โฆษณาเข้าสู่ ‘แดนลบ 1%’ ‘ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส’ เจาะ 5 อินไซต์ผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจฝืด

แบรนด์ชะลอใช้จ่าย ส่งผลให้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาเข้าสู่โหมด “ติดลบ” การผลักดันยอดขายให้โตกลับ “เมาหมัด” ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส เผย 5 อินไซต์ผู้บริโภค ขุมทรัพย์แห่งโอกาส
.
อุตสาหกรรมสื่อโฆษณามูลค่า “แสนล้านบาท” ยังคงหืดจับ เพราะปี 2568 ปัจจัยลบรายล้อมมากขึ้นต่อเนื่อง ทั้งเศรษฐกิจโลก ภาษีทรัมป์ ภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนกำลังซื้อ การบริโภคภายในประเทศชะลอตัว กำลังถูกซ้ำเติมด้วยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบในบ้านเมืองเพิ่มขึ้น
.
ปกติเมื่อพ้นมรสุม อุตสาหกรรมโฆษณา มักจะฟื้นตัวกลับมาได้ ทว่า ปี 2568 กลับไม่เห็นภาพดังกล่าว ดร.ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ฉายภาพว่า ผ่านครึ่งปีแรกภาพรวมงบโฆษณาอยู่ใน “แดนลบ 1%” ส่วนนักการตลาดเมื่อต้องคุยแผนงานกลยุทธ์ การสื่อสารการตลาด ผลักดันการเติบโต ต้องอยู่ในอาการ “เมาหมัด” ไม่น้อย
“อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาโดยปกติเมื่อเผชิญวิกฤติ และผ่านพ้นในปีถัดไปตลาดมักจะ bounce back กลับมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นช่วงวิกฤติต้มกุ้ง น้ำท่วม หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ปีนี้ติดลบแล้ว 1% แล้วเราจะอยู่รอดยังไง และในวันที่โลกหมุนเร็วมากขึ้น หลายครั้งที่เราคุยกันในช่วง 2-3 ปีมานี้ คือเรื่องการเติบโต แต่คุยทีไรเหมือนเมาหมัด”
.
ความท้าทายไม่เพียงแค่ต้องรับมือเศรษฐกิจ แต่นักการตลาดจะต้องหาทางขายสินค้าให้ได้ ยังต้องเจออัตราการเกิดที่น้อยลง สังคมสูงอายุ ล้วนกระทบธุรกิจโฆษณา พร้อมตั้งคำถามจะอยู่รอดอย่างไร ดังนั้นการจัดงาน “Punch Above The Market : ปล่อยหมัดฮุก..กลยุทธ์เหนือตลาด” สะท้อนจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ และเชื่อมั่นในโอกาสตลาดที่ยังมี พร้อมเปิด 5 อินไซต์ของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจ
.
1.The Shoptimizer กลุ่มคนฉลาดช็อป กลุ่มนี้มีขนาดใหญ่สุดของประเทศมีสัดส่วน 76% ซึ่งวิธีการคิดหรือมายด์เซ็ท พฤติกรรมเปลี่ยนตลอดกาล ภูมิใจที่เป็นนักช้อปสายประหยัด มีแนวโน้มระวังในการใช้จ่ายกว่าคนทั่วไปในทุกกลุ่มอายุ
.
“คนอาจคิดว่าคนกลุ่มนี้ถังแตก ไม่มีเงินหรือเปล่า แต่คนกลุ่มนี้ตระหนักรู้ในการใช้เงินเกินจำเป็น เลยเปลี่ยนตัวเอง ใช้จ่ายน้อยลง โดย 77% มีการลดการใช้จ่ายลง 10% ซึ่งต่อให้เศรษฐกิจดีกว่านี้ สงครามสงบจะยังประหยัดใช้เงินต่อไป เพราะมายด์เซ็ทเปลี่ยนตลอดกาลแล้ว”
.
ส่วนแนวโน้มการใช้จ่าย อิงกับรายได้ เช่น กลุ่มมีรายได้สูง ยังเที่ยวในและต่างประเทศ ลงทุน และซื้ออสังหาฯ กลุ่มมีรายได้น้อย ซื้อสินค้าแฟชัน เสื้อผ้า สินค้าความงาม เป็นต้น
.
2.The ReStarters กลุ่มที่หาโอกาสใหม่ มีราว 18 ล้านคน กลุ่มนี้ไม่ได้ “ล้มเหลว” แต่อยากเริ่มใหม่ หาเส้นทางชีวิตใหม่ เพราะ 89% มาจากหมดไฟ(Bun out) แต่กลุ่มนี้พร้อมก้าวไปข้างหน้า ยังเปิดใจรับแบรนด์ใหม่ด้วย 3.The Deep Z ลูกค้าแห่งอนาคตของแบรนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ 92% ยังมองหาความหมายของชีวิต พลิกมุมคิดกับไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตเปลี่ยน เช่น ต้องมีบ้าน มีรถ หน้าตาดี มิติการตลาด “เชื่อ” อินฟลูเอนเซอร์ คนดังน้อยลง มองหา “แบรนด์ที่จริงใจ” มากกว่าคำสัญญา
.
“ในเกาหลีใต้เกิดปรากฏการณ์ทางสังคม N-Po Generation เมื่อคนรุ่นใหม่ออกมายอมแพ้ในการใช้ชีวิต ไม่ต้องฝันให้ไกลไปให้ถึง แค่ฝันให้ใกล้ไปให้รอด และอยากใช้ชีวิตขี้เกียจๆ ให้นานขึ้น ส่วนค่านิยมการบริโภคขอแค่สนับสนุนแบรนด์ที่เป็นตัวของตัวเอง แบรนด์ที่ใจดีกับสิ่งแวดล้อม และคนอื่น ๆ เป็นต้น”
4.Next-Wave Tourists นักท่องเที่ยว ขุมทรัพย์แห่งโอกาสและเครื่องยนต์สร้างการเติบโตยอดขาย แม้ว่าไทยเผชิญนักท่องเที่ยวน้อยลง แต่ยังเป็นเป้าหมายที่มีศีกยภาพ เพราะหลายกลุ่มเงินมากเหมือนเดิม แค่มองหาประสบการณ์ใหม่จากการเดินทาง และ “จีน” ยังน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่อายุ 25-44 ปี กลุ่มลักชัวรี ที่ 49% วางแผนใช้จ่ายกว่า 2.5 หมื่นหยวน เพื่อเที่ยว และ 67% เลือกพักโรงแรม 4-5 ดาว แต่มองหา “ความปลอดภัย” และความเอ็กซ์คลูสีพ เป็นต้น ส่วนแบรนด์จะทำตลาดต้องเจาะแพลตฟอร์มของจีน
.
5.The Edgy Aging วัยเก๋าเจนใหม่ ประเทศไทยเข้าสู่งสังคมสูงวัย กลุ่มคนอายุ 55 ปีขึ้นไป มีสัดส่วน 30% เพิ่มจากช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดมี 13% เจาะลึกวัยเก๋าเจนใหม่มีราว 5.6 ล้านราย แต่เป็น “สายเปย์” ที่สำคัญช่วง 2-3 ปีที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่กลุ่มนี้ 66% ไม่ได้รับผลกระทบ หากต้องจับจ่ายใช้สอยยังพร้อมจ่ายมากถึง 2 เท่าเทียบกับกลุ่มคนทั่วไป ส่วนสินค้าที่จะช้อป นำโด่งคือเพื่อสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตามด้วยอาหาร สินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคล การเงินและการลงทุน ฯ
.
6.The Rural Gold Class คนต่างจังหวัดรายได้สูงอายุ 35 ปีขึ้นไป มีราว 8 ล้านราย ที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม กลุ่มนี้ มองสถานการณ์ 12 เดือนข้างหน้า “เศรษฐกิจจะดีขึ้นแน่นอน” แม้ระวังใช้จ่าย แต่ยังซื้อสินค้า ทั้งช้อปออนไลน์ 75% แต่ 40% จ่าย 1,000-3,000 บาทต่อเดือน แต่รวมการช้อปออนไลน์และออฟไลน์(O2O)ดันเงินสะพัด 9,000 ล้านบาทต่อเดือน วิถีช้อปเปย์เพราะอินฟลูเอนเซอร์ท้องถิ่นโดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต