รู้แล้วต้อง “อึ้ง” “Gen Y-Wealth” จ่ายหนัก-พักหรู-อยู่กับมรดก


The 1 Insight ชี้ทางธุรกิจปลุกยอดขายรับปีพ.ศ.2568 (ค.ศ. 2025) เผยกลยุทธ์เจาะกลุ่มผู้บริโภค “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” ซึ่งก็คือกลุ่ม Gen Y (อายุ 25-40 ปี) ที่อยู่ใน Wealth Segment ของประเทศไทย โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายสูงกว่า 7 เท่าเมื่อเทียบกับ Gen Y ทั่วไป จึงเป็นลูกค้า High Value และ Premium Consumers อันเป็นโอกาสทองสำหรับหลากหลายกลุ่มธุรกิจในปัจจุบันและอีกหลายทศวรรษต่อจากนี้
.
ทั้งนี้ รายงานยังเผย 3 อินไซต์หลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายของกลุ่ม Gen Y-Wealth ได้แก่ 1) พร้อมจ่ายเพื่อ “ภาพลักษณ์” (Image-Driven Spending) โดยเฉพาะในหมวดแฟชั่นลักชัวรี่และบิวตี้ 2) เหนือระดับด้วย “ประสบการณ์” (Prestige Experience) มากกว่าเพียงการซื้อสินค้า และ 3) ช้อปได้ “ไร้รอยต่อ” (Omni-Centric & Phygital) เน้นความสะดวกสบาย ไร้ข้อจำกัด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Gen Y เป็นกลุ่มผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักในปัจจุบัน โดยภายในปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) นี้ ชาว Gen Y จะครองสัดส่วนมากถึง 75% ของวัยแรงงานทั่วโลก ความสามารถในการหารายได้ทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคสำคัญในตลาด
.
อย่างไรก็ดี การวิเคราะห์เชิงลึกจาก The 1 Insight ยังเผยให้เห็นถึงกลุ่มย่อยที่เรียกว่า “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” ซึ่งแม้จะคิดเป็นเพียง 1% ของ Gen Y ทั้งหมด แต่กลับมีการใช้จ่ายที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยคิดเป็น 30% ของการใช้จ่ายรวม โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth ยังมีการใช้จ่ายเฉลี่ยมากกว่า Gen Y ทั่วไปถึง 7 เท่า สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนี้มีศักยภาพในการจับจ่ายและสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับสูง
.
กลุ่ม Gen Y-Wealth ประกอบไปด้วยทั้งกลุ่มผู้สืบทอดทรัพย์สินจากครอบครัวรุ่น Silent Generation และ Baby Boomersและกลุ่มนักธุรกิจที่สร้างตัวเองจากเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น ธุรกิจ E-commerce และเทคโนโลยี
นอกจากนี้ Gen Y กำลังจะเป็นผู้รับประโยชน์จากปรากฏการณ์ส่งต่อทรัพย์สินระดับโลกที่เรียกว่า Great Wealth Transfer ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ Gen Y มีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์
1.พร้อมจ่ายเพื่อ “ภาพลักษณ์” (Image-Driven Spending)
.
แรงจูงใจหลักของกลุ่ม Gen Y-Wealth สอดคล้องกับ Gen Y ที่เน้นการสร้างภาพลักษณ์มากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Generation ME” ของนักจิตวิทยา โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเติบโตมากับโซเชียลมีเดียที่การนำเสนอชีวิตและเปรียบเทียบกับผู้อื่นเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญคือ กลุ่ม Gen Y-Wealth มีความพร้อมทางการเงินที่จะตอบสนองความต้องการดังกล่าว ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่ม Premium Consumers ที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในตลาดปัจจุบัน โดยสัดส่วนการใช้จ่าย 50% ของกลุ่ม Gen Y-Wealth อยู่ในหมวดสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่และบิวตี้ โดยมีการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นลักชัวรี่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ 15 เท่า และในหมวดบิวตี้มากกว่าถึง 4 เท่า
.
ในส่วนของ 3 อันดับสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่ขายดีในกลุ่ม Gen Y-Wealth ได้แก่ Luxury Watch, Fine Jewelry, Designer Fashion โดยส่วนใหญ่นิยมช้อปปิ้งในห้างหรู อาทิเช่น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม Gen Y-Wealth ซึ่งมีการใช้จ่ายรวมสูงสุดจากทุกช่วงวัยที่สถานที่ดังกล่าว ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลก นอกจากนั้น ยังพบว่ามีกลุ่มที่ชื่นชอบกลุ่มแบรนด์ Quiet Luxury ที่ยังคงมีการเติบโตโดดเด่นและมอบภาพลักษณ์หรูในอีกระดับหนึ่ง นอกจากนี้ จากฐานข้อมูล The 1 พบว่า 40% ของกลุ่ม Gen Y-Wealth นั้นเป็นคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น พฤติกรรมการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นจึงรวมถึงแฟชั่นสำหรับเด็กด้วย โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายกับเสื้อผ้าสำหรับเด็กมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ ถึง 2 เท่า
.
ส่วนของ 3 อันดับสินค้าบิวตี้ขายดีในกลุ่ม Gen Y-Wealth ได้แก่ Shimmer Pressed Powder, Intensive Wrinkle Treatment, Luxury Perfume สะท้อนถึงความสำคัญของความงามในฐานะส่วนหนึ่งของการแสดงออกตัวตนของพวกเขา สำหรับคนในช่วงวัยนี้ การลงทุนดูแลความงามด้วยสินค้าบิวตี้เป็นการสร้าง Personal Branding ที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของมอบสิ่งดีๆ ให้กับตนเอง
2.เหนือกว่าด้วย “ประสบการณ์” (Prestige Experience)
กลุ่ม Gen Y-Wealth ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่ากลุ่ม Gen Y ทั่วไปอย่างชัดเจน โดยกลุ่ม GenY-Wealth มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ถึง 4 เท่า นอกจากนี้ การเลือกใช้บริการที่หรูหรา เช่น โรงแรมระดับโลก หรือการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นสิ่งที่กลุ่มนี้ให้ความสำคัญสูง เพราะถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ที่มีค่าและน่าจดจำ มากกว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้น แบรนด์ที่ต้องการดึงดูดกลุ่ม Gen Y-Wealth จึงควรเน้นการมอบประสบการณ์พิเศษที่ตอบสนองความต้องการในด้านความหรูหราและความแตกต่าง เพื่อสร้างความประทับใจที่เหนือกว่ากลุ่ม Gen Y ทั่วไป
.
จากข้อมูลชี้ว่า ชาว Gen Y-Wealth ชื่นชอบการเป็นสมาชิกของ Privilege Club ต่างๆ โดยมีจำนวนสมาชิกสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก Gen X ในโปรแกรม The 1 Exclusive และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีสัดส่วนสมาชิกสูงในโปรแกรม Cenfinity ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษสำหรับกลุ่ม Top Customers ลูกค้าคนสำคัญของห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
.
โดยทั้งสองโปรแกรมดังกล่าวเป็นผู้นำด้านการดูแลลูกค้า Wealth Segment ของไทยที่มอบสิทธิประโยชน์และบริการพิเศษทั้งในแง่ของ Dining, Hospitality, Travel, Wellness และ Lifestyle เรียกได้ว่าเป็นแรงจูงใจที่ตรงจุดสำหรับกลุ่ม Gen Y-Wealth ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์เหนือระดับเป็นอย่างมาก อาทิ การช้อปปิ้งแบบเหนือกว่าด้วยสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิก ที่ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของส่วนลด แต่ยังได้รับการบริการแบบพิเศษอย่างแท้จริงจาก Personal Shoppers ไปจนถึงการบริการลิมูซีนในห้างต่างประเทศทั่วยุโรป
.
สะท้อนให้เห็นว่าสำหรับกลุ่ม Gen Y-Wealth แบรนด์ไม่สามารถเข้าถึงของกลุ่มดังกล่าวด้วยการโฆษณาสรรพคุณสินค้าตรงๆ เพียงอย่างเดียว ทว่าอาจนำเสนอแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ในฐานะผู้มอบประสบการณ์ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมของพวกเขา

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต