โรงแรม ‘ภูเก็ต’ ปี 67 ฮอตเกินต้าน! พาเหรดอัป ‘ราคาห้อง’ สูงเป็นประวัติการณ์

ธุรกิจโรงแรม “ภูเก็ต” ในปี 2568 มีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องจากปี 2567 ที่ผู้ประกอบการต่างยกให้เป็นปีทอง สามารถปรับ “ราคาห้องพัก” ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ทำโรงแรมมา! มาพร้อมการฟื้นตัวเชิงจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

.

โดย “สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้” ประเมินว่าปี 2567 จะมีจำนวนรวมไม่น้อยกว่า 13.5 ล้านคน ใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด

.

ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมใน “ภูเก็ต” ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ถือว่าดี ยอดจองห้องพักค่อนข้างเต็มแล้ว ยังเหลือห้องพักบางส่วนที่โรงแรมเก็บไว้ขายสำหรับการจองแบบกระชั้นชิด (Last Minute) ในราคาสูง โดยโรงแรม 4 ดาวขายกันในราคามากกว่า 10,000 บาทต่อคืน ส่วนโรงแรม 5 ดาว ราคากระโดดไปถึง 20,000 บาทต่อคืนแล้ว ขณะที่โรงแรมในตัวเมืองภูเก็ตซึ่งปกติขายประมาณ 1,000 บาทต่อคืน สามารถขยับราคาขายเป็น 2,000 บาทต่อคืน

ปกติช่วง “ไฮซีซัน” 5 เดือนของภูเก็ตตั้งแต่เดือน พ.ย.-มี.ค. ราคาห้องพักจะปรับเพิ่มขึ้น 30-40% อยู่แล้ว แต่พอเข้าสู่ช่วงพีคเทศกาลปีใหม่ มีการใช้กลยุทธ์กำหนดราคาแบบไดนามิก (Dynamic Pricing) ปรับราคาเพิ่มไปอีก 30-40% จากปกติ อย่างโรงแรม 4 ดาว ช่วงโลว์ซีซันขายราคา 2,500-3,000 บาทต่อคืน แต่พอเข้าไฮซีซัน ขายได้ราคา 5,000 บาทต่อคืน โดยในช่วงพีคเกือบ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2567 – 5 ม.ค. 2568 ราคาขึ้นไปถึง 8,000-14,000 บาทต่อคืน เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงโลว์ซีซัน เฉพาะวันปีใหม่ราคาไม่น้อยกว่า 10,000 บาทต่อคืน

.

:: คาดอัตราเข้าพักปี 67 เฉียด 80% อัปราคาห้องสูงทุบสถิติ! ::

.

จากการสำรวจ “อัตราการเข้าพัก” (Occupancy Rate) ของโรงแรมภูเก็ตช่วง 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2567 พบว่าเฉลี่ย 77% เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 70% เฉพาะเดือน พ.ย. ซึ่งเข้าสู่ไฮซีซันแล้ว เฉลี่ย 86% ถือว่าค่อนข้างสูง กระโดดจากโลว์ซีซันซึ่งได้ 60-70% และคาดว่าเดือน ธ.ค. จะใกล้เคียงระดับนี้ที่ 86-90% ทำให้ตลอดปี 2567 ภูเก็ตมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 78-79% ส่วนแนวโน้มอัตราการเข้าพักในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 2568 คาดเพิ่มเป็น 90% ขึ้นไป

.

ด้านภาพรวม “ราคาห้องพัก” (Average Daily Rate: ADR) โรงแรมภูเก็ตปี 2567 ทางผู้ประกอบการหลายรายระบุว่า สามารถทำราคาห้องพักได้ดีมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ทำโรงแรมกันมา! ส่งผลให้มีรายได้ดีขึ้นตามไปด้วย แม้ว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยจะไม่ได้พีคเหมือนอดีตที่เคยเน้นเชิงปริมาณ (Volume) เพิ่มอัตราการเข้าพักให้สูงเข้าไว้ ทำให้ต้องแข่งขันรุนแรง ขายในเรตราคาต่ำหวังจูงใจนักท่องเที่ยว แต่ในปี 2567 ผู้ประกอบการโรงแรมภูเก็ตปรับกลยุทธ์วางเรตราคาห้องพักไว้ค่อนข้างสูง แม้อัตราการเข้าพักจะไม่สูงเท่าอดีต แต่ทำให้ “รายได้ต่อห้องพัก” (RevPAR) สูงขึ้น คุ้มค่าในการขาย ห้องไม่ช้ำ หนุนภาพรวมรายได้สูงตามไปด้วย

ยกเว้นบางโรงแรมที่ยังต้องพึ่งตลาดนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ ยังไม่เข้าไปอยู่ในเซ็กเมนต์ตลาดที่หลากหลาย อย่างโรงแรมตรงโลเกชันในตัวเมืองภูเก็ตก็ยังเจอความท้าทายด้านการขายห้องพักอยู่ ไม่เหมือน “โรงแรมตามชายหาด” ที่สามารถรับลูกค้าได้หลากหลายกว่า “เล่นยีลด์” ได้ดีกว่า!

.

:: กระชับองค์กร เตรียมแผนรับมือโลกผันผวน ::

.

“มองย้อนไปตอนเผชิญความยากลำบากช่วงโควิดระบาดอยู่นานหลายปี ได้มอบบทเรียนสำคัญแก่ภาคการท่องเที่ยวภูเก็ตที่ตอนนี้คัมแบ็กได้อย่างโดดเด่น ผู้ประกอบการต่างเตรียมความพร้อมรับมือความเสี่ยงต่างๆ ในภาวะโลกผันผวน ด้วยไม่อาจรู้ล่วงหน้าว่าวิกฤติจะมาเยือนอีกเมื่อไร”

.

โดยเตรียมพร้อมรับมือทั้งทางด้านการเงิน การบริหารบุคลากร การปรับโครงสร้างการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งโรงแรมส่วนใหญ่ในตอนนี้จ้างพนักงานคิดเป็นสัดส่วน 75% เมื่อเทียบกับยุคก่อนโควิด เน้นให้พนักงานทำได้หลายหน้าที่มากขึ้น แต่ปริมาณงานไม่ได้มากขึ้นเพราะผ่านการปรับลดระบบและโครงสร้างอันซับซ้อนไปแล้ว ช่วยให้พนักงานได้ “เซอร์วิสชาร์จ” (Service Charge) มากขึ้น จากตัวหารจำนวนพนักงานลดลง นับเป็นการปรับ “รูปแบบการทำงานใหม่” มีการนำระบบออนคลาวนด์ (On Cloud) และระบบคลัสเตอร์ (Cluster) ช่วยลดคนจาก 3 คนเหลือ 1 คน และทำให้องค์กรกระชับขึ้นไปโดยปริยาย

.

:: แนวโน้มปี 67 นักท่องเที่ยวไทย-เทศเยือนภูเก็ต 13.5 ล้านคน ::

.

ศึกษิต เล่าเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวม “จำนวนนักท่องเที่ยว” ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตทั้งปี 2567 สมาคมฯ ประเมินว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 13.5 ล้านคน ใกล้เคียงปี 2562 ก่อนโควิดระบาดที่มีจำนวน 14 ล้านคน หลังสถิติช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปี 2567 ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวสะสมรวม 9.55 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 2.19 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 23% ของทั้งหมด ส่วนอีก 7.36 ล้านคนหรือคิดเป็น 77% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ

.

ส่วนแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2568 คาดว่าจะเท่ากับหรือดีกว่าปี 2562 ก่อนโควิดระบาด ต้องดูปัจจัย “จำนวนเที่ยวบิน” เข้าภูเก็ตเป็นหลัก เพราะในช่วงไฮซีซันมีเที่ยวบินค่อนข้างหนาแน่น อัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) เกือบเต็มลำ ขีดความสามารถในการรองรับด้านต่างๆ เช่น สนามบิน ค่อนข้างเต็มแล้ว ถ้าจะเติมเที่ยวบินเพิ่ม ต้องเป็นช่วง “โลว์ซีซัน” เพราะเป็นช่วงที่มีอัตราการเข้าพักภูเก็ตเฉลี่ย 70% ยังมีช่องให้เติมลูกค้าเพิ่มได้อีก 30%

.

“ยิ่งในช่วงตลาดแบรนเด็ด เรสซิเดนส์ (Branded Residence) เข้ามาแจ้งเกิดในภูเก็ต ส่วนใหญ่เป็นเซ็กเมนต์เจาะกลุ่มลักชัวรี มีการก่อสร้างวิลล่าหรูจำนวนมาก ทำให้ภาพลักษณ์ของภูเก็ตดูดีมาก แต่ก็ยังติดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่ขยายตัวไม่ทันการเติบโตของดีมานด์” นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวปิดท้าย

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต