Lonely Marketing การตลาดสำหรับคนเหงา
ธุรกิจเปลี่ยนไป การทำการตลาดก็เปลี่ยนไป ยุคนี้เป็นยุคคนเมือง ทำให้ต่างคนต่างดิ้นรนทำมาหากิน ทำให้ความสำคัญระหว่างบุคคลลดลง ไม่ว่าจากเพื่อน จากแฟน จากที่ทำงาน หรือจากครอบครัว ทำให้ตอนนี้เริ่มมีศัพท์การตลาดแปลกๆ ขึ้นว่า ที่เค้าเรียกว่า “Lonely Marketing : การตลาดสำหรับคนเหงา”
ความเหงาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป มันเกิดเป็นคนกลุ่มใหญ่ ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากมาย มีหลายธุรกิจที่ตอบโจทย์คนเหงา มันไม่ได้มีแค่เสียงเพลง กับการ Hang Out อีกต่อไป
มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU บอกว่า วัยรุ่นและคนทำงานอยู่ในกลุ่มเหงามากสุด การทำการตลาดยุคนี้ สมัยนี้ จำเป็นต้องเจาะเซ็กเมนต์เฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพื่อที่จะนำเสนอแคมเปญการตลาดได้ตรงจุด ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้
กลุ่มคนเหงา เป็นอีกหนึ่งเทรนด์การตลาด ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ เพราะตอนนี้กลุ่มคนเหล่านี้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดที่ว่าบางประเทศ มีนโยบายบางอย่างเพื่อรองรับกลุ่มคนเหงาเลยด้วย
คนแต่ละคน มีมีระดับความเหงาที่แตกต่างกัน แต่ภาพรวมๆ จะหมายถึงคนที่รู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว ความเหงาเป็นหนึ่งในปัจจัยด้านอารมณ์ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ในหลายๆ ด้าน
ข้อมูลการวิจัย “เจาะลึกตลาดคนเหงา” บอกว่า คนเหงาในประเทศไทย มีจำนวนสูงกว่า 26.75 ล้านคน กลุ่มผู้มีภาวะความเหงาสูงสุด ได้แก่ วัยรุ่น และวัยทำงาน ในสัดส่วน 33% และ 34.7% ตามลำดับ
ช่วงอายุที่มีแนวโน้มความเหงาสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มวัยทำงาน อายุระหว่าง 23 – 40 ปี : 49.3% เยาวชนวัยเรียน อายุระหว่าง 18 – 22 ปี : 41.8% และ วัยผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 41 – 60 ปี : 33.6% ในขณะที่กลุ่มผู้สูงวัยอายุมากกว่า 60 ปี กลับประสบภาวะความเหงาเพียง 24.5% เนื่องจากมีความพร้อมด้านการจัดการอารมณ์และรายได้ เพื่อใช้ในการประกอบกิจกรรมแก้เหงาเพิ่มสูงขึ้น ตามอายุที่เพิ่มขึ้น
แล้วคนเหงา จะมีพฤติกรรมอย่างไร อย่างแรก : ใช้โซเชียลมีเดียบำบัดความเหงา พบว่า 3 พฤติกรรมที่จัดการความเหงาที่ผู้คนมักใช้ คือการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย เพื่อช่วยคลายเหงา เพราะเข้าถึงง่าย สร้างความรู้สึกร่วมกับสังคมเสมือน บนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงยังเป็นหนึ่งในวิธีการแก้เหงา ที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
อย่างที่สอง : รับประทานอาหารในร้านอาหารหรือคาเฟ่ เป็นหนึ่งกิจกรรมที่มอบความสุขให้กับตัวเอง ไปพร้อมกับการมีผู้คนอยู่รอบตัว เพื่อช่วยลดทอนบรรยากาศ และความรู้สึกโดดเดี่ยว
อย่างที่สาม : การช้อปปิ้ง(อันนี้ผู้หญิงเป็นมาก) ซึ่งนอกจากจะช่วยหลบหนีความรู้สึกด้านลบในจิตใจแล้ว ยังตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ได้ เช่นเดียวกับการไปร้านอาหารหรือคาเฟ่ รวมถึงยังเป็นการใช้ความพยายามและค่าใช้จ่าย ในการทำกิจกรรมน้อยที่สุด
เมื่อตลาดคนเหงามีมูลค่าสูง ธุรกิจคนเหงาก็ต้องมีมารองรับ เพราะ “เพลงกับผับ” มันอาจรองรับปริมาณคนเหงาได้ไม่พอ นี่คือ 5 ธุรกิจดาวรุ่ง ที่เกิดมาและเอาใจคนเหงาโดยเฉพาะ และเติบโตเพิ่มขึ้นทุกวัน เพื่อรองรับอานิสงค์ของคนเหงาที่เกิดขึ้น
1. ธุรกิจคอมมิวนิตี้ อาทิ ร้านอาหาร คาเฟ่ บอร์ดเกมส์ ฯลฯ 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และ Co-working Space 3. ธุรกิจดิจิทัล อาทิ แอปพลิเคชันออนไลน์ แพลตฟอร์มเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง 5. ธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นตลาดธุรกิจ นี่คือ 5 ธุรกิจ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนเหงา และเข้ากับไลฟ์สไตล์คนเหงาในยุคปัจจุบัน
คนเหงาเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่แค่ฟังเพลงกับ Hang Out ในสังคมที่โดดเดี่ยว และเปลี่ยวเหงา ถ้าใครเข้าถึงได้ รับรอง…รวยเละครับ เฮ่ย! มันเป็นแบบนี้ได้ไงฟ่ะ
ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น
http://www.facebook.com/chatchaitalk
http://www.chattalks.info
Tel.092-387-1241 , Line ID : ChatTalks
Email : kittisak1241@yahoo.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้