‘ซีอาร์จี’ เฟ้นแบรนด์ใหม่เสริมแกร่ง มอง 5 ปี ต้องโต ทะยานรายได้ทะลุ ‘พันล้าน’

“ซีอาร์จี” หนึ่งในยักษ์ใหญ่ธุรกิจเครือข่ายร้านอาหารหรือเชน ในพอร์ตโฟลิโอมีกว่า 20 แบรนด์ เช่น เคเอฟซี มิสเตอร์ โดนัท อานตี้ แอนส์ เปปเปอร์ ลันซ์ โอโตยะ ร้านอาหารที่ร่วมทุน เช่น นักล่าหมูกะทะ ชินคันเซ็น ซูชิ เป็นต้น และมีจำนวนร้านอาหารที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคราว 1,600 สาขา

กลยุทธ์การเคลื่อนธุรกิจอาหารของบริษัทนอกจากโตด้วยตัวเองหรือ Organic แล้ว มรรควิธี “ทางลัด” ผนึกพันธมิตรร่วมทุน และซื้อกิจการมาเสริมพอร์ตยังเห็นต่อเนื่อง

ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้าเจรจาหรือดีลกับพันธมิตร โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมทุนในหมวดหมู่ร้านอาหารใหม่ๆ เพื่อเสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอให้กับซีอาร์จี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมองกลุ่มร้านชาบู ร้านปิ้งย่างหรือยากินิกุ ยังมีโอกาสเติบโต แม้จะมีร้านจำนวนมาก
ทั้งนี้ ตามแผนบริษัทต้องการเพิ่มแบรนด์ร้านอาหารใหม่ 2-3 แบรนด์ โดยคุณสมบัติสำคัญที่มองหา ประกอบด้วย 1.กระแสความนิยมในตลาดและหมู่ผู้บริโภคเป็นอย่างไร 2.เทรนด์ของผู้บริโภคยังให้ความสนใจในการรับประทานอาหารหมวดหมู่นั้นๆต่อเนื่องหรือไม่ 3.ราคาต่อหัวหรือต่อคน ต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสม ไม่แพงมาก เนื่องจากบริษัทต้องการขยายสาขาจำนวนมาก เจาะกลุ่มเป้าหมายวงกว้างหรือ Casual mass และ4.พันธมิตร ผู้ประกอบการต้องมีความมุ่งมั่นทำธุรกิจต่อ ไม่ใช่ขายกิจการแล้วออกจากธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเศรษฐกิจ กำลังซื้อเปราะบาง มีผลต่อธุรกิจร้านอาหาร อีกทั้งธุรกิจดังกล่าวเข้าง่ายออกง่าย จึงมีร้านที่ขายกิจการ ทำให้แบรนด์ใหญ่มีโอกาสช้อปกิจการต่างๆเข้ามาอยู่ในพอร์ต บริษัทไม่มองโอกาสจากธุรกิจที่อ่อนแรง ตรงกันข้ามมองศักยภาพแบรนด์ที่แกร่ง สามารถเติบโตต่อได้ โดยเฉพาะแบรนด์ที่แข็งแรง เติบโตท่ามกลางตลาดอ่อนแรง หากตลาดฟื้นตัว เติบโต จะยิ่งสปีดไปได้ไกล

“เราไม่มองโอกาสจากแบรนด์อ่อนแรง ไม่คิดอย่างนั้ แต่มองศักยภาพแบรนด์ที่แกร่ง มีการเติบโต ยิ่งแกร่งในตลาดที่เปราะบางได้ เมื่อตลาดดีแบรนด์นั้นจะยิ่งไปได้ไหล หากซื้อกิจการหรือแบรนด์ที่อ่อนแรงตอนนี้ ซื้อแล้วอาจเละทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อซื้อกิจการ หรือร่วมทุนกับพันธมิตร มีอยู่ต่อเนื่อง ชาบูก็มีการคุย ซึ่งตามแผนปี 2567 เราอยากได้ 2-3 แบรนด์ใหม่ เน้นเอสเอ็มอีเพื่อทำให้ 1+1 มากกว่า 2 ทว่า เอสเอ็มอีบางรายที่แกร่งตอนนี้ยังไม่สนใจเรา เนื่องจากอยู่ได้ด้วยตัวเอง และไม่คิดจะขยายสาขาจำนวนาก แฮปปี้ในสิ่งที่ทำอยู่ หากมาเป็นพันธมิตรกับเรา ต้องมาพร้อมแผนธุรกิจ ต้องเติบโตค่อนข้างมาก”
อีกโจทย์ของการมีพันธมิตรแบรนด์ใหม่ “ณัฐ” ย้ำว่าศักยภาพในการเติบโตของร้านอาหารเหล่านั้นจะต้องทำรายได้วิ่งสู่ 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีหลังการร่วมทุน ซึ่งที่ผ่านมา 2 แบรนด์เด่นอย่าง สลัดแฟคทอรี่ ราว2-3 ปีก่อนขนาดรายได้อยู่ระดับ 200 ล้านบาท สิ้นปีนี้คาดการณ์แตะ 800 ล้านบาท ส่วนชินคันเซ็น ซูชิตอนก่อนเป็นพันธมิตรรายได้กว่า 700 ล้านบาท ปีนี้คาดการณ์ 1,800 ล้านบาท

นอกจากนี้ แผนครึ่งปีหลัง ซีอาร์จี ลุยขยาย 8 ท็อปแบรนด์ เช่น เคเอฟซี โอโตยะ อานส์ตี้ แอนส์ มิสเตอร์ โดนัท ชินคันเซ็น ซูชิ และสลัดแฟคทอรี่ ฯ อย่างต่อเนื่อง เช่น โอโตยะ เปปเปอร์ ลันซ์จะเห็นโมเดลใหม่ๆ และบุกต่างจังหวัด

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเศรษฐกิจกำลังซื้อเปราะบาง “ณัฐ” มองการขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหารต้องบริหารจัดการภายในและภายนอกเข้มข้น ได้แก่ 1.ดูแลต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ 2.ดูแลกระแสเงินสดให้ดี 3.เมนูความอร่อย คุณภาพต้องมีเสถียรภาพ และ4.การสื่อสารตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ปี 2567 ซีอาร์จี ยังเป้าเป้าหมายรายได้กว่า 1.6 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกการเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี ขณะที่ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารกว่า 4 แสนล้านบาท คาดการณ์เติบโต 7-10% เพราะอาหารยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตผู้บริโภค

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต