พ่อมดการเงิน ภัยร้ายในวงการธุรกิจไทย

ใครตามตลาดหุ้นและการเงินบ้านเรา 
มีเคสใหม่ๆ ให้ศึกษาเสมอ 
และถูกนำมาหลอกจนสูญเงินมหาศาล 
ใครจำไม่ได้ ผมพอจะรื้อฟื้นให้ฟัง

เคสแรก…จากนักการเงิน
ที่ชื่อว่า “ราเกส สักเสนา” 
เขาเป็นนักการเงินการธนาคารชาวอินเดีย 
อดีตที่ปรึกษานายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ 
อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ 
ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ 
เจ้าของฉายา “พ่อมดการเงิน”

"ผมได้รู้จักนายราเกซ
ในสมัยที่เขายังเป็นคอลัมนิสต์ 
เขียนบทความเกี่ยวกับการเงิน
ลงในหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
เกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงิน 
ซึ่งถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน 
ในที่สุดเขาเข้ามาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวผม 
โดยให้คำแนะนำ
เกี่ยวกับการทำธุรกรรมการเงินใหม่ๆ

ปี 2535 หุ้นของธ.กรุงเทพฯ พาณิชย์การ
ถูกนักลงทุเนข้าไปกว้านซื้อ
โดยมีเป้าหมายที่จะเข้ามาครอบงำกิจการ 
ทำให้ราคาหุ้นของธนาคารขยับขึ้นไป
สูงถึง 26.85 บาทต่อหุ้น

เวลาดังกล่าว นายราเกซเสนอตัวเข้ามาช่วย ด้วยการเข้ามาซื้อหุ้น
ในธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ 
โดยส่วนหนึ่งของเงินลงทุน
มาจากเงินกู้ของธนาคารฯ  
ช่วยให้ธนาคารรอดพ้น
จากการเข้าครอบงำกิจการจากนักลงทุน 
ทำให้ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ
กลับมามีสถานะที่มั่นคงยิ่งขึ้น

นายราเกซช่วยในการจัดทำข้อมูล
เพื่อประกอบการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ควบใบสำคัญแสดงสิทธิ 
(Subordinated bond cum warrant) 
ที่จะนำไปขายให้กับนักลงทุน
ในประเทศเยอรมนีช่วงกลางปี 2537

การเดินทางไปเสนอขาย
พันธบัตร (Road Show) ในครั้งนั้น 
มีผม มีนายราเกซ และมี ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย
ได้ส่งมาเป็นที่ปรึกษาในขณะนั้น 
ร่วมเดินทางไปด้วย

การทำธุรกรรมทางการเงินใหม่ๆ 
อย่างการปล่อยกู้เพื่อครอบงำกิจการ 
ซึ่งสร้างผลกำไรให้กับธนาคาร
สูงถึง 241 ล้านบาทในปี 2536

แต่การเติบโตของสินเชื่อดังกล่าว 
ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้ความสนใจและจับตามอง
ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การมากยิ่งขึ้น 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยกู้
กับนักธุรกิจที่เป็นนักการเมือง 

หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ในเดือนพฤษภาคม 2539 
ถูกกล่าวโทษจากธนาคารแห่งประเทศไทย 
นายราเกซถูกเลิกจ้างจากการเป็นพนักงาน
และเดินทางไปอยู่ที่
ประเทศแคนาดานานกว่า 10 ปี 
ก่อนที่รัฐบาลแคนาดาจะส่งตัวเขา
กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2552

.
เคสสอง :

“เสี่ยสอง” หรือนายสอง วัชรศรีโรจน์ 
นักลงทุนรายใหญ่ชื่อดังกระฉ่อน 
เพราะมีการปั่นหุ้นกันอย่างโจ๋งครึ่ม

ยุคเสี่ยสอง มีการปั่นหุ้นนับสิบตัว 
โดยมาตรการในการสกัดหุ้นปั่นขณะนั้น
คือ การขึ้นเครื่องหมาย “NP” 
เพื่อเตือนนักลงทุน 
และมาตรการ” SP” พักการซื้อขายหุ้น

ก.ล.ต.ยุคนั้น 
สามารถกล่าวโทษหุ้นปั่นพร้อมกันถึง 4 ตัว 
คือ หุ้นธนาคารนครหลวง, 
หุ้นบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด หรือ KMC, หุ้นบง.เฟิร์สซิตี้ อินเวสเมนท์ จำกัด 
หรือ FCI ฉายาหุ้นฟ้าใส, 
หุ้นบริษัท รัตนะการเคหะ จำกัด หรือ RR 
ถูกกล่าวโทษพร้อมกัน
ในวันที่ 26 เมษายน 2536 
โดยหุ้นทั้ง 4 ตัวมีการปั่นกัน
ในช่วงกลางปี 2535 ถึงต้นปี 2536
.
ตลาดหลักทรัพย์ 
สามารถกล่าวโทษได้ราวๆ 30 ราย 
ซึ่งมีกลุ่มคุณหญิงพัชรี ว่องไพฑูรย์ หรือรัตตกุล และนายวิชัย กฤษดาธานนท์ ร่วมอยู่ด้วย 
จะมีเพียงเสี่ยสอง คนเดียว
ที่ถูกตัดสินจำคุกก็ตาม
.
เสี่ยสอง หลบหนีเข้าๆ ออกๆ 
ระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ถูกจับกุมจนคดีหมดอายุความ 
และวันนี้ยังวนเวียนอยู่ในตลาด
.
เคสสาม :
เรื่องของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ("BO") ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 
เข้าไปซื้อหุ้นจากนนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา จำนวน 1.78 หมื่นล้านบาท 
.
ตอนนี้ กลต. ลงดาบผู้บริหารจำนวน 6 ราย
ใน ฐานความผิดต่างๆ ได้แก่ 
1.นายนิธิวัฒน์ มณีสินธุ์ 
2.นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ 
3.นายปิยพงษ์ โคตรชนะ 
4.นายพงศกร สุตันตยาวลี 
5.นายอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ 
6.บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด 
ซึ่งบุคคลทั้ง 5 
ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ
ในคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัล
ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ("BO") 
โดยมีความผิดตามมาตรา 94 / 
พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล 
ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 5 รายดังกล่าวนั้น 
มีหน้าที่รับผิดชอบในการคัดเลือก
สินทรัพย์ดิจิทัลที่จะนำมาให้
บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ("BO") 
แต่ได้กระทำการหรือละเว้นกระทำการ
อันเป็นหน้าที่พึงต้องกระทำ 
เป็นเหตุให้ BO คัดเลือก 
Bitkub Coin (เหรียญ KUB)
เข้าซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 
ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือก
และเพิกถอนสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) 
ที่ได้รับความเห็นชอบ
จากคณะกรรมการ ก.ล.ต. 
อีกทั้งไม่ได้คำนึงถึงมาตรการ
ป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (COI) 
ซึ่งทาง ก.ล.ต. ได้ดำเนินการ
มีคำสั่งเปรียบเทียบที่ 9/2565 
โดยปรับเป็นเงินรายละ 2,533,500.00 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,201,000 บาท
.
นี่คือเรื่องจริงในแวดวงการเงินและตลาดหุ้น 
ซึ่งมันสร้างความเสียหายมหาศาลเลยทีเดียว
.
Chattalks...คุยธุรกิจ คิดให้เป็น
http://www.chattalks.info
Tel.092-387-1241
E-mail : kittisak1241@yahoo.com 

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

มิติใหม่! ขายได้แม้ยังไม่เปิดตัว ลูกค้าซื้อเพนท์เฮ้าส์ 500 ล้านบาท ของแสนสิริ บนทำเลทองชิดลม

ศูนย์การค้าต่างพร้อมใจตกแต่งสถานที่ เพื่อร่วมต้อนรับเดือนแห่งความหลากหลายและความเท่าเทียม ในเทศกาล Pride Month

ฮาลั่น....ไม่รู้จักได๋ ไดอาน่า

เปิดวิสัยทัศน์ วินฟาสต์ ไทย-อาเซียน ประสบการณ์ลูกค้าคือ สมรภูมิใหม่ EV

'Nano' เปิดตัวสินค้ากลุ่มแสงสว่าง ตั้งเป้าปี 68 รายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท