‘มาม่า’ โกยยอดขาย รับบะหมี่โต 7.9% ‘ฟาร์มเฮ้าส์’ เจอแข่งเดือด!


ส่อง 2 บิ๊กแบรนด์ “มาม่า-ฟาร์มเฮ้าส์” เมื่อตลาดบะหมี่ฯโต 7.9% การตลาดจัดเต็มหนุน “มาม่า”โตแกร่ง ส่วน “ฟาร์มเฮ้าส์” ยอดขาย กำไรลด เหตุหน้าใหม่ชิงส่วนแบ่งตลาดเบเกอรี
.
บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด(มหาชน) สร้างรายได้จากการขายปี 2567 จำนวน 7,480.31 ล้านบาท ลดลง 0.8% หรือ 60.13 ล้านบาท และมีกำไร 1,590.59 ล้านบาท ลดลง 6.86% หรือ 117.18 ล้านบาท
.
ส่วนของ รายได้จากการขายลดลงเพราะเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้น ในอุตสาหกรรมเบเกอรีและขนมปัง โดยมี “ผู้เล่นรายใหม่” เข้ามาชิงเค้กในตลาด ขณะที่กำไรได้รับผลกระทบจาก “ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น” ทั้งการปรับเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนหนึ่งจากค่าซ่อมบำรุงเครื่องจักรที่ครบกำหนดระหว่างปี รวมถึงยอดขายที่ลดลงสวนทางต้นทุนด้วย
.
ปัจจัยที่กระทบต่อการขับเคลื่อนธุรกิจและฐานะการเงินในอนาคต บริษัทมอง “เศรษฐกิจ” ทั้งภายในและภายนอกประเทศยังมีคามไม่แน่นอน ทำให้ “ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย” อีกทั้ง “คู่แข่ง” ในตลาดมีเพิ่มขึ้น อาจส่งผลต่อยอดขายสินค้าได้ ด้านต้นทุนวัตถุดิบ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในหมวดสินค้าเกษตร จากผลผลิตลดลงเพราะสภาพภูมิอากาศแปรปรวนและภาวะโลกร้อน เป็นต้น
.
ฟาก “มาม่า” ภายใต้ผู้ผลิตอย่าง บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) หรือ TFMAMA สร้างผลงานรายได้จากการขาย 29,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.02% และยังครองส่วนแบ่งทางการตลาด 48.6% รักษาบัลลังก์เบอร์ 1 เหนียวแน่นต่อไป ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,481.71 ล้านบาท เติบโตถึง 18.64%
.
เมื่อแบ่งรายได้เฉพาะบะหมี่ฯที่ขายในประเทศจำนวน 12,478.96 ล้านบาท และส่งออก 6,492.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 รายได้ในประเทศ 11,632.56 ล้านบาท และส่งออก 5,260.95 ล้านบาท
.
ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายในประเทศโตคือการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้ “แบรนด์ OK” การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ หนุนสินค้ารสชาติเดิมยอดขายเพิ่ม ส่วนต่างประเทศโตจากการเริ่มผลิตบะหมี่ฯในประเทศเมียนมา
.
สำหรับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูปปี 2567 มีมูลค่า 22,778 ล้านบาท เติบโตสูง 7.9% และอัตราการบริโภคเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ 54 ซองต่อคนต่อปี
.
ส่วนปี 2568 บริษัทคาดการณ์ตลาดบะหมี่ฯ จะมีการเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบปี 2567 แม้สถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบยังมีความผันผวน โดยบริษัทกำหนดแนวทางบริหารจัดการความเสี่ยงรอบด้าน ให้ความสำคัญกับการแสวงหาแหล่งวัตถุดิบทางเลือกใหม่ๆ และการวิจัยพัฒนาสูตรการผลิตที่สามารถใช้วัตถุดิบทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เพื่อรักษาศักยภาพการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวทั้งตลาดในและต่างประเทศ
.
สำหรับปัจจัยที่มีอิทธิพลกระทบการดำเนินธุรกิจ ยังเป็นเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะผันผวนต่อเนื่อง จากความขัดแย้ง รัสเซีย-ยูเครน ไม่มีทีท่าจะยุติ ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยของประเทศมหาอำนาจทั้งสหรัฐ จีน และกลุ่มสหภาพยุโรป และผลพวงของมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ
.
ขณะที่ประเทศไทย แม้ท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัวดี แต่เศรษฐกิจภาพรวมมีความท้าทายมากขึ้นเมื่อเทียบปี 2567 ที่เสี่ยงเผชิญการส่งออก “หดตัว” หนี้ครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง
.
อย่างไรก็ตาม ทิศทางธุรกิจของมาม่าในอนาคต บริษัทยังมุ่งมั่นจะรักษาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะ “ผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม การปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกัน

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต