‘ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป’ ดัน ‘คิวเฟรช’ ขึ้นแท่น ‘ผู้นำ’ เสิร์ฟอาหารทะเลครบวงจร

“คิวเฟรช” เป็นแบรนด์อาหารทะเลหรือซีฟู้ดพร้อมทานจากค่ายยักษ์ใหญ่ “ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” ที่ทำตลาดมาราว 6 ปี มีการรีแบรนด์ ขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ปี 2565 ภาพรวมซีฟู้ดพร้อมทานหดตัวลงราว 4.6% แต่ปีนี้แนวโน้มกลับมาขยายตัวอีกครั้ง จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ทำให้กลุ่มลูกค้าโรงแรม ร้านอาหาร และบริการต่างๆหรือฟู้ดเซอร์วิสกลับมาคึกคักเพิ่มความต้องการสินค้า ส่วนผู้บริโภครายย่อยมีไลฟ์สไตล์ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น เป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดันการเติบโต

ธนโชติ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกุ้ง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ฉายภาพ กลยุทธ์การบุกตลาดของ “คิวเฟรช” คือการสร้างความหลากหลายให้กับกลุ่มสินค้าซีฟู้ดแช่แข็งมากขึ้น จากที่ผ่านมา “กุ้ง” ถือเป็นพระเอกทำสัดส่วนรายได้สูงสุดมาโดยตลอด แต่ครึ่งปี 2566 กุ้งมีสัดส่วนลดเหลือ 42%
สินค้าใหม่ที่ “คิวเฟรช” เพิ่มความหลากหลาย เช่น ปลากระพง ปลาฮามาจิหรือปลาหางเหลือง หอยเชลล์ฮอกไกโดหรือโฮตาเตะ ทาโกะหรือปลาหมึกญี่ปุ่น และอาหารทะเลอื่นๆเข้ามาเสริมทัพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยรวมมีสัดส่วนแล้ว 58%
“การไดเวอร์ซิไฟพอร์ตโฟลิโอซีฟู้ดให้มีความครอบคลุมทุกชนิด เพราะเราต้องการก้าวเป็นแบรนด์ที่ให้บริการลูกค้าแบบวันสต๊อป เซอร์วิส ไม่ใช่ต้องการสินค้ารายการนี้ เช่น กุ้งมาซื้อที่เรา ส่วนซีฟู้ดประเภทอื่นไปซื้อเจ้าอื่น แผนดังกล่าวยังสานเป้าหมายการขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายใน 3 ปี จากปัจจุบันเป็นเบอร์ 2”

ทั้งนี้ ความต้องการของลูกค้าทั้งผู้บริโภครายย่อย(B2C) หรือลูกค้าฟู้ดเซอร์วิส(B2B) แต่ละช่วงมีความแตกต่างกันเป็น เช่น บางเวลาต้องการล็อบสเตอร์ หน้าที่ของบริษัทคือต้องหา unwanted ของกลุ่มเป้าหมายให้เจอ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการตอบสนองให้ตรงใจ
“เราพยายามไดเวอร์ซิไฟพอร์ตโฟลิโอสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายเติบโตขึ้น”

ล่าสุด การบุกตลาดอาหารทะเลพร้อมทานและพร้อมปรุงช่วงครึ่งปีหลัง ลุยเสิร์ฟเมนูเด็ดกุ้งชุบแป้งซีรีส์ใหม่ 4 เมนู 4 สไตล์ ได้แก่ กุ้งไส้เชดดาร์และครีมชีส, กุ้งเทมปุระ สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมน้ำจิ้มเทมปุระ, ทอดมันกุ้ง พร้อมน้ำจิ้มบ๊วย และ กุ้งกรอบ พร้อมซอสทาร์ทาร์ จำหน่ายในราคาแพ็คละ 145 บาท เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ พร้อมดึง “แบงก์ ธิติ มหาโยธารักษ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์สร้างการรับรู้แบรนด์และสินค้า(Awareness)

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆดังกล่าว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์คิวเฟรช เมื่อเทียบกับการจำหน่ายในรูปแบบวัตถุดิบ เช่น กุ้งต้ม กุ้งดิบ ตามแผนจะรังสรรค์เมนูใหม่ออกมาต่อเนื่อง จากปัจจุบันคิวเฟรชมีสินค้าราว 80 รายการ(เอสเคยู)

“กุ้งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ หากจำหน่ายเป็นกุ้งต้ม กุ้งดิบ อัตราการทำกำไรจะไม่สูงนักเป็นตัวเลข 1 หลัก แต่เมื่อนำมาสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เพิ่มความพิเศษ เช่น กุ้งไส้เชดดาร์และครีมชีส ที่เราใช้ชีสฟิลาเดลเฟีย ส่งผลให้การทำกำไรอยู่ในอัตรา 2 หลัก”

ปัจจุบันตลาดอาหารทะเลพร้อมทานมีมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท ปีก่อนหดตัวลง 4.6% เจาะลึกหมวดย่อย กลุ่มวัตถุดิบอาหารทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา หดตัวรุนแรง 10.2% แต่แนวโน้มปี 2566 ภาพรวมอาหารทะเลพร้อมทานคาดการณ์เติบโต 4-5% ขณะที่การบุกตลาดของคิวเฟรช บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมประมาณ 630-640 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายเจาะกลุ่มผู้บริโภค(B2C)ราว 230-240 ล้านบาท และกลุ่มฟู้ดเซอร์วิส 400 ล้านบาท ส่วนเป้าหมาย 3 ปี อยากเห็นคิวเฟรช มียอดขายทะลุ “พันล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการทำตลาดอาหารทะเลพร้อมทานครึ่งปีหลัง คือกรณีที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น จะปล่อยน้ำเสียลงมหาสมุทร จะส่งผลต่อธุรกิจ 2 มิติ อย่างแรกคือความต้องหารหรือดีมานด์ตลาดลดลง แต่ปริมาณการผลิตหรือซัพพลายยังมี ทำให้ “ราคา” วัตถุดิบ และสินค้าอาหารทะเล “ต่ำลง” ผู้ประกอบการสามารถทำกำไรได้ แต่ต้องพิจารณาความเสี่ยงต่อผู้บริโภคด้วย
หากผู้ประกอบการที่จะนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะต้องมีเอกสารรับรอง เพื่อยืนยันคุณภาพสินค้า ทั้งนี้ บริษัทมีการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นสัดส่วน 30% และมีสต๊อกรองรับความต้องการลูกค้าถึงสิ้นปี 2566 ส่วนการปรับตัวในช่วงนี้ ต้องบริหารจัดการหาวัตถุดิบอาหารทะเลจากแหล่งอื่น โปรโมทการทำตลาดสินค้าอื่นๆ เป็นต้น

“ตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณลูกค้าชะลอการซื้ออาหารทะเลพร้อมทาน”

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต