‘อินทนิล’ ชิงตลาดมัทฉะพรีเมียม นำเข้าญี่ปุ่น ตั้งเป้าโต 2 เท่า ชูจุดแข็งราคา

ร้านกาแฟอินทนิล (Inthanin) ในเครือบางจาก เดินหน้าเสริมพอร์ตธุรกิจด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น สร้างภาพลักษณ์แบรนด์เครื่องดื่มพรีเมียม ที่มุ่งยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคสู่มาตรฐานสากล พร้อมเปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินงานและเป้าหมายการเติบโตระยะยาวที่ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด “คุณภาพและความยั่งยืน”
.
:: บุกตลาดชาเขียวมัทฉะพรีเมียม ::
“ณิภาภรณ์ จักรพิทักษ์” ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า อินทนิลได้เริ่มขยายสู่ตลาดชาเขียวมัทฉะพรีเมียมเป็นปีแรกในปีนี้ สอดรับกับกระแสการดูแลสุขภาพที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเลือกใช้มัทฉะจากบริษัท ยามามะ มัตสึดะเอ็น จำกัด (Yamama Masudaen Co., Ltd.) จังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาชั้นนำของญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัล “ถ้วยพระจักรพรรดิ” และมีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี
.
“อินทนิลให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ โดยเลือกใช้มัทฉะจากฟาร์มที่ใช้สารเคมีน้อยที่สุด และเป็นลูกค้ารายสำคัญที่รับซื้อมัทฉะพรีเมียมเกรดสูงสุดจากแหล่งผลิตนี้ พร้อมต่อยอดสู่เมนูมัทฉะที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทย เช่น มัทฉะมะพร้าว มัทฉะน้ำอ้อย และมัทฉะน้ำส้ม ซึ่งใช้น้ำผลไม้จากเกษตรกรไทยในพื้นที่บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเชื่อมโยงรสชาติจากญี่ปุ่นสู่ความเป็นไทย”
:: เป้าหมายการเติบโต ::
“ณิภาภรณ์” กล่าวว่า ร้านกาแฟอินทนิลมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ในส่วนธุรกิจ Non-Oil ของกลุ่มบางจาก โดยคิดเป็น 50% ของแผน “Bangchak 3” การเติบโตของอินทนิลจะมุ่งเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน เพื่อให้แฟรนไชส์ประสบความสำเร็จในการลงทุน
.
“ปัจจุบัน อินทนิลมีสาขากว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ มียอดขายเฉลี่ยราว 200 แก้วต่อวันต่อสาขา โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายต่อสาขาเป็น 2 เท่า หรือ 6,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า”
.
:: กลยุทธ์ราคา “Inthanin Everyday” ::
“ณิภาภรณ์” บอกว่า การเข้ามาของมัทฉะพรีเมียมถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีโอกาสเติบโตอย่างชัดเจน โดยคิดเป็นสัดส่วนยอดขายประมาณ 30% ถึงแม้สมรภูมิตลาดมัทฉะในประเทศไทยจะเริ่มเดือดและคาดว่าจะทวีความรุนแรงในปีหน้า แต่อินทนิลไม่กังวล เนื่องจากมีมัทฉะคุณภาพในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดยมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีที่สุด
.
อินทนิลขายเครื่องดื่มชาเขียวในราคา 70 บาท และ 90 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดแล้ว ราคาดังกล่าวอยู่ในระดับที่จับต้องได้ง่าย เพราะตลาดพรีเมียมอาจขายในราคา 100 ปลายๆ หรือ 200 บาท กลยุทธ์นี้คือการผลักดันโปรแกรม “Inthanin Everyday” เพื่อให้ลูกค้าสามารถดื่มเครื่องดื่มคุณภาพดีต่อสุขภาพได้ทุกวัน
.
“อินทนิลเลือกที่จะมีกำไรน้อยหน่อย แต่เน้นกำไรแบบยั่งยืนมากกว่า และได้มีการวางแผนสำรองสินค้าคงคลังไว้ล่วงหน้าสำหรับปีหน้า เพื่อป้องกันปัญหาด้านราคาหรือการผลิตที่ไม่ต่อเนื่อง”
:: “อเมริกาโน่” ขายดีอันดับหนึ่ง ::
“ณิภาภรณ์” กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ โดยเฉพาะกาแฟ ซึ่งรับซื้อจากดอยแม่สลอง เป็นเมล็ดอาราบิก้าคุณภาพสูงจากโครงการในพระราชดำริ นำมาพัฒนาเป็นเมนู “กาแฟพ่อหลวง Single Origin”
.
ในส่วนของเมนูหลัก “อเมริกาโน่” ยังคงเป็นสินค้าขายดีอันดับหนึ่งของร้าน ใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ที่สืบสานมาตรฐานคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เมนูโกโก้ของอินทนิลเลือกใช้โกโก้แท้ไม่ผสมแป้ง แม้มีต้นทุนสูงกว่า แต่ยังคงจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงได้
.
แนวทางดังกล่าวสะท้อนทิศทางการพัฒนาในธุรกิจ Non-Oil ของกลุ่มบางจาก ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความหลากหลาย และความยั่งยืน พร้อมยกระดับมาตรฐานธุรกิจสู่ระดับสากล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลในระยะยาว

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นีเวีย เปิดผลวิจัยระดับโลกชี้ ‘ความเหงา’ ภัยเงียบยุคใหม่ ชวนคนไทยช่วยกันดูแลใจ ภายใต้โครงการ NIVEA CONNECT

Reality Show เมืองไทย จะไปไกลทั่วโลก

ทุกความสำเร็จ เริ่มต้นที่..."ลงมือทำ"

SABUY เลิกถือหุ้นไขว้ บ.สบายฟูลฟิลเมนท์ ด้าน SBNEXT พ้นสถานะเป็น บ.ย่อย SABUY

”เอส“ เดินเกมส์ลุยปี 69 ส่งน้ำสีเรืองแสงเอาใจเจนซ่า