ธุรกิจประกันชีวิต คนขายประกันเค้าปรับตัวกันอย่างไร

ผมว่าการปรับตัวธุรกิจ
ในยุคที่มีการ Disruption ครั้งใหญ่
ผมว่าธุรกิจประกันชีวิต เป็นธุรกิจที่น่าเหนื่อย
เพราะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์
เพราะธุรกิจนี้ จะเดินด้วยการตลาดคมๆ ไม่ได้
เพราะคนหารายได้เข้าบริษัทฯ
จริงๆ คือตัวแทนขายประกันนั่นเอง
.
ยุคนี้ สมัยนี้ แน่นอนที่สุด
สิ่งที่สร้างความเชื่อถือได้
คือชื่อเสียงขององค์กร และผู้บริหาร
บริษัทฯ ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี
และตัวแทนต้องมีความเป็นมืออาชีพ
ต้องสร้างตัวเป็นที่ปรึกษาการเงิน
เพราะถ้ามองเป็นคนขายประกัน
รับรองเลย ไม่มีใครซื้อแน่นอน
.
วิธีการปรับเปลี่ยนหลักๆ คือ 
ต้องเปลี่ยนแนวคิดตัวแทน 
จากผู้เสนอ เป็นผู้สนอง
เพราะเป็นโปรดักส์ที่ต่างจากสินค้าอื่นๆ 
ผู้คนอาจมีประสบการณ์ในทางลบกับธุรกิจนี้
ตัวแทนไม่พูดความจริงทั้งหมด 
มีปัญหาแล้วเคลมไม่ได้ 
เจอตัวแทนที่ทุจริตในเรื่องการเงิน 
มันเป็นการพูดถึงแบบปากต่อปาก 
ยิ่งในยุคปัจจุบันมีการแชร์ในโซเชียลมีเดีย
ทำให้คนได้รับรู้ภาพลบของประกัน
ได้เร็วและกว้างขึ้น
.
แต่ในมุมตรงข้าม ก็ยังมีคนอีกส่วนหนึ่ง
ที่รู้ว่าประกันชีวิต เป็นสิ่งที่จำเป็น
และยังคงมีความต้องการในเรื่องของผลิตภัณฑ์
ที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล 
ทำให้วิธีคิดและวิธีทำงานของคนขายประกัน
ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย
.
พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้
ต้องการการตอบสนองที่ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น 
ต้องการบริการแบบ One Stop Service 
ไม่ใช่แบบ Face to face เหมือนเมื่อก่อน
เพราะฉะนั้น สาขาจะสำคัญกว่าตัวแทน
ในเรื่องของการบริการลูกค้าหลังการขาย
คนยุคนี้ ถ้าเขาจะซื้อประกัน
ไม่ใช่อยู่ๆ จะทำเหมือนขายสินค้าอื่น
ด้วยคำพูดว่าสนใจทำประกันไหมครับ 
จากนั้นก็เริ่มอธิบายรูปแบบกรมธรรม์
ซึ่งมีมากมายหลายแบบ ภาษาก็เข้าใจยาก
ตัวเลขก็เยอะ ฟังก็ไม่ค่อยเข้าใจ 
แต่ในที่สุดก็จบแบบมึนๆ ว่าฉันก็มีประกันแล้ว
หลังจากนั้น ก็จะมามึนๆ อีกที ตอนจะเคลม 
ทำไมตรงนี้ไม่ได้ ทำไมตรงนั้นไม่ครอบคลุม
ถ้าลูกค้าได้ประสบการณ์ในการทำประกัน
ต่อไปโลกประกันก็อยู่ไม่ได้ 
ธุรกิจประกันก็อยู่ไม่ได้
.
วิธีปรับที่ต้องทำ คือ
ต้องเปลี่ยนจาก “คนขาย” มาเป็น “ที่ปรึกษา”
ต้องมีความรู้อย่างลึกซึ้งในเรื่องการทำประกัน
และควรมีหลักสูตร E-learning ให้ตัวแทน
จะเรียนตอนไหนก็ได้ ทุกที่ ทุกเวลา
ไม่ใช่เสียเวลาเข้าอบรมเหมือนเมื่อก่อน
.
คนขายประกันยุคใหม่ ไม่ใช่รู้แค่สินค้า
แต่ต้องรู้เรื่องของการเงิน 
เรื่องบุคลิกภาพการพูดคุยกับคน 
การใช้เรื่อง  Gadget หรือ Social Media  
เพื่อจะได้มีความรู้ไปพูดคุยกับลูกค้าได้
.
ตัวแทนยุคนี้ ต้องใช้ Data Analytics 
ในเรื่องของการบริหารจัดการข้อมูล 
ถ้าบริษัทมีข้อมูลลูกค้าไม่ครบ 
จากการจัดเก็บข้อมูลไม่ดีพอ 
จะเป็นความเสียเปรียบในการทำธุรกิจมาก
และในอนาคต แบบของกรมธรรม์
จะต้องเป็นแบบ Personalized มากขึ้น  
.
ในส่วนของทีมออฟฟิศ ที่ไม่ใช่ทีมขาย
อาจต้องมีการ rotate ความรับผิดชอบบ้าง
การ rotate คนไม่ใช่การย้าย 
หรือการลงโทษแบบข้าราชการ
แต่จะทำให้พนักงานมีความรู้ด้านอื่นๆ มากขึ้น
เป็นประโยชน์กับพนักงานด้วยซ้ำ 
.
นี่คือรูปแบบการปรับตัว ของธุรกิจประกันชีวิต
และคนขายประกันชีวิตทุกคนควรรู้
เพราะไม่งั้นจะปรับตัวไม่ถูก
และเดินต่าในธุรกิจนี้ไม่ได้
เฮ่ย! มันเป็นแบบนี้ได้ไงฟ่ะ
.
ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น
www.facebook.com/chatchaitalk
Tel.092-387-1241 , Line ID : ChatTalks
Email : kittisak1341@yahoo.com

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

อย่ากลัว Distruption เพราะมันมากาคุณแน่ๆ

“พจน์ อานนท์” หนัง Content “ต่ำ” แต่คำโปรโมท “สูง”

กางเกงยีนส์ ‘แม็ค’ ปรับธุรกิจอย่างไร ให้มากกว่าเดนิม สร้างการโตนิวไฮรอบ 7 ปี

Heineken 0.0 เบยร์ไม่มีแอลกอฮอลล์ แกกกฏโฆษณา และฉีกภาพเบียร์ในตำนาน

ต่อไปนี้ ระบบการทำธุรกิจ จะโดน Distrub