‘Jipjip Money’ ให้กู้-จำนองแบรนด์เนมเจ้าแรกในโลก ผ่อนเริ่มต้น 657 บาท สูงสุด 60 เดือน

สินค้าแบรนด์เนมมักถูกมองเป็นของฟุ่มเฟือย สิ้นเปลือง ไร้สาระ ฯลฯ แต่ก็เป็นความฝันของหลายคน รู้หรือไม่ว่า ตลาดสินค้าแบรนด์เนมทั่วโลก มีมูลค่าสูงถึง 13 ล้านล้านบาท เฉพาะใน “ญี่ปุ่น” มีมูลค่าตลาด 9.2 แสนล้านบาท ด้าน “ไทย” มีมูลค่าราว 1.4 แสนล้านบาท นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก ทำให้สินค้าลักชัวรีหลายแบรนด์เป็นที่ต้องการของเหล่าสาวกอย่างล้นหลาม เป็นสินค้า “Over-demand” ที่ผลิตมากเท่าไรก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ 

สะท้อนได้จากราคาที่พุ่งสูงในหลายรุ่น อาทิ “Chanel Classic Flap Medium” ปี 2010 มีมูลค่า 104,040 บาท และในปี 2020 กลับมีมูลค่าพุ่งสูงกว่า 257% หรือคิดเป็นตัวเลขราว 372,090 บาท “ลักชัวรีแบรนด์” จึงเป็นมากกว่าสินค้าแฟชั่น เทียบเท่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่ทำกำไรให้กับผู้ถือครองได้ด้วย

แต่การลงทุนในสินค้าแบรนด์เนมอาจดูเป็นฝันไกลเกินเอื้อมของมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะต้องการถือครองเพราะความสวยงามหรือลงทุน-เก็งกำไรก็ตาม ด้วยมูลค่าที่สูงขึ้นทุกปี ราคาเริ่มต้นที่หลักแสนถึงหลักสิบล้านบาท หากเทียบกับเงินในกระเป๋าหรือรายรับต่อเดือนแล้วก็คงเป็นเรื่องยากที่จะซื้อแบรนด์เนมสักชิ้นได้
จาก “Pain Point” ที่ว่ามานี้ บวกกับประสบการณ์ที่คลุกคลีในวงการแบรนด์เนมมามากกว่า 20 ปี ทำให้ “จิ๊บ-เสาวนีย์ ผไทวณิชย์” ตัดสินใจทำธุรกิจ “Jipjip Money” สินเชื่อเพื่อคนรักแบรนด์เนมเจ้าแรกและเจ้าเดียวในโลก ณ ขณะนี้ โดยได้รับการรับรองใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ครอบคลุมตั้งแต่สินเชื่อผ่อนแบรนด์เนมรวมถึงบริการจำนองกระเป๋า ยอดอนุมัติสูงสุด 2 ล้านบาท

“เสาวนีย์” เล่าว่า ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวที่คลุกคลีในวงการแบรนด์เนมตั้งแต่การซื้อมาขายไป รวมถึงรับจำนองสำหรับคนรู้จักที่ต้องการใช้เงินด่วน และด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้มองเห็น “โอกาส” ในตลาดที่มีมูลค่าสูงแต่ยังไม่มีใครกระโดดเข้ามาเป็น “เจ้าตลาด” จึงเป็นที่มาของ “บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด” ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้สินค้าลักชัวรีเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงง่าย ไม่ถูกจำกัดเพียงกลุ่มคนมีฐานะ มองว่า หากเป็นสินค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุนได้ ทุกคนก็ควรเข้าถึงตลาดนี้ได้อย่างไม่ยากนัก “Jipjip Money” จึงต้องการเป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้าที่ได้มาตรฐานจากทางร้าน รับประกันได้สินค้าของแท้ 100%

สำหรับบริการสินเชื่อและจำนองแบรนด์เนมภายใต้ “Jipjip Money” มีด้วยกัน 4 ส่วนหลักๆ ดังนี้
Jipjip Money สินเชื่อแบรนด์เนม บริการให้ลูกค้ากู้สินเชื่อโดยมี “Jipjip Money” เป็นตัวกลางในการตรวจสอบโดยมีร้านค้าพาร์ตเนอร์ที่ผ่านการันตี-ตรวจสอบจากระบบเอไอที่ได้ทาง “Ookbee” เข้ามาช่วยพัฒนา-เสริมทัพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เมื่อเลือกสินค้าที่ถูกใจจากร้านค้าพาร์ตเนอร์แล้วเสร็จ ทาง “Jipjip Money” จะส่งเอกสารอนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าเซ็น รอผลอนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นจะโอนเงินเต็มจำนวนให้ร้านค้า ทางลูกค้ารอรับแล้วผ่อนสินค้ากับทาง “Jipjip Money” เริ่มต้นที่ 657 บาทต่อเดือน เลือกผ่อนได้นานสูงสุด 60 เดือน ดอกเบี้ย 1.59% 
Bag for Cash และ Watch for Cash บริการจำนองกระเป๋าและนาฬิกา สำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วน สามารถนำกระเป๋าหรือนาฬิกามาจำนองกับทางร้าน ยอดอนุมัติเงินสูงสุด “2 ล้านบาท”
Diamond for Cash บริการรับจำนองอัญมณี บริการนี้ทาง “Jipjip Money” จะทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยหัวข้อนี้กำลังอยู่ในช่วงเตรียมการเพื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเดือนเมษายน ปี 2567

ส่วนที่เป็นบริการจำนองกระเป๋า นาฬิกา และอัญมณี ทางร้านมีระบบห้องนิรภัย 7 ชั้น มาตรฐานระดับโลก หลังเปิดบริการได้ 8 เดือนขยายตู้เซฟไปแล้ว 2 ตู้ และกำลังวางแผนขยายเพิ่มอีก 1 ตู้ภายในเดือนมกราคม 2567 ในส่วนนี้ “เสาวนีย์” เล่าว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วน หลังจากนี้ก็อยากให้นึกถึง “Jipjip Money” เป็นตัวเลือกแรกๆ อย่างที่ได้ให้ข้อมูลไปตอนต้นว่า สินค้าลักชัวรีเหล่านี้เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในอีกรูปแบบหนึ่ง การนำรถหรือบ้านไปจำนองอาจมี “ร่องรอย” ในประวัติการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่กระเป๋า นาฬิกา หรือบรรดาสินค้าลักชัวรีที่นำมาฝากกับ “Jipjip Money” ไม่เป็นเช่นนั้น รวมทั้งยังปลอดภัยหายห่วงด้วยตู้นิรภัยได้มาตรฐานด้วย

เธอเผยอินไซต์บางส่วนให้ฟังว่า ขณะนี้รายได้หลักของ “บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด” มาจากบริการ “Bag for Cash” หรือบริการรับจำนองกระเป๋า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มีตั้งแต่ดารา-นักแสดง บรรดาไฮโซ ไปจนถึงนักศึกษา โดยจำนวนการจำนองต่อครั้งที่เคยให้บริการมากที่สุดอยู่ที่ “65 ใบ” ส่วนใหญ่ทำสัญญากันสั้นๆ ราว 1-3 เดือน สามารถทำสัญญาต่อได้โดยมีค่าบริการครั้งละ 500 บาท จากสถิติที่ผ่านมาลูกค้าประมาณ 95% ต่อสัญญาเกือบทั้งหมด ทำให้ต้องมีการขยายตู้เซฟเก็บกระเป๋าเพิ่มเติม โดยขณะนี้มีรายการรับจำนองอยู่ที่ 1,200 รายการ 

“เสาวนีย์” คาดการณ์ว่า สิ้นปี 2566 “บริษัท เงินเรื่องจิ๊บ จำกัด” อาจมีรายได้ทะลุ 50 ล้านบาท วางเป้าหมายพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปี ด้วยตลาดที่มีมูลค่าสูงทำให้มีโอกาสในน่านน้ำนี้อีกมากมาย ซึ่งขณะนี้บริษัทยังไม่ได้มีการรุกทำการตลาดอย่างเอาจริงเอาจัง และจะเริ่มทำการตลาดทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑลเต็มรูปแบบช่วงต้นปี 2567

“เราเริ่มทำธุรกิจนี้เพราะเห็นมูลค่าจำนวนมหาศาล แต่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อนทั้งในประเทศและระดับโลก สินค้าแบรนด์เนมราคาขึ้นทุกวัน ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ธุรกิจที่รวยอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง “หลุยส์ วิคตอง” (LVMH) ก็เป็นสินค้ากลุ่มลักชัวรีแบรนด์ นี่คือความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้รับใบอนุญาตมา” ผู้บริหาร “Jipjip Money” กล่าวปิดท้าย

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

อย่ากลัว Distruption เพราะมันมากาคุณแน่ๆ

“พจน์ อานนท์” หนัง Content “ต่ำ” แต่คำโปรโมท “สูง”

กางเกงยีนส์ ‘แม็ค’ ปรับธุรกิจอย่างไร ให้มากกว่าเดนิม สร้างการโตนิวไฮรอบ 7 ปี

Heineken 0.0 เบยร์ไม่มีแอลกอฮอลล์ แกกกฏโฆษณา และฉีกภาพเบียร์ในตำนาน

ต่อไปนี้ ระบบการทำธุรกิจ จะโดน Distrub