ยักษ์รีเทลเดินหน้าฝ่ากำลังซื้อซึม หวังมาตรการรัฐแรงกระเพื่อมเศรษฐกิจไฮซีซัน

แม้เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัว และสถานการณ์ความไม่แน่นอนรอบด้าน ฉุดความเชื่อมั่น ทำให้ภาพรวมกำลังซื้ออยู่ในสภาพซบเซา 
.
อย่างไรก็ตาม ในห้วงเวลาที่กำลังเข้าสู่ไฮซีซัน หรือเทศกาลแห่งการจับจ่ายสูงสุดประจำปี ขณะนี้ได้แรงหนุนจากภาครัฐอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน ผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 20-26 ต.ค.68 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 29 ต.ค. – 31 ธ.ค.2568 จะเป็นหนึ่งในยาแรงฟื้นบรรยากาศใช้จ่าย สร้าง Multiplier Effect ต่อเศรษฐกิจไทย
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เพื่อต่อยอดนโยบายภาครัฐให้เกิดผลคูณทางเศรษฐกิจ หรือ Retail Multiplier Effect เดอะมอลล์ กรุ๊ป เตรียมจัดแคมเปญพิเศษในทุกศูนย์การค้า ได้แก่ เดอะมอลล์, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เพื่อจูงใจให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ และใช้จ่ายจริง
.
คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค และร้านอาหารไม่น้อยกว่า 10% พร้อมกระตุ้นทราฟิกในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้เติบโตต่อเนื่อง
.
“เราเตรียมเปิดทุกศูนย์การค้าในเครือเป็นพื้นที่ขับเคลื่อนกำลังซื้อของประเทศในฐานะฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมจัดกิจกรรม และโปรโมชันพิเศษเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายช่วงปลายปี ซึ่งถือเป็นฤดูกาลสำคัญของเศรษฐกิจไทย”
.
ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งพลัส เป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างตรงจุด เพราะเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่ง เดอะมอลล์ กรุ๊ป พร้อมสร้างแรงส่งเชิงบวกให้เกิดการใช้สิทธิจริงในระบบค้าปลีก เพื่อให้เศรษฐกิจไทยหมุนเวียนอย่างแข็งแรงและยั่งยืน ด้วยการทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกระจายรายได้ โดยเฉพาะร้านค้าในศูนย์การค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง เชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศการจับจ่าย และเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจค้าปลีกได้อย่างเป็นรูปธรรม
:: จับจ่ายเดือนต.ค.คึกคักทราฟฟิกเพิ่ม 5% ::
โดยภาพรวมภายในศูนย์การค้ากลุ่มเดอะมอลล์ ช่วงเดือนต.ค.โดยเฉพาะวันหยุดยาวที่ผ่านมา (11-13 ต.ค.68) มีบรรยากาศคึกคักมากขึ้น จากปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งการเป็นวันหยุดต่อเนื่อง การปิดภาคเรียนของโรงเรียน ทำให้มีลูกค้ากลุ่มครอบครัวและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ ใช้เวลาพักผ่อน และจับจ่ายในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยประมาณ 5%
.
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าในเครือทุกสาขาได้จัดกิจกรรมทางการตลาดที่สร้างสรรค์ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อาทิ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน” จัดงาน The Mall Lifestore Jungle Walk 2025 พาลูกค้าเปิดประสบการณ์ท่องโลกมหัศจรรย์ของสัตว์แปลก พร้อม Mermaid Show ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม รวมถึงการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ยอดนิยมอย่าง CHAGEE (ชาจี) และ IS AM ARE ซึ่งดึงดูดลูกค้าจำนวนมากให้มาต่อคิวตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน
.
ส่วน “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค” ได้รับการตอบรับอย่างดีจากการจัดงานฉลอง 50 ปี Super Sentai Carnival และ สาระแน ฟู้ดแฟร์ ที่มีศิลปิน และร้านอาหารชื่อดังมาร่วมสร้างสีสันให้กับศูนย์การค้าอย่างคึกคัก
:: กำลังซื้อส่งสัญญาณเชิงบวก ::
นางสาววรลักษณ์ กล่าวต่อว่า โดยรวมแล้ว เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังคงเห็นสัญญาณเชิงบวกของกำลังซื้อ โดยเฉลี่ยมีผู้ใช้บริการราว 80,000 คนต่อวันในวันธรรมดา และกว่า 100,000 คนในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งการจัดกิจกรรมในช่วงเดือนต.ค.ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง 
.
“แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับการใช้เวลาคุณภาพ การพักผ่อน และการใช้ชีวิตร่วมกันในศูนย์การค้า”
.
ซึ่งกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าย้ำแนวคิดในการพัฒนาศูนย์การค้าให้เป็น “พื้นที่แห่งประสบการณ์ พื้นที่แห่งความสุข และพื้นที่ของคอมมูนิตี้” เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้กับลูกค้า และสังคมอย่างต่อเนื่อง
.
:: “เอ็มสเฟียร์”พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ ::
สำหรับ “เอ็มสเฟียร์” ในฐานะศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ใจกลางสุขุมวิท มองเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างน่าสนใจ ลูกค้าใช้เวลานานขึ้น กระจายตัวไปในหลายโซน ทั้งพื้นที่ open space, ร้านอาหาร, และโซน experiential อย่าง EM Wonder ที่เป็นจุดหมายยอดนิยมของกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน หรือ EM Market ซึ่งเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของประสบการณ์มากกว่าความหนาแน่นของผู้คน 
.
ล่าสุดร่วมกับศิลปินระดับโลก Jackson Wang จัดกิจกรรม “UNDER THE CASTLE” เพื่อฉลองเทศกาลฮาโลวีน พร้อมกิจกรรมแฟนมีต ซึ่งดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติ รวมถึงการปรากฏตัวของ Butter Bear ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าศูนย์การค้าไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่จับจ่าย แต่เป็นพื้นที่สร้างวัฒนธรรมร่วม และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับคนเมืองอีกด้วย
.
:: เซ็นทรัลเวิลด์ดึงลูกค้า 1.5 แสนคนต่อวัน ::
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ภาคค้าปลีกเข้าสู่ช่วงไฮซีซันทำให้บรรยากาศในภาพรวมกระเตื้องขึ้น การจับจ่ายคึกคัก และ “เซ็นทรัล พาร์ค” ซึ่งจะเปิดครบ 100% ภายในเดือนธ.ค. จะเป็นหนึ่งในสีสันของไฮซีซันนี้ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนไทยมากขึ้น
.
แม้ที่ผ่านมาจะมีการปรับตัวลดลงของตลาดนักท่องเที่ยวจีน แต่ไม่กระทบต่อศูนย์การค้าเซ็นทรัลมากนัก เพราะยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวอื่นทดแทนทั้งจากยุโรป อาทิ อิตาลี นอร์เวย์ อังกฤษ เพิ่มขึ้นกว่า 30% รวมถึงกลุ่มซีแอลเอ็มวี และมาเลเซีย ทำให้สาขาในเมืองท่องเที่ยวขยายตัวดี ทั้งอุดรธานี อุบลราชธานี หาดใหญ่ และภูเก็ต
.
ขณะที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” ศูนย์การค้าแฟลกชิปใจกลางกรุงเทพฯ มีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ย 150,000 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15-20% ในช่วงมีงานอีเวนต์ใหญ่ สำหรับ “เซ็นทรัล พาร์ค” มีลูกค้าเฉลี่ย 50,000 คนต่อวัน จากแผนการตลาดเชิงรุกต่อเนื่อง โดยแต่ละปีเซ็นทรัลพัฒนามีการ์จัดงานอีเวนต์ และกิจกรรมต่างๆ ในศูนย์การค้าทั่วประเทศ รวม 20,000 งาน เพื่อทำให้ร้านค้า และคู่ค้าขยายตัวด้วยกัน พร้อมร่วมกระตุ้นทราฟฟิกของลูกค้าในเติบโต โดยภาพรวมศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศมียอดทราฟฟิก 500 ล้านคนต่อปี มีลูกค้าต่างชาติใช้บริการประมาณ 67 ล้านคนต่อปี
.
:: ดีเดย์มิกซ์ยูสแห่งแรกในกระบี่ 24 ต.ค.68 ::
เซ็นทรัลพัฒนาเตรียมสร้างความคึกคักให้เศรษฐกิจภาคใต้ โดยเตรียมเปิดบริการศูนย์การค้าลำดับที่ 44 “เซ็นทรัล กระบี่” วันที่ 24 ต.ค.68 ภายใต้คอนเซปต์ “Made by Krabi สัมผัสความสุข จากทุกความเป็นกระบี่” นับเป็นโปรเจกต์มิกซ์ยูสแห่งแรกของจังหวัดกระบี่ บนที่ดิน 114 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท ประกอบด้วยโรงแรม คอนโดมิเนียม ที่พักอาศัย และศูนย์การค้า พื้นที่อาคารรวม 86,609 ตร.ม. ทำหน้าที่เป็น “ห้องรับแขก” ของเมืองรอต้อนรับผู้มาเยือน พร้อมปักหมุดเป็นศูนย์การต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
.
กระบี่ เป็นตลาดศักยภาพ โดยปี 2567 ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 6.3 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากยุโรป มาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสวีเดน และเดนมาร์ก ที่นิยมพักแบบระยะยาว (Long Stay) และทำงานแบบ Digital Nomad โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)คาดการณ์ว่าปี 2568 กระบี่จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวแตะ 100,000 ล้านบาท พร้อมก้าวสู่ Tourism Powerhouse of Andaman หรือ เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ โดยสร้างรายได้ ‘Top5’ ของประเทศ (ไม่รวมกรุงเทพฯ) และ ‘Top3’ ของภาคใต้”
.
:: ยึดแผนลงทุน 5 ปี 1.2 แสนล้าน ::
สำหรับยักษ์ใหญ่เซ็นทรัลพัฒนายังคงเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อปักหมุดทำเลศักยภาพ สร้างแต้มต่อ และความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัลพัฒนา ได้กล่าวถึงแผนธุรกิจไว้ว่า 5 ปีจากนี้ (2568-2572) จะมุ่งขยายการลงทุนธุรกิจศูนย์การค้า สำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย ภายใต้งบกว่า 120,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 20,000 ล้านบาทต่อปี เน้นโครงการมิกซ์ยูส 
.
ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการพร้อมปรับตัวให้ทันกับสภาพตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 
.
“แม้เศรษฐกิจไม่เอื้ออะไรมาก แต่เราเป็นบริษัทที่ต้องเติบโต และมั่นใจในกลยุทธ์รีเทลมิกซ์ยูส ทำให้ได้รับผลกระทบน้อย เพราะโครงการมีความสะดวก สบาย ครบวงจร ลูกค้าชอบ”
.
:: บิ๊กอีเวนต์ 20 ปีสยามพารากอน ::
ทางด้านกลุ่มสยามพิวรรธน์ เตรียมบิ๊กอีเวนต์พร้อมทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญของโกลบอลแลนด์มาร์กอย่าง “สยามพารากอน” ในวาระครบรอบ 20 ปี ด้วยการลงทุนกว่า 1,250 ล้านบาท พร้อมงบการตลาดอีก 200 ล้านบาท เปิดตัว 3 New World-Class Attractions ในไตรมาสสุดท้ายนี้ ได้แก่ SEA LIFE Bangkok-One of the Largest Aquarium in Southeast Asia (ที่มีอยู่เดิม) พื้นที่ 10,500 ตร.ม. มีผู้มาเข้าชมไม่ต่ำกว่าปีละ 2.5 ล้านคน และเพิ่มอีก 2 รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน บนพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. คือ MELAND-World-Leading Indoor Theme Park แห่งแรกในประเทศไทย และ NEXTOPIA-เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต เป็น Revolutionary Concept แห่งแรกของโลก และยังมี Siam Paragon Dining Phenomenal โลกใหม่ของการกินดื่ม
.
ปัจจุบัน สยามพารากอน มีลูกค้าใช้บริการ 100,00-150,000 คนต่อวัน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ 70,000-100,000 คนต่อวัน ขณะที่ไอคอนสยาม 100,000-150,000 คนต่อวัน 
.
:: ซัพพลายเพิ่ม 3 ล้านตร.ม.ใน 3-4 ปี ::
หากสำรวจโครงการพัฒนาศูนย์การค้าที่จะทยอยเปิดบริการในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ประเมินว่าจะมีพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นอีกราว 3 ล้านตร.ม. ส่วนใหญ่เป็นเมกะโปรเจกต์ระดับหมื่นล้านบาทในกรุงเทพฯ รวมทั้งเมืองท่องเที่ยวภูเก็ต เชียงใหม่ เมืองรองต่างๆ โดยกลุ่มเซ็นทรัล ภายใต้การขับเคลื่อนของเซ็นทรัลพัฒนามีโครงการในพอร์ตมากสุด ขณะที่ เดอะมอลล์ อยู่ระหว่างพัฒนาอภิมหาโปรเจกต์ “แบงค็อก มอลล์” ย่านบางนา ส่วน สยามพิวรรธน์ ขยายการลงทุนสู่เมืองท่องเที่ยวระดับโลกภูเก็ต และ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป มีโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวเช่นกัน
.
การเกิดขึ้นของซัพพลายจำนวนมาก ย่อมเป็นที่จับตาถึงปัญหา “โอเวอร์ซัพพลาย” ขณะที่ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวย้ำว่า ความเจริญ และขยายตัวของเมืองเกิดขึ้นตลอดเวลา ทำให้เกิดย่านการค้าศูนย์กลางธุรกิจใหม่ หรือ New CBD (Central Business District) เป็นโอกาสสำหรับการลงทุน พัฒนาโครงการใหม่ของเซ็นทรัลพัฒนาที่มุ่งสร้าง “แลนด์มาร์กใหม่” ในมิติใหม่ๆ ให้กับกรุงเทพฯ และทำเลศักยภาพทั่วประเทศ
.
“กรุงเทพฯ ไม่มีทางเต็ม เมืองยังขยายได้อีกย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ยังคงเกิดขึ้นได้อีก ทำให้เรามีโลเคชันใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาสำหรับการขยายพอร์ตธุรกิจ”
.
ดังนั้น ไม่ว่าเศรษฐกิจ “ดี” หรือ “ไม่ดี” เซ็นทรัลพัฒนายังคงดำเนินงานตามแผนลงทุนมุ่งสร้างการเติบโตในระยะยาวอย่างมั่นคง และยั่งยืน
.
เพราะการพัฒนาเมกะโปรเจกต์ คือ การมุ่งพัฒนาเมืองให้ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิต สร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มี Quality of Life ที่ดีที่สุดเมืองหนึ่ง รวมถึงลงทุนพัฒนาโครงการในระดับ Flagship ที่จะมาพลิกโฉมย่าน สร้าง New Cultural Hub & Business District แห่งใหม่ให้กับเมือง เช่นเดียวกับมหานครชั้นนำของโลกอย่างนิวยอร์ก ลอนดอน กรุงโซล และโตเกียว

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นีเวีย เปิดผลวิจัยระดับโลกชี้ ‘ความเหงา’ ภัยเงียบยุคใหม่ ชวนคนไทยช่วยกันดูแลใจ ภายใต้โครงการ NIVEA CONNECT

Reality Show เมืองไทย จะไปไกลทั่วโลก

ทุกความสำเร็จ เริ่มต้นที่..."ลงมือทำ"

SABUY เลิกถือหุ้นไขว้ บ.สบายฟูลฟิลเมนท์ ด้าน SBNEXT พ้นสถานะเป็น บ.ย่อย SABUY

”เอส“ เดินเกมส์ลุยปี 69 ส่งน้ำสีเรืองแสงเอาใจเจนซ่า