เจาะลึก 6 เทรนด์โฆษณาสุดร้อนแรง พลิกโฉมตลาด – ผู้ประกอบการ

เจาะอินไซด์ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาประจำปี 2567 ที่มีการประกาศโดย สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT โดยในมุมมองคนโฆษณาในปี 2567 กับเทรนด์ที่มาแรง ประกอบด้วย 6 เรื่อง ที่เข้ามาพลิกโฉมตลาดโฆษณาครั้งสำคัญ ประกอบด้วย

1. TV Convergence การผสมผสานของสื่อทีวี แบบดั้งเดิมและสื่อใหม่มาผสมผสานกัน หากประเมินในภาพรวมแม้สื่อทีวีแบบดั้งเดิม ที่ยังคงมีอิทธิพลสูงมาก และเข้าถึงประชาชนทั่วประเทศจำนวนมากสุด แต่ยอดผู้รับชมที่ลดลงต่อเนื่อง โดยมีการประเมินจาก นีลเส็น ต่อยอดผู้รับชมสื่อทีวีในปี 2567 มีโอกาสลดลงจากปีก่อน ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 62% 

หากประเมินในอีกด้านมีสื่อที่มาแรงกับทั้ง OTT กับการสตรีมมิง สามารถนำเสนอคอนเทนต์ผ่านอินเทอร์เน็ต และ CTV การจัดทำทีวีเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่มีแนวโน้มขยายตัว ซึ่งสามารถนำมาเชื่อมต่อ และนำเสนอคอนเทนต์ผ่านหลายแฟลตฟอร์ม ไปจนถึงการผสมผสานกับทีวีแบบดั้งเดิมกับสื่อใหม่ไปพร้อมๆ กัน

อีกทั้งควรมุ่งนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่มีความสร้างสรรค์ สามารถวัดผลตอบรับได้ และไปจนถึงข้อมูลอินไซด์ของกลุ่มลูกค้า และการนำเสนอให้สอดรับความต้องการของแต่ละบุคคล พร้อมการวัดผลผ่านหลายแฟลตฟอร์มด้วยเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลที่ล้ำสมัย
2. Measurable KOLs โดย KOLs ยังมีอิทธิพลสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า แต่การวัดผลของ KOL ต้องเห็นผลชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้มีการประเมินจาก Euromonitor Voice of the Consumer: Lifestyles Survey 2022 พบว่า 5 อันดับที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ มาจากทั้ง การรีวิวอย่างอิสระของผู้บริโภค การมีกลุ่มเพื่อนและครอบครัวแนะนำ มาจากช่องทางโซเชียล เน็ตเวิร์คของแต่ละคน การนำเสนอข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน สุดท้ายมาจากแบรนด์ และเว็บไซด์

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถเลือก KOLs มาร่วมสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และมุ่งเลือกให้ตรงกับเป้าหมาย และพิจารณาที่สามารถวัดผลได้ พร้อมมีการนำเสนอคอนเทนต์ด้วยความสร้างสรรค์

ยกตัวอย่าง KOLs ที่มาแรงในประเทศไทยทั้ง ช่อง Cullen HateBerry ของ “คัลแลน” และ “พี่จอง” ยูทูบเบอร์เกาหลีใต้ รวมถึง รายการไกลบ้าน จากฟาโรส ไปจนถึง อินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน สร้างสถิติยอดขายสุดปัง 4 วัน 310 ล้านบาท

3. Sport Mania การมาของกีฬาระดับโลกที่น่าติดตาม โดยในปีนี้มีมหกรรมกีฬาระดับโลกครั้งสำคัญ ทั้งมหกรรมโอลิมปิก 2024 มีขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ ณ ประเทศฝรั่งเศส การจัดแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ จัดขึ้นประเทศเยอรมนี และประเทศไทยที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬา วอลเลย์บอล เนชัน ลีก 2024 สนามสุดท้าย รอบชิงชนะเลิศ ในเดือน มิ.ย.นี้

นอกจากนี้กระแสของนักกีฬาไทย ต่างมีฐานแฟนๆ ติดตามจำนวนมากทั้งในประเทศไทยและในตลาดโลก สามารถต่อยอดเชื่อมต่อกับสินค้าได้ ไปจนถึงอีกกีฬาที่น่าสนใจกับกีฬา อีสปอร์ตที่มีฐานแข็งแกร่งในไทย ด้วยจำนวนผู้ชมกลุ่มนี้สูงถึง 8.8 ล้านคน รวมถึงมีกลุ่มที่เป็นเกมเมอร์กว่า 38.3 ล้านคน แบรนด์สามารถต่อยอดทำการตลาดได้
4. LGBTQ+ โดยประเทศไทยได้รับการสำรวจพบว่า เป็นประเทศที่มีความ เฟรนด์ลี่กับ LGBTQ+  สะท้อนจากในคนประเทศไทย จำนวนกว่า 20 ล้านคน ต่างการให้สนับสนุนสังคมของ LGBTQ+ ส่วนประเทศไทยมีสังคมของ LGBTQ+ ประมาณ 7.3 ล้านคน รวมถึงมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนในกลุ่ม LGBTQ+ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมาก นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ไม่แพ้ตลาดนักท่องเที่ยวอื่นๆ

ทั้งนี้ในประเทศไทยมีการจัดงาน Pride Month ในช่วงเดือน มิ.ย.ของทุกปี โดยเป็นอีเว้นท์สำคัญและแบรนด์ต่างๆ ได้ประกาศร่วมให้การสนับสนุน แต่แนวทางสนับสนุน LGBTQ+ ไม่ควรจำกัดเวลาใดเท่านั้น สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องในทั้งปี เพื่อร่วมสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจของลูกค้าระยะยาว

5. Marketing AI เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนโฉมหลายภาคส่วนในธุรกิจ โดยในปัจจุบันมีเครื่องมือของ AI สามารถเข้ามาร่วมพลิกโฉมธุรกิจจำนวนมาก ร่วมช่วยการทำงานของธุรกิจ ร่วมผลักดัน CRM ไปจนถึงยอดขาย ผู้ประกอบการจึงควรไม่หยุดนิ่ง นำเครื่องมือของ AI มาร่วมสร้างแต้มต่อและเพิ่มสร้างโอกาสใหม่ๆ ในระยะยาว

6. Emerging of OOH Commerce เป็นสื่อที่มาแรง ทั้งป้ายแบบดั้งเดิมและป้ายดิจิทัล ที่มีการใช้เทคโนโลยี 3D Illusions, AR, VR สามารถนำมาผสมผสานได้อย่างสร้างสรรค์ อีกความโดดเด่นคือ สื่อกลุ่มนี้ OOH (Out Of Home) สามารถขยายได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถวัดผลจากการทำแคมเปญได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้มีการวัดผลออกมา สามารถร่วมดึงดูดกลุ่มเป้าหมายทำให้การเข้าถึงผ่านโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น 30% ร่วมทำให้ยอดการซื้อสินค้าเกิดขึ้นจริง (Conversion rate) 27% และสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาด โดยส่งผลกระทบต่อการจดจำ และทำให้แบรนด์อยู่ในใจของกลุ่มลูกค้า

ทั้งหมดเป็น 6 เทรนด์ที่น่าติดตามและมีผลต่อตลาดโดยรวม ทั้งนี้ผู้ประกอบการควรนำมาต่อยอด สร้างแบรนด์และยกระดับการให้บริการได้ในระยะยาว 

อย่างไรก็ตาม MAAT ได้มีการประกาศภาพรวมตลาดสื่อโฆษณาในประเทศไทยปี 2567 มีการประเมินจะขยายตัว 2.6% จากปีก่อน หรือมีมูลค่า 114,447 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดมีการขยายตัวสูงกับทั้ง สื่อดิจิทัล ขยายตัว 10% มากที่สุด ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ตและดิจิทัลจำนวนสูง 

รวมถึงสื่อนอกบ้าน กลายเป็นตลาดเกิดใหม่ที่กำลังขยายตัว (Emerging market) จากพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่ออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ทำให้สื่อนอกบ้านในปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 10% รวมถึงสื่อ โฆษณาเคลื่อนที่ (Transit) ที่มีการขยายตัวสอดรับกับระบบขนส่งมวลขนต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT ทำให้สื่อโฆษณานอกบ้านดิจิทัลในรูปแบบใหม่มาแรงต่อเนื่อง

สำหรับสื่อโฆษณาที่จะติดลบในปีนี้ ได้แก่ สื่อหนังสือพิมพ์ คาดว่าจะติดลบ 16% และสื่อทีวี ติดลบ 2.5% ส่วนสื่อที่วิทยุ ขยายตัว 1.5% แมกกาซีน ขยายตัว 1% และสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ ขยายตัว 1%

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

สงครามร้านชานมไข่มุกพลิกสู่บลูโอเชี่ยน! ‘แบร์เฮาส์’ ผุด 109 สาขา ปี 71

‘HAAB’ ขายขนมไข่เดือนละ ‘3 ล้านชิ้น’ เปิดร้านมา 1 ปี เตรียมบุก ‘มาเลเซีย’ เป็นประเทศแรก

ลอรีอัล ปารีส พา “ณิชา” บินลัดฟ้าสร้างปรากฎการณ์ Walk Your Worth โชว์บนรันเวย์สุดอลังการ ใจกลางหอไอเฟล ณ กรุงปารีส

เมื่อคนใส่กางเกงยีนส์ กลายเป็นคนมี Creative Looking

มิติใหม่แห่งการเสพสื่อ เรื่องแบบนี้คุณต้องรู้