปี 68 ร่วมคอลแลป “หมีเนย” ซุปตาร์ที่กำลังมาแรง เจาะฐานลูกค้าแฟนๆ คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดันลูกค้า ยอดขายไตรมาสแรกโตต่อ - ประเมินปี 68 เซเว่น อีเลฟเว่น ยังวางแผนขยายสาขาประมาณ 700 แห่งทั่วประเทศ พร้อมรุกกัมพูชา-ลาว ต่อเนื่อง

.

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ได้มีการวางแผนธุรกิจในปี 2568 ด้วยงบลงทุนเบื้องต้น 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาระบบไอที คลังสินค้า รีโนเวทสาขาเดิม และการเปิดสาขาใหม่ ประมาณ 700 สาขา ใกล้เคียงกับปี 2567 จากในปัจจุบันมีจำนวนกว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศแล้ว

สำหรับตลาดต่างประเทศ มีสาขาทั้งประเทศกัมพูชา และลาว โดยกัมพูชา มีจำนวน 98 สาขา และลาว จำนวน 9 สาขา ซึ่งปี 2568 วางแผนเปิดสาขาในกัมพูชา 10 แห่ง ส่วนลาว จะค่อยๆ ขยายสาขาไปในทำเลต่างๆ ที่มีศักยภาพ

.

สำหรับการใช้จ่ายของลูกค้าในแต่ละสาขา โดยในปีก่อน มียอดลูกค้าซื้อสินค้าแต่ละวัน เฉลี่ยประมาณ 84 บาทต่อคนต่อใบเสร็จ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในแต่ละสาขาประมาณ 964 คนต่อสาขาต่อวัน สร้างยอดขายในแต่ละสาขาประมาณ 81,781 บาทต่อสาขาต่อวัน

.

สัดส่วนยอดขายสินค้า มาจากกลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม ประมาณ 76.3% ส่วนที่เหลือมาจากสินค้า ของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในบ้าน และอื่นๆ 23.7%  ทางด้านอัตราการทำกำไรสุทธิ (Product margin) ของสินค้ากลุ่ม นอนฟู้ดส์ อยู่ที่ 29% และ ฟู้ดส์ 27.2% เฉลี่ยรวมที่ 27.7%

เจาะแผนการขยายตลาดของ เซเว่น อีเลฟเว่น ในช่วงต้นปี 2568 ได้ประกาศแผนร่วมมือ คอลแลป ครั้งใหม่กับ หมีเนย (ButterBear) ในการทำแคมเปญ “เพื่อนที่ฮีลใจใกล้ๆ คุณ” ร่วมทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่เป็นเรื่องราวของ หมีเนย ได้แปลงโฉมสู่พนักงานร้านเซเว่น อีเลฟเว่น พร้อมเป็นเพื่อนๆ ดูแลทุกคนที่เข้ามาในร้าน

.

รวมถึงได้จัดทำสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ ของหมีเนย ให้แฟนๆ ได้สะสม ผ่านสาขา และช่องทางออนไลน์ ส่วนทั้งมุมของเครื่องดื่มกับ “ออลคาเฟ่” ได้ออกแบบแก้วเครื่องดื่มที่มีคอลเลคชั่นของ หมีเนย เช่นกัน

.

ทั้งนี้ การคอลแลปครั้งสำคัญของ เซเว่น อีเลฟเว่น ในครั้งนี้ นับเป็นห้างค้าปลีกรายแรก ที่ได้ทำสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษร่วมกัน จากที่ผ่านมา หมีเนย จะมีการคอลแลปกับสินค้าแบรนด์ต่างๆ รวมถึงการไปออกอีเวนต์ในรีเทลต่างๆ มาตลอด

.

หากสำรวจการคอลแลปส์ (Collaboration Marketing) ของเซเว่น อีเลฟเว่น ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการดึงซูเปอร์สตาร์หลากหลายวงการ มาร่วมทำแคมเปญมาโดยตลอด ทั้งในช่วงปีก่อน ได้ร่วมมือกับศิลปินเคป็อป (K-POP) ชื่อดังระดับโลก ทั้ง “แจ็คสัน หวัง” หรือ แจ็คสัน สมาชิกจากวง GOT7 ควงคู่กับ “เตนล์” ชิตพล ลี้ชัยพรกุล ไอดอลเคป็อปไทยคนแรก จากค่าย SM Entertainment สมาชิกจากวง NCT / WayV ร่วมทำแคมเปญใหม่ “เสน่ห์ความเป็นไทย” นำเสนอเมนูอาหารไทย และขนมไทย ใน 4 ภาค พร้อมจัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ป้ายแคมเปญใหม่ และป้ายบิลบอร์ดทุกมุมเมือง เพื่อร่วมปลุกพลังซอฟท์พาวเวอร์ของอาหารไทยไปสู่กลุ่มลูกค้าคนไทยและทั่วโลก

.

นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเสนอความสวยงามและเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ประเพณี อาหาร ของดีจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ผ่านการดึงคาแรกเตอร์การ์ตูนยอดนิยมในโลก โดราเอมอน, โนบิตะ, ชิซุกะ, ไจแอนท์, ซึเนโอะ และโดเรมี นำเสนอแคมเปญ “แสตมป์เสน่ห์ไทย ใครๆ…ก็หลงรัก” โดยคาแรกเตอร์การ์ตูนได้ร่วมแต่งชุดไทยครั้งแรก ผ่านสแตมป์ในจังหวัดทั่วประเทศไทย ร่วมขยายตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

.

ทั้งหมดสะท้อนถึง การรุกตลาดของ เซเว่น อีเลฟเว่น โดยไม่ได้มุ่งขยายตลาดเฉพาะลูกค้าในประเทศไทย แต่วางแผนร่วมดึงลูกค้าทั่วโลกและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการในสาขาเพิ่มขึ้น

.

สำหรับ หมีเนย (ButterBear) ซุปตาร์ที่มาแรงในปัจจุบัน ด้วยคาแรกเตอร์มีความคิวบ์และพลังความสนุกสนาน จึงได้รับความสนใจจากลูกค้ามากมาย สร้างฐานพลังแฟนด้อมที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปี 2567 ครองอันดับ 3 ยอดเอนเกจเมนต์ที่ทุกคนพูดถึงผ่านโลกโซเชียลในประเทศไทย จากการรวบรวมข้อมูลของ บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) (Wisesight) ด้วยยอดสูงถึง 137 ล้านเอนเกจเมนต์ เป็นรองจาก อันดับหนึ่งคือ หมูเด้ง และอันดับสองกีฬาโอลิมปิก อีกทั้งยังกวาดรางวัลหลายเวทีของประเทศไทย

.

อีกทั้งล่าสุดได้ออก ซิงเกิลใหม่ ฮีลใจ (Here For You) และยังโกอินเตอร์ บินลัดฟ้าไปพบกับแฟนๆ ชาวจีน ในงาน China Fan Meeting ที่ศูนย์การค้าจิงเฟิง นครหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีนแล้ว