‘ศรีฟ้าเบเกอรี่’ จากเค้กภูธร สู่ธุรกิจ ‘พันล้าน’ ตั้งเป้าเบอร์ 1 เบเกอรี่อบสด ไปให้ถึง 500 สาขา

“ศรีฟ้าเบเกอรี่” ร้านเบเกอรี่ของฝากประจำจังหวัดกาญจนบุรี ที่มี “เค้กฝอยทอง” เป็นสินค้าซิกเนเจอร์คู่กาย จากร้านมีชื่อในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ปัจจุบันเครือศรีฟ้าเบเกอรี่ในนาม “ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด” แตกไลน์ธุรกิจ OEM รับจ้างผลิตให้ยักษ์รีเทลระดับประเทศ ทั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น แม็คโคร และโลตัส
.
รวมทั้งยังมีปีกธุรกิจที่ร่วมทุนกับ “ไมเนอร์ ฟู้ด” ในชื่อ “Art of Baking” และเมื่อเร็วๆ นี้ยังปิดดีลกับ “Europastry” ยักษ์เบเกอรี่แช่แข็งสัญชาติสเปน เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในไทยด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท
.
ที่พูดมาทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้นจากเบเกอรี่ห้องแถวเล็กๆ เมื่อ 39 ปีที่แล้ว โดยมี “วิเชียร เจนตระกูลโรจน์” เป็นผู้ก่อตั้ง กระทั่งธุรกิจเติบใหญ่เตะตาทีมงานจาก “เซเว่น-อีเลฟเว่น” จุดหักเลี้ยวที่ทำให้ “ศรีฟ้าเบเกอรี่” เป็นมากกว่าร้านขายของฝากจากเมืองกาญจน์ พอดีกับช่วงรอยต่อที่ “อาร์ท-พีรวัส เจนตระกูลโรจน์” ลูกชายคนโตเข้ามาดูแลธุรกิจศรีฟ้าเบเกอรี่ร่วมกับวิเชียรผู้เป็นพ่อ
แม้ “อาร์ท” จะบอกว่า ตนไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบทายาท ไม่ได้ถูกวางกรอบให้เข้ามารับช่วงกิจการ แต่งานแรกที่เลือกทำหลังเรียนจบ คือการเข้ามาสานต่อโปรเจกต์ที่คั่งค้างไว้หลังนำเสนอผู้เป็นพ่อในช่วงทำวิทยานิพนธ์ปริญญาตรี
.
“อาร์ท” บอกว่า แม้ตอนนั้นธุรกิจจะมีแนวโน้มเติบโตดีมากแต่ปัญหาก็เยอะมากเช่นกัน คุณพ่อจึงเปิดโอกาสให้เสนอแผนงาน หลังจากนั้นก็เป็นช่วงสร้างโรงงานเพื่อก่อร่างธุรกิจ OEM อย่างจริงจัง ธุรกิจที่บ้านจึงกลายเป็นงานแรกและงานเดียวที่ทำมาตั้งแต่เรียนจบจากภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยมหิดล
.
:: เรียนฟู้ดไซน์เพราะเชื่อในธุรกิจอาหาร เศรษฐกิจไม่ดีแค่ไหนคนก็ต้องกิน ::
เลือกเรียนสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร หรือ “Food Science” เพราะมีความเชื่อว่า ธุรกิจอาหารเป็นปัจจัยสี่ เศรษฐกิจเป็นอย่างไรคนก็ยังต้องกิน อาร์ทเล่าว่า ตนเองเชื่อเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก เชื่อว่าอุตสาหกรรมอาหารจะอยู่ยงคงกระพันไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้คิดว่า ต้องเรียนเพื่อกลับมาสานต่อกิจการที่บ้าน ทว่า อาจเพราะเห็นและคลุกคลีกับธุรกิจอาหารมาตั้งแต่จำความได้
“อาร์ท” เล่าย้อนชีวิตในวัยเด็กให้ฟังว่า ภาพจำของเขา คือทุกๆ ปิดเทอมจะไม่อยากกลับบ้าน เพราะ “ป๊า” จะไม่ให้อยู่เฉยๆ ชอบให้ลุกไปทำงาน สมัยก่อนบ้านกับโรงงานเบเกอรี่อยู่ในห้องแถวตึกเดียวกัน ถึงเวลาปิดเทอมอาร์ทจะขอไปนอนบ้านเพื่อนเป็นประจำ ซึ่งในบรรดากลุ่มเพื่อนสนิทก็มีกิจการที่บ้านหลากหลายประเภท บางคนครอบครัวทำธุรกิจสิ่งทอและเสื้อผ้า บางคนทำเครื่องเสียงรถยนต์
.
ภาพที่เห็นเป็นวิวัฒนาการตามวันเวลา คือหลายบ้านมีอันต้องปิดกิจการ บ้างก็ทยอยล้มหายตายจากเพราะโดนตีตลาดจนรายเล็กอยู่ไม่ได้ แต่ในทางตรงกันข้ามธุรกิจเบเกอรี่ที่บ้านอาร์ทกลับโตวันโตคืน ไม่นานก็ได้ฤกษ์เปิดสาขาใหม่ มีโรงงานแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีก “อาร์ท” บอกว่า ในวัยเด็กไม่ได้มีความคิดอยากกลับไปช่วยงานที่บ้าน เพียงแต่เห็นว่า ขายเบเกอรี่แล้วมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เป็นสาเหตุที่ตัดสินใจปักธงอยากเรียนฟู้ดไซน์ตั้งแต่นั้นมา
.
“อาร์ท” บอกว่า “ป๊า” ไม่เคยบังคับให้กลับมาทำงานที่บ้าน ทว่า จังหวะเวลาเป็นใจในช่วงใกล้เรียนจบทำให้ตนมีโอกาสเข้าไปช่วยงานในโรงงาน ขายดีมากแต่ปัญหาก็เยอะมากเช่นกัน จากที่คิดว่าจะออกไปหาประสบการณ์ทำงานบริษัทอื่นสัก 3-4 ปี กลายเป็นได้กลับมาทำงานที่ศรีฟ้าเบเกอรี่ตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบัน
.
“ตอนนั้นเขากำลังสร้างโรงงานผลิตเค้กฝอยทองให้กับเซเว่น-อีเลฟเว่น ช่วงเรียนจบทำวิทยานิพนธ์ผมกลับมาอยู่บ้าน ก็ตามสไตล์ป๊าเขาจะบังคับให้เข้าโรงงาน ทำงาน เราก็เห็นปัญหาเยอะมาก พอไปบอกว่า ควรทำแบบนี้นะ เขาก็ถามกลับมาว่า แล้วให้ป๊าทำไง มีวิธีแก้มั้ย มีอะไรเสนอมั้ย ทำไป 1-2 โปรเจกต์ก็เริ่มพัวพัน เริ่มทำงานกับพี่ๆ ที่โรงงาน ที่ออฟฟิศ โรงงานใหม่ก็กำลังจะขึ้นด้วยเลยทิ้งไม่ลงก็เลยยาวมาจนถึงตอนนี้”
.
:: ดัน “เค้กฝอยทอง” เข้า 7-11 จุดเริ่มต้นอาณาจักร OEM เบอร์ต้นเมืองไทย ::
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนก้าวขึ้นสู่บทบาทผู้เล่นระดับประเทศ เป็นจังหวะเวลาที่ “อาร์ท” เรียนจบ-ตัดสินใจเข้ามาทำงานที่ศรีฟ้าพอดี เขาเล่าว่า จุดเริ่มต้นธุรกิจรับจ้างผลิตเกิดขึ้นเมื่อปี 2548 “ศรีฟ้าเบเกอรี่” มีชื่อเสียงในจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และนครปฐม หากแวะมาซื้อของฝากที่ร้าน ต้องได้ “เค้กฝอยทอง” ติดมือกลับไปแทบทุกราย
.
ตอนนั้นพอร์ชันการขายเค้กฝอยทองมีขนาด 1 ปอนด์ แบ่งเป็น 6 ชิ้น โดยที่ร้านจะตัดแบ่งชิ้นเล็กๆ ให้ลูกค้าได้ชิมก่อน จากนั้นก็เริ่มพัฒนาเค้กฝอยทองชิ้นเล็กเสิร์ฟตามงานจัดเลี้ยง สัมมนา เทรนนิ่ง ฯลฯ ปรากฏว่า กลุ่มที่มาสัมมนาในเมืองกาญจน์แล้วได้มีโอกาสชิมเค้กฝอยทอง คือกลุ่มคนทำงานแผนกจัดซื้อจาก “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ฝ่ายจัดซื้อเข้ามาติดต่อชักชวนให้นำเค้กฝอยทองเข้าไปวางขายที่เซเว่นฯ “วิเชียร” มองเป็นโอกาสทอง แต่ติดปัญหาอยู่อย่างเดียว คือกำลังการผลิตของศรีฟ้าในตอนนั้นไม่เพียงพอ
.
หลังจากนั้นเซเว่น-อีเลฟเว่น ตามตื๊ออยู่อีก 1-2 ปี กระทั่ง “วิเชียร” ใจอ่อน ตัดสินใจซื้อที่ดินผืนใหม่สร้างโรงงานผลิตเค้กฝอยทองป้อนเข้าเซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นจุดเริ่มต้นปีกธุรกิจ OEM ของศรีฟ้าเบเกอรี่ จะบอกว่า เป็นความโชคดีที่วิเชียรตัดสินใจเร็วก็ย่อมได้ เพราะยุคนั้นยังไม่มีโรงงานที่ได้มาตรฐานและมีกำลังการผลิตสูงมากนัก ทำให้ “ศรีฟ้าเบเกอรี่” ได้รับโอกาสจากยักษ์รีเทลอีกหลายแห่ง ไม่ได้มีแค่เซเว่น-อีเลฟเว่นเจ้าเดียว แต่บรรดาค้าปลีกรายใหญ่ที่ต้องการเบเกอรี่ขึ้นไปอยู่บนชั้นวางสินค้า ต่างก็นึกถึงศรีฟ้าเป็นตัวเลือกแรกๆ
.
“พอเราขายให้เซเว่น-อีเลฟเว่น ทีนี้โลตัส แม็คโครก็ติดต่อเข้ามาด้วย เมื่อ 20 ปีที่แล้วโรงงานลักษณะนี้ไม่มีเลยทำให้เราโตเร็วมาก เพราะเราเป็นโรงงานที่มีความชำนาญ มีมาตรฐานที่บรรดาค้าปลีกรายใหญ่ต้องการ พอขายเซเว่นฯ ได้ก็ขายห้างอื่นได้เหมือนกัน ชื่อเสียงเราในวงการเบเกอรี่ก็ดีขึ้น ตอนนั้นใช้งบลงทุนไป 180 ล้านบาทถือว่าเยอะมากแล้วในยุคนั้น คุณพ่อเป็นคนใจกล้า”
.
ฟังดูเหมือนทุกอย่างโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ในความเป็นจริงทั้งอาร์ทและพ่อใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีกว่าทุกอย่างจะลงตัว เพราะกลายเป็นว่า กำลังการผลิตของโรงงานล้นเกินกว่าความต้องการไปมาก แม้จะผลิตเค้กฝอยทองเข้าเซเว่น-อีเลฟเว่นวันละ 30,000 ชิ้น บวกกับป้อนเบเกอรี่หน้าร้านศรีฟ้าเบเกอรี่อีกสิบกว่าสาขา แต่กำลังการผลิตของโรงงานในแต่ละวันก็ยังมากกว่าความต้องการไปอีก 6-7 เท่า
.
วิธีเดียวในการจัดการภาวะ Over-demand คือนำกำลังการผลิตที่เหลือไปวิ่งเสนอขายให้ห้างอื่นๆ โดยมี “อาร์ท” ทำหน้าที่ฝ่ายขาย นอกจากเค้กฝอยทองแล้วโรงงานยังผลิตขนมประเภทอื่นได้อีก อาทิ บราวนี่ มัฟฟิน คัพเค้ก เค้กถาด โรลฝอยทอง ฯลฯ ข้อดีของการเข้าเซเว่น-อีเลฟเว่น แปลว่า กระบวนการทุกอย่างผ่าน QC มาหมดแล้ว ทำให้ห้างใหญ่ๆ ไว้ใจ เชื่อใจ ใช้เวลาราว 2 ปีจึงกลับมาอยู่ในจุดที่สภาพคล่องดี ธุรกิจมีกำไร
.
ปัจจุบันศรีฟ้าในนาม “ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด” รับจ้างผลิตให้ค้าปลีกรายใหญ่ 3 เจ้า ได้แก่ เซเว่น-อีเลฟเว่น แม็คโคร และโลตัส คิดเป็นสัดส่วนทำเงินให้กับธุรกิจราว 40% ส่วนรายอื่นๆ มีไมเนอร์ ฟู้ด กาแฟพันธุ์ไทย ซีพีแรม เอสแอนด์พี เป็นต้น
.
:: “ชีสเค้กเซเว่น” ตัวพลิกเกมช่วงโควิด ขายได้เดือนละ “1 ล้านชิ้น” ::
ทายาทรุ่นที่ 2 บอกว่า นับจนถึงปัจจุบันสินค้าที่ผลิตเข้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นรวมๆ แล้วมีนับร้อยตัว ทั้งที่ยังขายอยู่ในร้านรวมถึงสินค้าที่ออกจากร้านแล้วกลับเข้ามาขายใหม่ สำหรับสินค้าที่เป็น “Hero Product” ตลอดกาลคงหนีไม่พ้น “เค้กฝอยทอง” ยืนหนึ่งขายในเซเว่น-อีเลฟเว่นมาตั้งแต่ปี 2552 และ “ชีสเค้ก” ขนมที่เคยสร้างปรากฏการณ์เกลี้ยงเชลฟ์ในช่วงโควิด-19 เคยทำยอดขายได้มากที่สุดเดือนละ 1 ล้านชิ้น
.
ชีสเค้กที่ขายในเซเว่น-อีเลฟเว่นอยู่ในกระบวนการ R&D ตั้งแต่ก่อนโรคระบาดใหญ่เกิดขึ้น นอกจาก “เค้กฝอยทอง” ศรีฟ้ามีโปรดักต์ในเซเว่น-อีเลฟเว่นอีกหลายรายการ อาทิ เค้กมะพร้าว เค้กทุเรียน เค้กใบเตย เป็นต้น
.
กระทั่งปี 2562 “อาร์ท” มีโอกาสไปเยี่ยมโรงงานผลิตชีสเค้กที่เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เขาสนใจนำชีสเค้กของบริษัทดังกล่าวมาขายในไทย แต่จะพาข้ามน้ำข้ามทะเลก็ต้องเจอกับต้นทุนอีกมาก จึงชักชวนบริษัทญี่ปุ่นเซ็น MOU ส่งคนมาสอนผลิตชีสเค้กให้ได้คุณภาพแบบเดียวกัน ปรับให้มีขนาดเล็กพอที่จะวางขายในเซเว่น-อีเลฟเว่นได้
.
แม้โรงงานจะได้มาตรฐาน มีกำลังการผลิตด้วยสเกลระดับประเทศ แต่กว่าจะจีบติดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ใช้เวลาราว 6 เดือนกว่าทางนั้นจะยอมใจอ่อน “อาร์ท” บอกว่า ตอนนั้นตนไปคุยกับทีมทำงานหลังบ้านไว้เยอะมาก เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพตรงกันว่า โปรเจกต์นี้สำคัญกับบริษัทมากขนาดไหน ถ้าสำเร็จจะสร้างชื่อให้ศรีฟ้าได้อย่างไร ทุกคนจึงกระตือรือร้น-ตอบสนองทีมญี่ปุ่นทันท่วงที
.
“โรงงานผมทำงานแบบใกล้ชิดกับพนักงานมาก ก็จะมี DNA เจ้าของที่ส่งต่อโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามไปยังบรรดาผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการต่างๆ ทำให้เขาทำงานด้วยมายด์เซ็ตแบบผู้ประกอบการ รักลูกค้า แคร์ลูกค้า ต่อมา คือเรื่องความหลากหลาย เดิมเราเป็นโรงงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อผลิตสินค้าเข้าไปขายในร้านตัวเอง ต้องผลิตได้ทั้งเค้ก พาย ครัวซอง คุกกี้ ทองม้วน เราสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ร้านเบเกอรี่ของเราเอง เลยทำให้มีโปรดักต์กลุ่มเบเกอรี่ครบ”
.
ปรากฏว่า “ชีสเค้ก” ที่อาร์ทหมายมั่นปั้นมือประสบความสำเร็จกว่าที่คาดไว้มาก ผลิตได้สูงสุดวันละ 40,000 ชิ้น สร้างยอดขายได้สูงสุด 1 ล้านชิ้นต่อเดือน ยืนระยะด้วยจำนวนแบบนั้นนานกว่า 3 เดือน แล้วก็เป็นไปตามไซเคิลของเทรนด์ขนมหวานที่ค่อยๆ ลดหลั่นลงมา แต่ก็ยังถือเป็นจำนวนที่สูงอยู่ดีเมื่อเทียบกับโปรดักต์อื่นๆ ปี 2563 “ชีสเค้ก” กลายเป็นโปรดักต์ทำเงินสูงสุดให้กับ บริษัท ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด จำกัด
.
:: ฝันสูงสุดเป็นเบเกอรี่อบสดเบอร์ 1 หมวกอีกใบกำลังจะเป็นผู้เล่นระดับโลก ::
ปัจจุบันเครือศรีฟ้าเบเกอรี่มีธุรกิจหลักๆ 2 ส่วน คือ “ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด” มีธุรกิจรับจ้างผลิต และศรีฟ้าเบเกอรี่เป็นธุรกิจรีเทลและแฟรนไชส์ขายขนมเบเกอรี่อบสดหน้าร้าน ตอนนี้มีทั้งหมด 65 สาขา เป้าหมายสูงสุดต้องการผลักดันไปให้ถึง “500 สาขา” ในฐานะเบเกอรี่อบสดเบอร์ 1 ของไทย หากเทียบเฉพาะตลาดเบเกอรี่อบสดหน้าร้านมีเพียงไม่กี่เจ้าที่ทำผลงานโดดเด่น “อาร์ท” เชื่อว่า ศรีฟ้าเบเกอรี่มีศักยภาพมากพอจะไปยืนอยู่ตรงนั้น
.
กลยุทธ์ของ “ศรีฟ้าเบเกอรี่” คือการกระจายกำลังอยู่นอกห้างสรรพสินค้าทุกสาขา ในอดีตเคยเปิดในห้างและพบว่า น่าจะไม่ใช่ทางของแบรนด์ สุดท้ายการออกมาอยู่นอกห้างเป็นผลดีกับธุรกิจมากกว่า “อาร์ท” วิเคราะห์ว่า กลุ่มเป้าหมายของศรีฟ้าไม่ได้อยากเข้าห้างทุกวัน จึงเลือกเปิดตามแหล่งชุมชนและพบว่า ทำยอดขายได้ดี คนเข้ามาหาที่ร้านได้ง่ายกว่า
.
ร้านศรีฟ้าเบเกอรี่ยืดหยุ่นเวลาเปิดปิดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในพื้นที่นั้นๆ บางสาขาเปิดเช้าปิดเร็ว บางแห่งเปิดสายหน่อยแต่ปิดดึก “อาร์ท” บอกว่า กลุ่มเป้าหมายหลักของศรีฟ้าเบเกอรี่ คือคนรายได้ปานกลางถึงปานกลางล่าง ขนมที่ร้านจึงมีราคาย่อมเยา เข้าถึงง่าย ซื้อให้ลูกกินได้ทุกวัน แม้จะไม่ได้ใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียมระดับนำเข้า แต่ขอให้มั่นใจว่าคุณภาพดี กำตังค์มา 100 บาท ซื้อของในร้านได้ 3-4 ชิ้น
.
“ที่ทำราคาได้ดีเพราะเราเป็นโรงงาน มีกำลังการผลิตสูง วอลุ่มเราเยอะ ปริมาณการสั่งซื้อวัตถุดิบก็มีความได้เปรียบเรื่องราคา อย่างชิโอะปังที่กำลังฮิตๆ ร้านผมขายชิ้นละ 19 บาท หรือครัวซองต์ในกรุงเทพฯ บางร้าน 85 บาท คนรวยๆ ก็ไม่ซื้อกินทุกวันหรอก ของผมครัวซองต์เนยสดราคา 19 บาท ไซซ์ใหญ่ 35 บาท เราตั้งใจทำเบเกอรี่เพื่อให้คนทั่วๆ ไปเข้าถึงได้ คุณภาพโอเค อาจจะไม่ได้เลิศหรู ไม่ได้ใช้เนยฝรั่งเศสแต่ก็ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี อร่อย ปลอดภัย”
.
ส่วน “Art of Baking” ที่ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ดเข้าไป JV (Joint Venture) ร่วมทุนกับไมเนอร์ ฟู้ด มีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในปีนี้ด้วยการอัดงบลงทุน 800 ล้านบาทสร้างโรงงานแห่งใหม่ หลังจากได้พาร์ทเนอร์ร่วมกับ “Europastry” ยักษ์เบเกอรี่สเปนผู้ผลิตโดนัทแช่แข็งเบอร์ต้นของโลก ซึ่งหากโรงงานแห่งนี้แล้วเสร็จจะกลายเป็นโรงงานผลิตโดนัทไซซ์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่า จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2569
.
เป้าหมายเรื่องรายได้ “อาร์ท” ตั้งเป้าส่วนของ “ศรีฟ้าโฟรเซนฟู้ด” ทั้งธุรกิจรีเทล-แฟรนไชส์ และรับจ้างผลิต OEM ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท คาดว่า ปีนี้จะเป็นปีแรกที่ทะยานสู่พันล้านสำเร็จ ฟาก “Art of Baking” น่าจะขึ้นไปแตะ 820 ล้านบาท รวมกันทั้งสองส่วนเท่ากับรายได้ของอาณาจักรศรีฟ้ากำลังทะยานสู่หลักไมล์ 2,000 ล้านไม่นานเกินรอ รวมกับภารกิจร่วมกับยักษ์เบเกอรี่สเปนด้วยแล้ว มองย้อนกลับไปจากวันที่เริ่มต้นในห้องแถว นับว่า เส้นทางของ “ศรีฟ้าเบเกอรี่” เดินทางมาไกลสุดลูกหูลูกตาทีเดียว
.
“คำสอนที่คุณพ่อเน้นย้ำมาตลอด คือให้ซื่อสัตย์กับลูกค้า ตอนหลังต้องเปลี่ยนเป็นซื่อสัตย์กับ Stakeholder ซัพพลายเออร์ พนักงาน ผู้ถือหุ้น ซึ่งผมว่า เป็น Core Value ที่ไม่ตกยุคตกสมัย เราไม่สามารถทำให้พาร์ทเนอร์ช่วยเหลือเกื้อกูลได้ถ้าเราไม่จริงใจกับเขา ช่วง 6-7 ปีหลังตั้งแต่ JV กับไมเนอร์บริษัทโตเร็วมาก กระโดดจากโรงงานเบเกอรี่เมืองกาญจน์ไกลเป็นชั่วอายุคนเลย ซึ่งก็มาจากการที่เราได้พาร์ทเนอร์ที่ดี และเราก็ทำตัวเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดี ต่างคนต่างทำสิ่งที่ถนัดและช่วยให้บริษัทเติบโต”

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

เจ้าพ่อโปรโมชั่น เมื่อไม่มีโปรโมชั่น ยอดจึงถอยลงๆ

ฝ่าอาถรรพ์ทำเลปราบเซียน ‘ทศพล’ คืนชีพแดนเนรมิต สู่ไนท์มาร์เก็ต สร้างสูตรโตแบบใหม่

“เบทาโกร” เปิดยุทธศาสตร์ความยั่งยืน

ธุรกิจทีวี กอดคอเผชิญรายได้ โฆษณาลด! กระเทือนกำไรไตรมาส 2

เกษียณวัย 45 ปี บรรทัดฐานทำงาน คนรุ่นใหม่ เลิกคิด Work Life Balance