‘เครื่องฟอกอากาศ’ นิวไฮ โต 200% เร่งนำเข้าเพิ่ม ‘หวั่นสต็อกขาด’

คนเมืองกังวลฝุ่น PM 2.5 กระทบสุขภาพ หนุนตลาดเครื่องฟอกอากาศสร้างยอดขายพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เติบโต 100-200% จากปกติ เพาเวอร์บาย เพาเวอร์มอลล์ ย้ำดูแลสินค้าไม่ให้ขาดสต็อก “แอลจี-มิตซูบิชิ”เร่งนำเข้าเครื่องฟอกอากาศ “โคเวย์” เร่งผุดราคาใหม่ 480 บาทต่อเดือน

.

เปิดฉากตั้งแต่เดือน ม.ค. 2568 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยกดดันสำคัญจากเรื่องกำลังซื้อและหนี้ครัวเรือน รวมถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามราคาสินค้าต่างๆ มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการและคนไทยต้องเตรียมแผนรองรับ

.

รวมถึงปัจจุบันที่มีความกังวลรอบใหม่จากวิกฤติฝุ่น PM 2.5 เข้ามากระทบการใช้ชีวิตของคน จนทำให้เกิดความต้องการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และสร้างแรงกระเพื่อมทำให้เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นสินค้าจำเป็นที่ต้องมีใช้ในทุกบ้านแล้ว

.

ทั้งนี้เมื่อประเมินภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทย จากการประเมินของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ตลาดในประเทศมูลค่า 8.3 หมื่นล้านบาท โดยพอร์ตโฟลิโอหลักของตลาดมาจากเครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ส่วนเครื่องฟอกอากาศมีขนาดไม่ใหญ่นักมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท และที่ผ่านมาตลาดจะขยายตัว 10%


นางสาวพัชราภรณ์ วรยิ่งยง ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวางแผนธุรกิจการตลาดและกลุ่มผลิตภัณฑ์การเงิน บริษัท เพาเวอร์บาย จํากัด จากเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญทำให้เครื่องฟอกอากาศขายดีเวลานี้มาจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ปี 2568 ค่อนข้างวิกฤติและสูงเกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่

.

:: เพาเวอร์บาย คนไทยเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเป็นชิ้น 2-3 ในบ้าน ::

ทั้งนี้ทำให้คนไทยตื่นตัวหาทางแก้ปัญหา รวมถึงสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้นจึงซื้อเครื่องฟอกอากาศที่บรรเทาฝุ่น PM 2.5 และบางกลุ่มลูกค้าปรับมาเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศเพิ่มขึ้นเป็นชิ้นที่ 2-3 เพื่อให้พอกับจำนวนห้องในแต่ละบ้าน ทำให้ยอดขายเพาเวอร์บายกลุ่มเครื่องฟอกอากาศพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

.

สำหรับตลาดเครื่องฟอกอากาศแข่งขันสูง ในแต่ละแบรนด์ออกสินค้าสู่ตลาดมากขึ้น และแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น เพื่อกระตุ้นให้บริโภคซื้อเครื่องฟอกอากาศตามกำลังซื้อได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่สินค้าระดับแมสถึงพรีเมียม โดยเพาเวอร์บาย ที่มีสาขาทั่วประเทศจัดการสินค้าให้มีสต็อกเพียงพอทุกสาขา ซึ่งได้ประสานงานซัพพลายเออร์เติมสินค้าในสต็อก โดยเฉพาะแบรนด์ยอดนิยม

.

“ที่ผ่านมาตลาดรวมเครื่องฟอกอากาศสร้างยอดขายสูงช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.ทุกปี แต่ปี 2568 ได้รับการตอบรับสูงกว่าทุกปี ซึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันยอดขายเครื่องฟอกอากาศเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเพิ่มขึ้นทุกแพลตฟอร์มทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะหน้าร้าน มีกระแสดีมากทั่วประเทศโดยเฉพาะกรุงเทพ และจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเรื่องฝุ่น”

.

สำหรับแบรนด์ที่ได้รับความนิยมของกลุ่มลูกค้า 5 อันดับแรก ได้แก่ ชาร์ป (Sharp), ฮาตาริ (Hatari) แบรนด์ไทย, มาซูม่า (Mazuma) แบรนด์ไทย, เสี่ยวหมี่ (Xiami) และ อีเลคโทรลักซ์ (Electrolux) ส่วนแบรนด์พรีเมียมที่ได้รับความนิยมคือ ไดสัน (Dyson)

.

:: “เพาเวอร์มอลล์” ยอดขายพุ่งนิวไฮรอบ 5-6 ปี ::

นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส กลุ่มบริหารสินค้า Specialty บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้าน เพาเวอร์มอลล์ กล่าวว่า ยอดขายเครื่องฟอกอากาศในเดือน ม.ค.สูงขึ้นกว่า 100% หรือกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าสูงสุดรอบ 5-6 ปี ปัจจัยหลักมาจากกลุ่มลูกค้ามีความกังวลในเรื่องฝุ่น PM 2.5 ทำให้สินค้าทุกรุ่นขายดีทั้งหมด ตั้งแต่รุ่นราคาต่ำจนถึงราคาแพงตามกำลังซื้อและความชื่นชอบฟังก์ชั่นของสินค้าแต่แบรนด์

.

สำหรับสินค้าขนาดเครื่องปรับอากาศที่ได้รับความสนใจสูง คือ เครื่องที่เหมาะสำหรับพื้นที่ 40 ตร.ม. เนื่องจากเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม ต่อมาเครื่องที่เหมาะกับพื้นที่ขนาด 60 ตร.ม. และพื้นที่ 100 ตร.ม.ขึ้นไป

.

ทั้งนี้สินค้าเครื่องฟอกอากาศที่สร้างยอดขายสูงมาก ทำให้เพาเวอร์มอลล์ ต้องบริหารจัดการหน้าร้านเพื่อให้มีสินค้าเพียงพอกับความต้องการ โดยส่วนใหญ่สินค้าจะวางจำหน่ายในช่วงเช้าที่หน้าร้านและในช่วงเย็นสินค้าจะหมดลงแทบทุกวัน ส่วนแบรนด์ยอดนิยมของกลุ่มจะมีทั้ง ชาร์ป รองลงมา อีเลคโทรลักซ์ ต่อเนื่องด้วยแบรนด์อื่นจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

.

:: คนไทยกังวลเศรษฐกิจมุ่งช้อปสินค้าจำเป็น ::

อีกทั้งเมื่อประเมินภาพรวมกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าคนไทยมุ่งใช้จ่ายอย่างรอบคอบมากขึ้นเพราะมีหลายปัจจัยต้องติดตาม แต่เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤติฝุ่น PM 2.5 ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศรวดเร็วมากขึ้น และส่วนหนึ่งมาจากความสนใจดูแลสุขภาพสูงขึ้น ทำให้เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นสินค้าจำเป็นที่ต้องมีในทุกบ้าน เหมือนกับตลาดเครื่องปรับอากาศแล้ว

.

รวมทั้งการติดตามยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังการมีนโยบาย Easy E-Receipt 2.0 กับการช้อปลดหย่อนภาษีปี 2568 ยังไม่เติบโตเทียบปีก่อนหน้า เพราะปี 2568 ประกาศให้เลือกซื้อสินค้าทั่วไป 3 หมื่นบาทและสินค้าโอท็อป 2 หมื่นบาท ถือว่าวงเงินต่างจากปีก่อน

.

ส่วนใหญ่สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงเป็นกลุ่มเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็นและพัดลม เพราะใกล้หน้าร้อน แต่ปีนี้มีฝุ่นมากระทบส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่งสูง 30-50% แต่หากไม่มีฝุ่นเข้ามาหนุนตลาด ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าไตรมาสแรก อาจขยายตัวระดับ 10%

.

:: “แอลจี” เร่งนำเข้าเครื่องฟอกอากาศ ::

นายอำนาจ สิงห์จันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน แอลจี เตรียมแผนรับมือความต้องการเครื่องฟอกอากาศที่สูงขึ้นจากผู้บริโภคคนไทย ด้วยการนำเข้าสินค้าเครื่องฟอกอากาศ 1,000 เครื่องต่อเดือน ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.นี้ รวมถึงมีแผนนำเข้าสินค้ามาทางอากาศเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความรวดเร็วของการขนส่งสินค้า จากเดิมนำเข้าสินค้าทางเรือ

.

ทั้งนี้หากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ยังน่ากังวล ประเมินว่ายอดขายเครื่องปรับอากาศของแอลจี ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.นี้ จะขยายตัว 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงได้รับแรงหนุนจากมาตรการ Easy E-Receipt ของภาครัฐมากระตุ้นตลาดอีกด้าน

.

:: “มิตซูบิชิ” ยอดขายพุ่งสินค้าขาดตลาด แบรนด์ใช้เวลานำเข้าจากญี่ปุ่น ::

ทางด้าน “มิตซูบิชิ” (Mitsubishi) ภายใต้ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด สร้างยอดขายเครื่องฟอกอากาศสูงขึ้นมากในเดือน ม.ค. เช่นกัน ทำให้ปัจจุบันสินค้ามีการขาดตลาดในบางทำเลแล้ว เพราะแบรนด์ต้องนำเข้าเครื่องฟอกอากาศจากญี่ปุ่นที่เป็นฐานการผลิตสินค้า ทำให้ต้องใช้เวลาขนส่งสินค้า

.

สำหรับเครื่องฟอกอากาศแบรนด์ มิตซูบิชิ เน้นจุดขายฟอกอากาศรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีสินค้า 2 รุ่น จึงได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้าคนไทย เน้นเจาะตลาดกลุ่มพรีเมียม

.

อย่างไรก็ตาม  สำรวจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มเครื่องฟอกอากาศ โดยมีแบรนด์ที่ทำตลาดหลักทั้งจากไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และแบรนด์จากยุโรป รวมถึงสหรัฐ ส่วนแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนมุ่งเน้นทำตลาดเครื่องปรับอากาศ ที่มีฟังก์ชันฟอกอากาศ จึงไม่เน้นทำตลาดเครื่องฟอกอากาศมากนัก ส่วนผู้นำตลาดเครื่องฟอกอากาศของประเทศไทยจาก แบรนด์ประเทศญี่ปุ่นคือ ชาร์ป

.

อีกทั้งในตลาดมีอีกโมเดลในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ากับการสมัครเป็นบริการสมาชิกแบบรายเดือน เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่สนใจการจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือนมากกว่า ซึ่งมีแบรนด์ที่ทำตลาดหลักในปัจจุบันคือ โคเวย์ (Coway) จากเกาหลีใต้ ได้จัดทำโปรโมชั่นรายเดือน เริ่มต้นราคา 480 บาท จากราคาเดิมเริ่มต้นประมาณ 690 บาท

.

:: โคเวย์ ยอดพุ่ง 2 เท่า จัดโปรเขย่าตลาด ::

นางสาวพิมพ์อาภา วัฒนพานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการประเมินยอดขายเครื่องฟอกอากาศของแบรนด์โคเวย์ ในเดือน ม.ค. นี้ มีการขยายตัว 200% ถือว่าคนในประเทศไทยให้ความสนใจเครื่องฟอกอากาศสูงมากจาก จากผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นในไทย

.

ทั้งนี้ จากความต้องการเครื่องฟอกอากาศในปัจจุบันที่สูงมากทำให้แบรนด์โคเวย์ ที่เป็นระบบแบบ ซับสไคร์ (subscription) รายเดือน จัดโปรโมชั่นด้วยการจัดราคาโปรโมชันเริ่มต้นที่ 480 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2568 พร้อมบริการดูแลให้เป็นเวลา 7 ปี เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่คนในประเทศและร่วมดูแลสุขภาพของคนไทย

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต