‘กาแฟพันธุ์ไทย’ นอนออยล์แกร่ง ‘พีทีจี’ หนุนปลูกกาแฟ 3 แสนไร่ ใน 5 ปี

กาแฟพันธุ์ไทยยังคงเติบโตแข็งแกร่ง เป้าหมายธุรกิจคือการเปิดร้านหมื่นสาขาเจาะถึงทุกอำเภอทั่วไทย ด้านแม่ทัพ “พิทักษ์” วาดแผนส่งเสริมเกษตรกรปลูกกาแฟ 3 แสนไร่ใน 5 ปี
.
แม้พลังงาน ขายน้ำมันจะเป็นธุรกิจหลัก(Core business) ของ “พีทีจี เอ็นเนอยี” แต่ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันหรือนอนออยล์(Non-Oil)ถือเป็นหมากรบสำคัญที่สร้างการเติบโตให้อาณาจักรแสนล้านแห่งนี้ด้วย
.
พีทีจี มีหลากธุรกิจในพอร์ตโฟลิโอ นอนออยล์ที่เป็นหนึ่งในหน้าตาและพระเอกปัจจุบันคือ “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” ที่หลังพ้น 9 ปี แบรนด์แกร่ง ธุรกิจทำกำไร แนวโน้มยังโตร้อนแรง
.
ในไตรมาส 2 นอนออยล์ทำรายได้รวม 5,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” มีรายได้ 1,219 ล้านบาท เพิ่มกว่า “เท่าตัว” คือโต 135.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ 6 เดือนแรก รายได้รวมอยู่ที่ 2,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.1%
.
ส่วนจำนวนร้านมี 1,642 สาขา เพิ่มขึ้น 59.7% หรือการเปิดร้านเฉลี่ยมากกว่า 1.7 สาขาต่อวัน ด้านโมเดลร้านมีหลากหลายเพื่อตอบทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และเครื่องดื่มที่เป็นหัวใจสำคัญมีวาไรตีไม่แพ้กัน ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าปรับสูตรได้เองหรือ DIY(Do It Yourself)เพื่อเพิ่มประสบการณ์ดื่มด่ำคาเฟอีนและเมนูอื่นๆแบบเฉพาะตัว
ภาพใหญ่ของการรุกธุรกิจกาแฟไม่ใช่แค่สร้างการเติบโต อีกด้านจะมีส่วนขับเคลื่อนความยั่งยืน ดูแลสังคม ซึ่งในงาน “ทาโร รักษ์โลก โชคเด้ง” พิทักษ์ รัชกิจประการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทพีทีจี เอ็นเนอยีจำกัด (มหาชน) หรือPTGเปิดเผยว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้าต้องการส่งเสริมเกษตรกรปลูกไร่กาแฟให้ครอบคลุมพื้นที่ 3 แสนไร่
.
“คนเข้าใจว่าเราทำธุรกิจพลังงาน ตอนนี้เรามีการเติบโต จึงดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย อย่างธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยปีหน้าเราจะส่งเสริมเกษตรกรเพาะปลูกกาแฟอีกหมื่นไร่ และภายใน 5 ปีจะปลูกกว่า 3 แสนไร่ คือเปลี่ยนภูเขาหัวโล้นในพื้นที่ภาคเหนือได้เลย เพราะต้นกาแฟจะอยู่ได้ต้องมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา”
.
สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัดกล่าวในงาน The Challenger: ถึงเวลาของผู้ท้าชิง! ถึงการเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทยมีมากถึง 100 สาขาต่อเดือน และสิ้นปีคาดว่าจะมีร้านทะลุ 2,000 สาขา ซึ่งไม่เพียงบริษัทลงทุนขยายร้านเอง แต่ยังอ้าแขนรับ “แฟรนไชส์” ด้วย ทว่า ความปังของแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทย ทำให้มีนักลงทุนผู้สนใจเข้าคิวสัมภาษณ์ยาวถึงปีหน้า
.
แม้ต้องการ “สปีด” ธุรกิจ ทว่า การคุมคุณภาพต้องไม่หย่อนยาน บริษัทจึงแบ่ง 20% เพื่อรับพันธมิตรแฟรนไชส์ หรือถ้าปีนี้บริษัทเปิดร้านใหม่ 1,000 สาขา แฟรนไชส์จะอยู่ที่ 200 สาขา
.
“เราต้องมั่นใจว่าพันธมิตรมีใจรักในการทำร้านกาแฟจริงๆ ไม่ใช่เป็นแค่นักลงทุน แล้วปล่อยให้ลูกน้องทำ เราสัมภาษณ์เข้ม ไม่ให้คุณภาพมีปัญหา”
.
ทั้งนี้ ก่อนจะถึงหมื่นสาขา สเต็ปแรกกาแฟพันธุ์ไทยขอมีร้าน 5,000 สาขา ส่วนทำเลต้องการให้ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วไทย พร้อมรักษา “จุดแข็ง” เป็นยุทธศาสตร์ของแบรนด์อย่างพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีลูกค้าเหนียวแน่นอย่างยิ่ง
“ธุรกิจร้านกาแฟสิ่งสำคัญต้องสะดวก ลูกค้าไปไหนต้องเห็น ง่ายต่อการซื้อ เรามองมีร้านถึงหมื่นสาขา จะไปเร็วต้องไปด้วยแฟรนไชส์ ซึ่งตอนนี้คนสนใจคิวสัมภาษณ์ถึงปีหน้า เยอะมาก แบรนด์ได้รับความนิยม อีกด้านสิ่งที่กาแฟพันธุ์กลัวมากคือ อร่อยไม่ซ้ำ..จำสูตรไม่ได้ การขยายสาขาท้าทาย จะทำอย่างไรให้บาริสตาชงเครื่องดื่มเหมือนกันหมด ทุกร้านมีมาตรฐานเหมือนกัน เราจึงให้ความสำคัญกับการเทรนิ่งโซน ที่มีอยู่ 200 ศูนย์กระจายอยู่ทั่วประเทศ มีคิวเอหรือ Quality Assuranceคอยตรวจร้าน การบริการ เพราะปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเวลาตำหนิหรือ Complain บนโลกโซเชียลว่ากาแฟไม่อร่อย จืดจัง เราซีเรียสมาก จะให้แอดมินแก้ปัญหา และจับมาเทรนหรือฝึกอบรมทันที”
.
ร้านกาแฟพันธุ์ไทย กลายเป็นพระเอก ที่สร้างการเติบโตต่อเนื่อง แม้ในพอร์ตโฟลิโอของ พีทีจี จะมีร้านกาแฟพรีเมียม “คอฟฟี่เวิลด์” อีกแบรนด์ก็ตาม
.
อาวุธการตลาดที่พลิกให้กาแฟพันธุ์ไทยแกร่ง คือการใช้ฐานข้อมูลหรือดาต้า วิเคราะห์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนิยมซื้อกาแฟทำเลไหนสุด จึงเห็นการขยายร้านออกนอกปั๊มน้ำมัน โมเดลร้านมีหลายแบบ ทั้งสแตนอะโลน คีออส เสิร์ฟคอกาแฟ
.
ด้านสร้างแบรนด์ เมื่อมีเจนเนอเรชันวาย(Y) และเบบีบูมเมอร์(Baby boomer) ที่ผ่านมารุกเจาะคนรุ่นใหม่เจนซี(Z)ดึง “พี่จอง-คัลเลน” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์
.
นอกจากนี้ ไม้ตายคือ “บัตรแดงแผลงฤทธิ์” หรือ Max Card Plus ที่สมัครสมาชิก ต่อยอดจากบัตร PT Max Card ที่มีฐานลูกค้ากว่า 25 ล้านราย ซึ่งบัตรแดงทำให้ยอดขายกาแฟพันธุ์ไทยเติบโต 2.5 เท่า จากลูกค้าที่เติมน้ำมันแล้ว 75% มาซื้อกาแฟดื่มอีกต่อหนึ่ง และยังกลายเป็นบัตรที่มากกว่าสะสมแต้ม สร้างความสัมพันธ์ที่ดี(CRM) ด้วย
“บัตรแดงดียังไง Max Card Plus เหมือนสมัครสมาชิก 599 บาทต่อปี แต่ได้ส่วนลดร่วมหมื่นบาท เพื่อดึงลูกค้าเข้ามาในระบบนิเวศหรือ Ecosystem ตอนคุณพิทักษ์ ซีอีโอ เปิดตัวบัตรใหม่ๆ พี่ในฐานะนักลงทุน นักบัญชีเก่า บอกนายออกได้ไง ส่วนลดเป็นหมื่นจ่ายแค่ 599 จะไหวเหรอ แต่นายบอกมีความเชื่ออยากให้ทุกคนรู้จักพีทีจี ที่อยู่ในอีโคซิสเทมมาดื่มกาแฟ เมื่อเขาติดใจรสชาติจะไม่ไปไหน เป็นลูกค้าเรา ซึ่งสิ่งที่นายพูดเป็นจริง เพราะบัตรแดงทำให้ยอดขายกาแฟพันธุ์ไทยโต 2.5 เท่า เป็นกลยุทธ์สำคัญของเรา”

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

เจ้าพ่อโปรโมชั่น เมื่อไม่มีโปรโมชั่น ยอดจึงถอยลงๆ

ฝ่าอาถรรพ์ทำเลปราบเซียน ‘ทศพล’ คืนชีพแดนเนรมิต สู่ไนท์มาร์เก็ต สร้างสูตรโตแบบใหม่

“เบทาโกร” เปิดยุทธศาสตร์ความยั่งยืน

ธุรกิจทีวี กอดคอเผชิญรายได้ โฆษณาลด! กระเทือนกำไรไตรมาส 2

เกษียณวัย 45 ปี บรรทัดฐานทำงาน คนรุ่นใหม่ เลิกคิด Work Life Balance