‘ออนเซ็น รีทรีต’ ชิงขุมทรัพย์สปา 6.54 หมื่นล้าน ควัก 200 ล้าน ลุยแฟล็กชิป ทำเลทองหล่อ

ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน แต่มี “ธุรกิจออนเซ็น” แทรกตัวย่านใจกลางธุรกิจ สุขุมวิท-สาทร ภายใต้แบรนด์ “ยูโนะโมริ ออนเซ็น แอนด์ สปา” ให้บริการลูกค้าแก่ชาวไทยและต่างชาติ ทุกกลุ่มอายุ
.
“ยูโนะโมริ ออนเซ็น แอนด์ สปา” สร้างการเติบโตมา 13 ปีแล้ว โดยมี 2 ผู้หลงใหลออนเซ็น แปรความชอบสู่การปลุกปั้นธุรกิจ และปี 2568 บริษัทกำลังจะเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
สมิทธิ์ เมฆอรุณกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ เพชร คงแสงไชย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ONSENS ได้ร่วมกันปลุกปั้น “ยูโนะโมริ ออนเซ็น แอนด์ สปา” ถือเป็นโมเดลธุรกิจ “ออนเซ็นรายแรกในประเทศไทย” เพราะเห็นโอกาสในยุคนั้นยังไม่มีใครบุกตลาดตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
.
เส้นทางการรุกธุรกิจออนเซ็นนอกจากมี “ไอเดีย” ได้เดินทางไปศึกษาระบบ การบริหาร หาข้อมูลเกี่ยวกับออนเซ็นเองทุกอย่าง โดยเฉพาะการพบโอกาสในตลาดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่มีออนเซ็นกลางเมือง ไม่ใช่แค่อยู่ตามต่างจังหวัด ใจกลางธรรมชาติ หรือซ่อนตัวในโรงแรมรูปแบบเรียวกัง
.
ศึกษาตลาดจนพร้อม บริษัทจึงเปิดออนเซ็นให้บริการที่แรกใจกลางสุขุมวิท 26 ปัจจุบันสร้างการเติบโต มีออนเซ็นให้บริการ 4 สาขา ในไทย 3 สาขา ที่สาทร 10 พัทยา และสิงคโปร์ 1 สาขา รวมถึงขยายแบรนด์ “คลาย สปา” มีสาขาเรือธงหรือแฟล็กชิปให้บริการที่ย่านเยาวราช
.
“ตอนเปิดออนเซ็นให้บริการครั้งแรก กระแสตอบรับดีไม่ใช่แค่ลูกค้าชาวญี่ปุ่น แต่คนไทย และที่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ ธุรกิจเราผ่านวิกฤติมามากทั้งน้ำท่วมใหญ่ขาดแคลนทรายก่อสร้างโครงการ เจอโควิด-19 ระบาดหนักสุด ปีนี้ท่องเที่ยวซบเซา แต่เราผ่านมาได้เพราะมีฐานลูกค้าคนไทยเป็นกุญแจสำคัญ”
.
ตลาดออนเซ็น รวมถึงสปา การนวดไทย หากมองภาพใหญ่อุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากหลายปัจจัย ได้แก่ 1.สปาไทย อยู่ในยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่จะดันไทยเป็นฮับของสปาระดับโลก(Capital Spa of Asia) 2.เมกะเทรนด์โลกที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพแบบองค์รวม 3.การท่องเที่ยวที่นักเดินทางมองหาเดสทิเนชันสุขภาพ และไทยเป็นหมุดหมายสำคัญ และปี 2568 บริษัทคาดหวังนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับมาเยือนไทยใกล้เคียงกับก่อนเกิดโควิด เหล่านี้จะหนุนธุรกิจอย่างดี
.
ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมสปาไทย จากข้อมูล MarketLine ระบุ ปี 2561 มูลค่าตลาด 4.73 หมื่นล้านบาท และปี 2567 มูลค่า 6.54 หมื่นล้านบาท เมื่อมองแนวโน้มปี 2566-2570 คาดการณ์เติบโตเฉลี่ย(CAGR) 9.41% หรือมูลค่าแตะ 8.66 หมื่นล้านบาท ส่วน 10 ปีข้างหน้า คาดว่าตลาดโตเท่าตัว มูลค่าแตะ “แสนล้านบาท”
.
นอกจากนี้ เมื่อเจาะประเภทธุรกิจสปาในไทย ปี 2566) สปาที่ไม่มีห้องพักค้างคืน(Day Spa) สัดส่วน 3.97 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 64.1% สปาในโรงแรม(Hotel Spa) 1.58 หมื่นล้านบาท สัดส่วน 25.4% และอื่นๆ 6,400 ล้านบาท สัดส่วน 10.4%
จากขุมทรัพย์แห่งโอกาส บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท พัฒนาโครงการ Social Wellness Hotel and Spa จะเป็น “ออนเซ็นแฟล็กชิปครบวงจร” ที่ทองหล่อ 17 ในส่วนนี้จะมีโรงแรมขนาด 79 ห้อง ซึ่งเป็นการ “ร่วมทุนพันธมิตร” พีซีแอลบี แอสเสท ที่ถือหุ้น 55% บริษัทถือ 45% ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดคืนทุนใน 7 ปี นอกจากนี้ ธุรกิจสปา นวด ไตรมาส 4 จะมีการเปิดแบรนด์ใหม่เพื่อเจาะตลาดเสริมแกร่งด้วย
.
สำหรับธุรกิจออนเซ็นสปา มีลูกค้ามาใช้บริการเฉลี่ย 26,075 คนต่อเดือน เพิ่มขึ้น 11.85% ต่อปี
.
“ธุรกิจออนเซ็น สปาเรามองเห็นช่องว่างตลาด หากลูกค้าจะใช้บริการคุณภาพแต่ราคาจับต้องได้ยาก ต้องไปโรงแรมซึ่งจ่ายราว 5,000-6,000 บาทหรือแตะหมื่นบาท ไม่ไหว ส่วนสปา นวดไทยที่เป็นไมโคร ร้านขนาดเล็กตามตึกแถว ก็เป็นอีกรูปแบบ เราจึงพบ sweet spot เช่น ออนเซ็นเข้าทั้งวันหรือ day pass เริ่มต้น 650 บาท มีบริการเสริมนวด ทรีทเมนต์ ส่วนแบรนด์คลายราคาเริ่ม 600 บาท เราต้องการชูอัตลักษณ์ เล่าสตอรี่เกี่ยวกับศาสตร์การนวดไทยใหม่ให้คนเข้าใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปี 2568 ธุรกิจบริการเผชิญโจทย์หนักเป็นพิเศษ เพราะนักท่องเที่ยวหายไป โดยเฉพาะจีน แต่ภาพรวมเราไม่กระทบนัก เพราะมีฐานลูกค้าชาวไทย ร้านเราเป็นสแตนอะโลน แบรนด์มีความแข็งแกร่ง ไม่ต้องพึ่งพาทราฟฟิกหรือจำนวนผู้คนจากห้างค้าปลีก โรงแรม”
.
สำหรับผลประกอบการปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 288.64 เพิ่มขึ้น 5.40% จากปีก่อน มีกำไรสุทธิ 33.29 ล้านบาท

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

เจ้าพ่อโปรโมชั่น เมื่อไม่มีโปรโมชั่น ยอดจึงถอยลงๆ

ฝ่าอาถรรพ์ทำเลปราบเซียน ‘ทศพล’ คืนชีพแดนเนรมิต สู่ไนท์มาร์เก็ต สร้างสูตรโตแบบใหม่

“เบทาโกร” เปิดยุทธศาสตร์ความยั่งยืน

ธุรกิจทีวี กอดคอเผชิญรายได้ โฆษณาลด! กระเทือนกำไรไตรมาส 2

เกษียณวัย 45 ปี บรรทัดฐานทำงาน คนรุ่นใหม่ เลิกคิด Work Life Balance