เกาะสูตรแบรนด์ชุดนักเรียน ปรับธุรกิจอย่างไร เมื่อเด็กเกิดใหม่ลดลง!


สำรวจอินไซต์ตลาดชุดนักเรียนไทยที่มีมูลค่าประมาณ 3,000-5,000 ล้านบาท กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ จากจำนวนอัตราเด็กเกิดใหม่ของประเทศไทยที่หดตัวลงในทุกปี สะท้อนได้อย่างชัดเจนภายหลังโควิด อัตราเด็กเกิดใหม่ของไทยปรับลดลงมาอยู่ที่ 4-5 แสนคนต่อปี จากก่อนโควิด อยู่ที่ประมาณ 7-8 แสนคนต่อปี มีผลกระทบต่อตลาดสินค้าที่จำเป็นกับ “ชุดนักเรียน” ที่มีผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดกับแบรนด์ไทย ต้องปรับตัวรับมือกับปัจจัยความท้าทายนี้ไปให้ได้
.
อานนท์ จิตรมีศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้อมจิตต์ แมนูแฟกเจอร์ริ่ง จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ชุดนักเรียน น้อมจิตต์ กล่าวว่า ตลาดชุดนักเรียนไทยมีความท้าทายอย่างมากจากจำนวนเด็กเกิดใหม่ในประเทศไทยที่ปรับลดลงมาตลอดตั้งแต่โควิด มีผลกระทบต่อแบรนด์ชุดนักเรียนและแบรนด์ “น้อมจิตต์” ที่อยู่ในตลาดชุดนักเรียนมาเป็นเวลาร่วม 50 ปี และเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับหนึ่งในห้าของชุดนักเรียนไทย ต้องปรับตัวรับมือคลื่นการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
.
:: น้อมจิตต์ขยายน่านน้ำใหม่สู่ตลาดอาเซียน ::
ทั้งนี้บริษัทได้วางกลยุทธ์เพื่อรับมือทั้ง การปรับจากสินค้าที่เน้นชุดนักเรียนในไทยได้ขยายไปสู่ชุดนักเรียนในตลาดภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากอัตราการเกิดของเด็กในภูมิภาคอาเซียนที่อยู่ในระดับสูงมากกว่าตลาดไทย พร้อมกันนี้ได้ขยายไปสู่พอร์ตโฟลิโอสินค้าใหม่ ทั้งชุดสำหรับนักเรียนอาชีวะ ที่มีทิศทางขยายตัว และชุดนักเรียนสำหรับโรงเรียนนานาชาติ โดยตลาดในกลุ่มนี้ถือเป็นตลาดพรีเมียมที่มีราคาสินค้าสูงกว่าปกติ จากการมีดีไซน์แบบพิเศษ
.
อีกทั้งได้เร่งยกระดับสินค้าให้มีนวัตกรรม โดยเฉพาะการพัฒนาผ้ารุ่นพิเศษ ที่มีเนื้อผ้าไม่หนาและใส่แล้วเย็น จึงเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนของประเทศไทย โดยสินค้ารุ่นพิเศษจะผลิตในรูปแบบการผลิตให้แก่คู่ค้าต่างๆ (โออีเอ็ม) จึงช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ในประเทศไทย ทั้งนี้ภาพรวมแบรนด์ น้อมจิตต์ มุ่งเจาะตลาดในเซกเมนต์กลางและบนเป็นหลัก มีราคาสินค้าตั้งแต่ 400-600 บาทต่อชุด
.
ทางด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้าได้ผสมผสานการนำอินไซต์ของกลุ่มผู้บริโภคในตลาดชุดนักเรียนมาทำแผนให้สอดคล้องกัน จึงพัฒนาช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ รองรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่สะดวกมาเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเองผ่านห้างค้าปลีก โดยจากการขยายออนไลน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนยอดขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ มีสัดส่วน 10% ของยอดขายทั้งหมด
.
นอกจากการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้บริโภคแล้ว อีกความท้าทายของบริษัทที่กำลังเผชิญอยู่คือ แรงงานฝีมือในการผลิตสินค้าชุดนักเรียน เนื่องจากการผลิตชุดนักเรียนต้องใช้จักรในการเย็บแต่ละชุด จึงต้องการแรงงานที่มีทักษะทางด้านนี้ จากปัจจุบันบริษัทพนักงานที่ผลิตสินค้าในโรงงานประมาณ 200 คน รวมถึงต้นทุนสินค้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นและค่าแรงที่เพิ่มขึ้นในทุกปีเช่นกัน จึงประเมินว่า บริษัทจะสามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นได้อีกประมาณ 1-2 ปีนับจากนี้
.
ทั้งนี้ภาพรวมบริษัทมีกำลังการผลิตชุดนักเรียนเฉลี่ยที่ 5 หมื่นตัวต่อเดือน หรือรวมทั้งปีประมาณ 6 แสนชุดต่อปี ส่วนสาขาหลักที่เป็น แฟลกชิปสโตร์อยู่ที่บางกะปิ ซึ่งมีสินค้าครอบคลุมมากที่สุด
:: ชัยพฤกษ์ - ตราไก่คู่ มุ่งขยายผลิตแบบโออีเอ็ม ::
ทางด้าน สมบัติ เกียรติสุรนนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท กิจเจริญการ์เมนท์ (1993) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดนักเรียนในรูปแบบโออีเอ็มทั้งแบรนด์ ชัยพฤกษ์ และ ตราไก่คู่ เป็นต้น กล่าวถึงภาพรวมตลาดชุดนักเรียนไทยจะเป็นการแข่งขันกับแบรนด์ในประเทศไทยเป็นหลัก โดยแต่ละแบรนด์มุ่งทำตลาดและเจาะกลุ่มลูกค้าแตกต่างกัน แต่ตลาดชุดนักเรียนไม่มีแบรนด์จีนเข้ามาแข่งขัน เนื่องจากเป็นสินค้าที่ถูกควบคุมตามมาตรฐานของ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
.
ทั้งนี้บริษัทได้มีการปรับแผนรับมือตลาดชุดนักเรียนที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการหันมาผลิตชุดนักเรียนในรูปแบบโออีเอ็ม ให้แก่ห้างค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศทั้งบิ๊กซีและโลตัส พร้อมกำหนดราคาที่คุ้มค่า เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าในตลาดแมสเข้าถึงได้ง่าย โดยชุดนักเรียนของบริษัทจึงมีราคาเริ่มต้นที่ 69 บาทต่อชุด
.
พร้อมกันนี้ นโยบายภายในเน้นการบริหารจัดการและมุ่งดูแลต้นทุนภายในโรงงาน รวมถึงการมีกำลังการผลิตในระดับสูงเป็นข้อได้เปรียบ (economy of scale) โดยเฉลี่ยมีกำลังการผลิตประมาณสูงที่ 2 ล้านชุดต่อปี จากโรงงานผลิตชุดนักเรียนอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ จึงพยายามคงราคาสินค้าไว้เท่าเดิม ท่ามกลางต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ทยอยเพิ่มขึ้นมาตลอด

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

2025 ไทยรัฐกรุ๊ป ยกระดับประสบการณ์ผู้ชมครั้งใหญ่ ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ตอกย้ำเบอร์หนึ่งสื่อไทย

‘CHAGO’ ชานมแบรนด์ใหม่ จากอาณาจักร ‘รวยไม่หยุด’ ดึง ‘ออม-กรณ์นภัส’ นั่งหุ้นส่วนด้วย

เบื้องหลัง เสียง 'อิ้งค์-วรันธร' ประกาศชื่อ 'สถานี BTS' 'แบรนด์ดัง' ใช้โปรโมทพรีเซนเตอร์.

ไก่ทอดฮ็อทสตาร์ ผนึกเป๊ปซี่ รุก GEN Z

‘HAAB’ ขายขนมไข่เดือนละ ‘3 ล้านชิ้น’ เปิดร้านมา 1 ปี เตรียมบุก ‘มาเลเซีย’ เป็นประเทศแรก