‘ซีเมนส์’ หนุนสร้างอีโคซิสเต็มไทย ยึด ‘ฮับเศรษฐกิจดิจิทัล’‘ซีเมนส์’ หนุนสร้างอีโคซิสเต็มไทย ยึด ‘ฮับเศรษฐกิจดิจิทัล’.

NextGen Data Center Conference 2024 เปิดหนทางไทยสู่การเป็นดิจิทัลฮับอาเซียน จูงใจนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เลือกไทยเป็นจุดมุ่งหมายลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์
.
ซีเมนส์ (Siemens) เปิดเวทีสัมมนา NextGen Data Center Conference 2024 โดยมีภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมเสนอแนวทางขับเคลื่อนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) เตรียมผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัลสู่เศรษฐกิจสีเขียว พร้อมทั้งจูงใจให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เลือกไทยเป็นจุดมุ่งหมายลงทุนและผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาค
.
📌 ดาต้าเซ็นเตอร์ปลุกธุรกิจดิจิทัล
.
“ตามที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้ประกาศนโยบาย Thailand Vision 2030 โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสากรรมของโลก พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่อนาคตที่ยั่งยืน ทั้งด้านการท่องเที่ยว การแพทย์ การผลิตยานยนต์ในอนาคต ฯลฯ รวมถึงการขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล”
.
รอส คอนลอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทซีเมนส์ ประเทศไทย กล่าวเปิดสัมมนาฯ โดยอ้างอิงนโยบายของนายกฯ เศรษฐาดังกล่าว และแนะว่า การที่ไทยจะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายนั้น ไทยจะต้องดึงดูดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้ได้
.
ประเทศไทยต้องทำการวิจัยและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการปรับใช้เอไอ ที่สำคัญประเทศไทยจะต้องมีเงินลงทุนสำหรับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีปริมาณมาก เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเพื่อสนับสนุนคลาวด์คอมพิวติง (Cloud Computing) และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
.
อาทิ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เกมมิง แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยีสุขภาพ เทคโนโลยีการตลาด อุตสาหกรรมหนัก ฯลฯ
.
คอนลอน ได้ยกตัวอย่าง “สิงคโปร์” ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูล และเป็นฐานที่ตั้งหลักของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่มาเลเซียก็พัฒนาอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในภูมิภาคอาเซียนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นผู้นำด้านศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตมากขึ้น
.
การขับเคลื่อนไทยสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ บริษัทซีเมนส์พร้อมเป็นตะกร้าจัดเก็บเงินดิจิทัล ช่วยขับเคลื่อนไทยไปสู่เป้าหมายดังกล่าว บริษัทได้พัฒนาการเชื่อมโยงทางไฟเบอร์อย่างแข็งขัน โดยระบบมีอัตราการส่งข้อมูลอยู่ที่ 140 เทราบิตต่อวินาที ซึ่งถือเป็นอัตราที่เร็วมาก บริษัทมีแหล่งพลังงานไฟฟ้าและสาธารณูปโภคที่มั่นคงและปลอดภัย
.
ทั้งยังมีระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่หลากหลาย โดยมีผู้ประกอบการ สตาร์ตอัป และบริษัทเทคโนโลยีในไทยหลายแห่งร่วมเป็นพันธมิตร ด้วยประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่อหัวสูงสุดในภูมิภาค ทำให้ผู้ให้บริการคลาวด์อยากมาตั้งศูนย์ข้อมูลในไทย และเข้าถึงผู้ใช้ปลายทาง (end users) ให้มากขึ้น
.
ดังนั้น คอนลอนจึงมองว่า ประเด็นความยั่งยืน และแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (อีเอสจี) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับไฮเปอร์สเกล เนื่องจากประเทศไทยและนักลงทุนทางการเงินให้ความสำคัญในด้านนี้อย่างมาก
.
“ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ต้องหาแนวทางที่ทำให้บริษัทสามารถเปลี่ยนผ่านศูนย์ข้อมูลของตน ให้มีความยั่งยืนมากขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปลี่ยนผ่านสีเขียวถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับศูนย์ข้อมูลในอนาคต” คอนลอน กล่าว
.
#ฮับเศรษฐกิจดิจิทัล #ดิจิทัลฮับอาเซียน #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต