เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ แต่ธุรกิจบริการทางเพศ สูงถึง 160,000 ล้านบาท/ปี

หลายคนเคยสงสัย

ว่าเมืองไทยที่เป็นเมืองพุทธ

ธุรกิจต้องห้ามอย่างหนึ่ง

คือ “การค้าบริการทางเพศ”

แต่ทำไมธุรกิจ “อาบอบนวด” 

และ “ค็อกเทลเลาจน์” 

ยังคงมีอยู่ แถมเจริญรุ่งเรือง 

รายได้ดีเสียด้วย

ไม่เชื่อคุณลองไปแถวเส้นถนนเพชรบุรีตัดใหม่

กับเส้นรัชดาภิเษกดูซิครับ

จะเห็นได้ว่าสถานบริการ

แต่ละแห่งล้วนอลังการณ์งานสร้างทั้งนั้น

.

จากข้อมูล อ้างอิงจากภาคนิพนธ์ ปริญญาโท 

ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เมื่อปี 2551 

ที่เคยโลดแล่นอยู่ในยุทธจักรนี้มาก่อน 

จนได้ฉายาว่า "เสี่ยอ่าง" ด้วยซ้ำไป

.

ข้อมูลระบุว่า ประเทศไทย 

มีผู้ให้บริการทางเพศประมาณ 229,000 คน 

แบ่งเป็นผู้หญิงไทย 85,000 คน 

ผู้หญิงชาวต่างชาติ 36,000 คน 

โสเภณีเด็กอีกประมาณ 60,000 คน 

และกลุ่มที่ทำงานอิสระ (Part time) 

และนักศึกษาขายบริการทางเพศ

อีกราวๆ 48,000 คน 

.

รายได้จากธุรกิจบริการทางเพศ

แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 

1. รายได้จากกลุ่มผู้หญิงที่ให้บริการทางเพศ 

2. รายได้จากกลุ่มผู้ชายที่ให้บริการทางเพศ

.

ประมาณการรายได้จากกลุ่มผู้หญิง 

พบว่าสถานบริการที่มีจำนวนหญิง

ให้บริการทางเพศมากที่สุดเป็นคือ บาร์เบียร์ 

จำนวนประมาณ 50,289 คน 

คาราโอเกะ 37,032 คน 

นวดแผนโบราณ 32,380 คน 

อาบอบนวด 27,549 คน 

และบาร์อะโกโก้ 21,626 คน

.

ประเมินรายได้เฉลี่ยต่อเดือน

ของหญิงให้บริการทางเพศ 1 คน 

จะได้ผลตอบแทนต่ำสุด 31,250 บาท 

และผลตอบแทนสูงสุด 125,000 บาท 

.

รายได้จากธุรกิจให้บริการทางเพศ

น่าจะมีมูลค่าสูงถึง 163,839 ล้านบาท 

อันดับ 1 คือ สถานบริการนวดแผนโบราณ 

มีมูลค่าสูงถึง 36,427 ล้านบาท หรือ 22% 

อันดับ 2 คือ สถานบริการประเภทบาร์เบียร์ 

มีมูลค่าประมาณ 26,402 ล้านบาท 

อันดับ 3 อาบอบนวด 

มีมูลค่าอยู่ที่ 23,803 ล้านบาท 

อันดับ 4 คาราโอเกะ 19,442 ล้านบาท 

และสุดท้ายสำนักหรือซ่อง 

มีมูลค่าราวๆ 17,650 ล้านบาท

เฮ่ย! มันเป็นแบบนี้ได้ไงฟ่ะ

.

ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น

www.chattalks.info

www.facebook.com/chatchaitalk

Tel.092-387-1241 , Line ID : ChatTalks

Email : kittisak1241@yahoo.com