‘เบียร์ ใบหยก’ ตัด ‘นักท่องเที่ยวจีน’ สมการเคลื่อนธุรกิจโรงแรมรอด

ธุรกิจไม่มีสูตรรอดตายตัว แต่การผ่านหลายวิกฤติกลายเป็น “บทเรียน” ให้ผู้ประกอบการ “เบียร์ ใบหยก” แนะอย่าลงทุนเกินตัว แนวทางรับมือปี 69 ที่จับทิศเศรษฐกิจยาก
.
ช่วงโควิด-19 ระบาด ถือเป็นวิกฤติใหญ่และสาหัสสำหรับธุรกิจโรงแรม เพราะบ้านเมืองปิดประตูไม่รับนักท่องเที่ยว ประเทศล็อกดาวน์ กิจการขับเคลื่อนไม่ได้ ทว่า บททดสอบดังกล่าว เมื่อผู้ประกอบการมาได้ กลายเป็น “วัคซีน” สำคัญในการดำเนินธุรกิจ
.
ปิยะเลิศ ใบหยก หรือ เบียร์ ใบหยก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงแรมใบหยก และ บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง เปิดเรื่องราวเพื่ออยู่รอดทางธุรกิจท่ามกลางความท้าทาย
.
“ปิยะเลิศ” มองธุรกิจโรงแรมก็ไม่ค่อยจะรอด เหตุผลเพราะเป็นธุรกิจที่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นเครื่องยนต์สำคัญเคลื่อนการเติบโต ทว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยไม่ค่อยดี มีหลากปัจจัยกระทบให้เกิดการ “สะดุด” ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง ปิดสนามบิน ฯ
.
ปี 2568 ที่นักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้า หากเทียบตอนโควิด-19 ระบาด ถือเป็นช่วงหนักสุด นักท่องเที่ยวเป็นศูนย์ เพราะเข้ามาไทยไม่ได้ กลุ่มโรงแรมใบหยกปรับตัวเหมือนกับผู้ประกอบการในตลาด เปลี่ยนโรงแรมเป็น ฮอสพิเทล มีครัวประกอบอาหาร ลุยเดลิเวอรี แต่หลายอย่าง “สู้ยาก” เพราะต้นทุน ค่าใช้จ่ายสูง
.
ห้วงเวลานั้นแบกภาระต้นทุนไม่น้อย แต่พนักงานทั้งหมดยังคงรักษาไว้ ทว่าเมื่อปรับตัวเข้าสู่ New Normal ได้ มีคนทำงานไม่ได้ ออก แต่ไม่รับคน หันไปเพิ่มงานให้พนักงาน เมื่อทำไหว จึงอยู่รอดมาได้
.
“ท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยดี เป็นอะไรที่ไม่เคยนิ่ง จะมีเรื่องให้สะดุดอยู่เรื่อยๆ เราชินแล้ว เพราะเราอยู่แนวราชประสงค์เป็นศูนย์กลางหลายอย่าง เช่น การชุมนุมประท้วงหรือม็อบ ทำให้การปรับตัวสำคัญมาก”
.
กลุ่มโรงแรมใบหยก มีโรงแรมให้บริการลูกค้าราว 13-14 แห่ง มีโรงแรมที่สร้างรายได้ดีและไม่ดีแตกต่างกันไป ท่ามกลางความเปราะบางด้านเศรษฐกิจ เครื่องยนต์ท่องเที่ยวแผ่ว การให้ความสำคัญกับ “การบริหารจัดการต้นทุน” รอบทิศ ทั้งการจัดซื้อ จัดโปรโมชัน ฯ การทำตลาดลุยออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่ากลุ่มโรงแรมใบหยก ไม่ได้มีแค่โรงแรม แต่ยังมีร้านอาหารด้วย เป็นต้น
.
ผมไม่ไลฟ์กลัวดราม่า แต่ทำคลิป ตอนนี้ออนไลน์สำคัยมาก ค่อนข้างมีผล ไปทำ อธิบายให้คนดู มีอะไรบ้าง อย่างใบหยก รึกว่า ออฟฟิศ แต่คือ รร. มีร้านอาหาร เป็นสิ่งที่พยายมอธิบาย
.
“เวลาธุรกิจดี เรามักจะลืมต้นทุนเสมอ พอถึงเวลารัดเข็มขัดถึงมาดูต้นทุน”
.
“จีน” เป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่ทั้งโลกหมายปอง รวมถึงไทย เพราะคนมหาศาล และยังมีกำลังซื้อสูง ทว่า จีนที่เคยมาเที่ยวไทยหลัก 10 ล้านคน แต่ 9 เดือนแรก ปี 2568 มีจำนวนกว่า 3.41 ล้านคน หดตัวแรงกว่า 34% ทำให้ “ปิยะเลิศ” ต้องตีโจทย์ให้ทีมงาน “ลืมตลาดจีนไปเลย” และหาตลาดใหม่ทดแทน
.
“ผ่านวิกฤติมาค่อนข้างมาก ยังเชื่อว่าปีหน้าไม่ดี และในการประชุมที่ต้องนั่งหัวโต๊ะการตลาด ทีมงานบอกตลาดจีนหาย และจะกลับมา..ผมบอก พวกเอ็งลืมตลาดจีนไปเลย ปลอดภัยสุด ไม่อยากได้ยิน เพราะเห็นพูดกันตั้งแต่ต้นปี ก็ยังไม่กลับมา ไม่ต้องพูด ไปหาตลาดอื่นก่อน ถ้าจีนกลับมาคือโบนัส อย่ายึดติดกับบางตลาด เพราะจะลำบาก”
.
กลุ่มโรงแรมใบอยก ก่อนโควิด-19 ระบาด โรงแรมไม่มีคนไทยเข้าพัก เพราะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่น สิงคโปร จีน ฯ แต่ปัจจุบัน “คนไทย” เป็นกลุ่มเป้าหมายอันดับ 1 ที่มาใช้บริการ เข้าพักเป็นกลุ่ม มาทานอาหาร ถือเป็น New Normal ของบริษัท
.
“ตลาดที่ง่ายสุด ใกล้สุด พูดภาษาเดียวกัน ไม่ต้องไปมองที่อื่นคือคนไทย”
.
ส่วนคัมภีร์รอดปี 2569 “ปิยะเลิศ” แนะบริหารจัดการต้นทุนให้ดี และ “อย่าทำอะไรเกินตัว” การเคลื่อนธุรกิจบริการจะยั่งยืนยังต้อง “จริงใจ ซื่อสัตย์” ทำให้ยืนหยัดอยู่ยาว เพราะยุคนี้หาก ”หักหลังลูกค้า” จะเกิดผลเสียตามมาจากกระแสโซเชียลที่รุนแรง กระเทือนภาพลักษณ์ธุรกิจได้
.
“ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อบอกอย่าทำอะไรเกินตัว มี 100% ทำไมต้องลงทุน 60-70% ไม่ลงทุน 20-30% หากกิจการดีค่อยขยาย”
.
ปิยะเลิศเล่าและยกตัวอย่าง ตอนเปิดร้านเนื้อย่างทุ่มทุนใช้เตาย่างอย่างดีแพงๆ เก้าอี้ไม้ดีๆ โคมไฟนำเข้ามาตกแต่งร้าน โดนพ่อดุ เพราะหากธุรกิจดี “มีกำไร” ภายหลัง นำเงินไปลงทุนซื้อโคมไฟบ้าๆบอๆที่อยากได้
.
“ตอนนั้นวัยรุ่น ไม่ได้! เปิดร้านทั้งทีต้องปัง พ่อลองให้ไปคิด ถ้าไม่มีเงิน ใช้เงินหมด เช่น ลงทุน 10 ล้านก็เจ๊ง 10 ล้าน มี 2 ล้านก็อาจเจ๊ง 2 ล้านก็ได้ เราจึงยึดตรงนี้เป็นหลัก และสอนน้องๆทีมงานในการใช้งบสื่อสารการตลาด ต้องทยอยใช้ เป็นอะไรที่น่าจะปลอดภัยกับสถานการณ์ปีหน้า ที่ไม่รู้จะดีหรือไม่ดี”
.
ที่สำคัญ “ปีหน้าอย่าท้อ คนเก่งไม่เท่าคนขยัน แต่ผมมั่นใจ..ผมขยันไม่แพ้ใคร”

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นีเวีย เปิดผลวิจัยระดับโลกชี้ ‘ความเหงา’ ภัยเงียบยุคใหม่ ชวนคนไทยช่วยกันดูแลใจ ภายใต้โครงการ NIVEA CONNECT

Reality Show เมืองไทย จะไปไกลทั่วโลก

”เอส“ เดินเกมส์ลุยปี 69 ส่งน้ำสีเรืองแสงเอาใจเจนซ่า

EMILY’S หมี่ไก่ฉีก มีลุ้นแตะ ‘500 ล้าน’ ขายได้เดือนละ 1 ล้านกล่อง เตรียมบุกต่างประเทศด้วย

3 แม่ทัพ ‘FAB’ อวดโฉมใหม่ ‘Santa Fe’ ปั้นแฟล็กชิปร้านแรกใจกลางสยามช0