‘พีช-พชร’ ว่าที่อายุน้อยพันล้าน! ‘Potato Corner-UNO Coffee’ โตแรง ชี้ นี่คือนาทีทองของ SMEs

เปิดที่มาเส้นทางธุรกิจ “พีช-พชร จิราธิวัฒน์” ชอบกินของทอดตั้งแต่เด็ก เข้ามหาวิทยาลัยแต่ไม่ตั้งวงดนตรีเพราะเพื่อนเล่นไม่เป็น ชวนทำธุรกิจด้วยกัน ขยายพอร์ต-สร้างอาณาจักร 3 แบรนด์ใหญ่ “Potato Corner-UNO Coffee-ข้าวโซอิ” ไม่เชื่อ Personal Branding อยากให้แบรนด์อยู่ได้ด้วยตัวเอง เชื่อ นี่คือเวลาของ SMEs แม้เศรษฐกิจแย่ แต่แบรนด์เล็กไปต่อได้-โตเร็วสุด
.
หลายคนอาจจะทราบแล้วว่า “พีช-พชร จิราธิวัฒน์” ไม่ได้สวมหมวกในฐานะนักแสดงเท่านั้น แต่ยังเอาจริงเอาจังกับบทบาทนักธุรกิจที่ลงขันร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จนเกิดเป็น “Potato Corner” ที่มีต้นกำเนิดจากร้านรถเข็นในประเทศฟิลิปปินส์ กระทั่งพีชและเพื่อนๆ ได้สิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ แล้วนำมาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับพฤติกรรมการกินของคนไทยมากขึ้น จนทำให้ปัจจุบันเครือร็อคส์กรุ๊ป ที่มี “Potato Corner” เป็นแบรนด์แรก ทำเงินได้สูงถึง 790 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
นอกจาก Potato Corner “พีช” ยังมีอีก 2 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ “ข้าวโซอิ” (Khao-Sō-i) ร้านข้าวซอยฟิวชันที่มี “วิน ศรีนวกุล” เป็นผู้ก่อตั้ง และ “UNO Coffee” ร้านกาแฟที่เป็นกระแสลากยาวมาหลายเดือน ด้วยราคาที่จับต้องได้พร้อมกับคุณภาพเมล็ดกาแฟเกอิชาพรีเมียม ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 6 สาขา และกำลังจะเปิดสาขาที่ 7 ภายในปีนี้ด้วย
.
“พีช” เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจเครือร็อคส์ กรุ๊ป บนเวที “Thai SMEs Reshape 2026 ทางรอด SMEs ไทย” ในงาน BITKUB SUMMIT 2025 ว่า ตนเองเป็นคนชอบกินตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะของทอด ฝันอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองตั้งแต่เรียนชั้นประถมเลยก็ว่าได้ จนมีโอกาสเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนั้นเองที่ “พีช” ได้เจอกับกลุ่มเพื่อนๆ จึงเริ่มคิดอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเองดูสักตั้ง
.
ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่นทั่วไปอาจคิดอยากฟอร์มวงดนตรีมาเล่นกัน แต่ปรากฏว่า เพื่อนๆ ของพีชไม่มีใครเล่นดนตรีเป็น แต่อยากหากิจกรรมทำร่วมกัน คุยกันว่า มาลองเปิดร้านอาหารดูมั้ย ตอนนั้นทดลองกันหลายโมเดล เริ่มจากอยากทำอาหาร Fine Dining แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อย องค์ความรู้ไม่มากพอ ไม่รู้จะจัดการสต๊อกสินค้าอย่างไร
.
สารพัดคำถามที่เกิดขึ้นจึงค่อยๆ ลดสเกลลงมา กระทั่งเจอกับ “Potato Corner” พีชมองว่า เป็นโปรดักต์ที่เหมาะกับตัวเองมาก เพราะชอบกินสแน็คแนวๆ นี้อยู่แล้ว การบริหารจัดการก็น่าจะทำได้ไม่ยาก ในที่สุดก็ออกมาเป็น “Potato Corner Thailand” ในปี 2559
ต้นกำเนิดของ “Potato Corner” อยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โมเดลเดิมเป็นร้านรถเข็นเล็กๆ อยู่ตามตลาดนัดต่างๆ ตรงกันข้ามกับหน้าตาร้าน Potato Corner ที่เมืองไทยโดยสิ้นเชิง พีชบอกว่า แม้บริษัทแม่จะมี “Playbook” มาให้ แต่เมืองไทยเป็นตลาดที่มีความพิเศษเฉพาะตัวมากกว่า รสนิยมการกินแตกต่างจากประเทศอื่นๆ โดยสิ้นเชิง ต้องนำแบรนด์มา Localized ค่อนข้างเยอะ มีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น รสชาติ 4 แบบที่ต้องคงไว้ตามเดิม แต่เนื้อในและรายละเอียดต่างๆ ต้องปรับให้เข้ากับความชอบคนไทยมากขึ้น
.
ใช้เวลา R&D โปรดักต์อีกราวๆ 1 ปี ทำการตลาดเองกันภายใน เพราะมองว่า คู่แข่งท่ามกลางธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างดุเดือด กระเป๋าสตางค์ของผู้บริโภคมีกันคนละใบ จะทำอย่างไรให้เขาเลือกร้านเรา แม้มี Playbook มาแล้ว แต่ก็แทบจะต้องรื้อใหม่ทั้งหมด ซึ่งกลยุทธ์ Localization น่าจะเป็นคีย์หลักที่ทำให้ร้านมันฝรั่งแห่งนี้ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
.
“จะเห็นว่า Potato Corner ที่เมืองนอกหน้าตาไม่เหมือนในไทยเลย ที่เมืองนอกเป็นร้านคีออส ขายตามรถเข็น แต่เราเอาเข้ามาเปลี่ยนใหม่ ทำให้พรีเมียมขึ้น เรียกว่า แทบจะถอดร่างทิ้งหมดเลย การเป็นร้านแฟรนไชส์ มีกรอบประมาณหนึ่งว่า อย่าออกจากเส้นนี้ อย่างน้อยๆ เรายังมีจุดสตาร์ทว่า ไปได้แค่ไหน แต่ถ้าเริ่มแบรนด์เองตั้งแต่แรกอาจจะตัดสินใจไม่ได้สักที ชอยส์เยอะไปหมด”
.
แม้ผู้บริหารหนุ่มจะทำอาชีพนักแสดง แต่ก็ไม่เคยคิดนำตัวเองไปผูกกับแบรนด์มากมาย เพราะไม่เชื่อในเรื่อง “Personal Branding” อยากสร้างแบรนด์ให้มี “Longevity” ต้องอยู่ได้แม้ในวันที่ตนเองไม่อยู่แล้ว “พีช” บอกว่า การทำ Personal Branding ไม่มีผิดไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับคอนเซปต์ของธุรกิจแต่ละประเภท แต่สำหรับ “ร็อคส์ กรุ๊ป” ยังวางแนวทางไว้แบบนี้ เผื่อวันหนึ่งหมดแพชชันกับธุรกิจ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ถึงวันนั้นแบรนด์ก็ยังไปต่อได้ คนทำงานเดินต่อได้
.
เมื่อถามถึงการเข้ามาดิสรัปต์ธุรกิจโดย AI “พีช” บอกว่า ทรัพยากรหลักๆ ของ “ร็อคส์ กรุ๊ป” ยังเป็นแรงงานมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธการทำงานของ AI นำมาปรับใช้ในส่วนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ-ประหยัดต้นทุนมากขึ้น มอง AI เป็นส่วนหนึ่งของทีม เทรน AI ให้มีวิธีคิดแบบเดียวกับบริษัท ช่วยลดต้นทุนบางส่วนได้ ช่วยได้อย่างมากกับการคิดแคมเปญการตลาด ทำให้ตัดสินใจเร็วขึ้น เสียเวลาน้อยลง ลดทอนความเสี่ยงได้ประมาณหนึ่ง
.
สำหรับภาพต่อไปของ “ร็อคส์ กรุ๊ป” พีชยังมองธุรกิจตัวเองเป็น SMEs และเชื่อว่า นี่คือปีของ SMEs หลายคนอาจมองว่า ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ ทำมาหากินลำบาก แต่ส่วนตัวเชื่อว่า นี่คือช่วงเวลาที่ SMEs จะโตเร็วที่สุด องค์กรขนาดใหญ่ขับเคลื่อนลำบากเพราะต้นทุนสูง ยิ่งตัวเล็กยิ่งคล่องตัว และต้องพยายามทำให้เกิด Value มากที่สุด รู้ว่า หลายคนเหนื่อย ท้อ แต่อยากให้กำลังใจ เพราะเป็นเวลาของเรา เป็นเวลาที่ต้องสู้

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต