Ultra-Cheap อีคอมเมิร์ซ “จะรุ่งหรือร่วง”
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซราคาถูกแบบสุดขั้ว อย่าง TEMU, SHEIN และ AliExpress กำลังเปลี่ยนแปลงตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์อย่างรวดเร็ว
แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นที่รู้จักทั่วโลกในการนำเสนอสินค้าที่มีราคาต่ำมาก ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงอิเล็กทรอนิกส์ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องราคาเป็นหลัก
ตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 5.14 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2024 ได้รับผลกระทบอย่างมากจากแพลตฟอร์มราคาถูกเหล่านี้ ด้วยโมเดลธุรกิจที่ตัดคนกลางออกและขายตรงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค ทำให้มีความได้เปรียบเรื่องต้นทุนเมื่อเทียบกับผู้เล่นอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม
โมเดลนี้ได้สร้างความกดดันให้กับผู้เล่นเดิมในตลาดและกำลังทำให้แบรนด์ส่วนใหญ่ต้องรีบปรับกลยุทธ์
การขยายตัวของอีคอมเมิร์ซราคาถูก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแบรนด์ดังที่นำเสนอราคาที่สูงกว่า แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ความภักดีต่อแบรนด์ลดลง
สิ่งเหล่านี้ทำให้แบรนด์จำเป็นต้องปรับแนวทางในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้นที่การสร้างความแตกต่าง เช่น การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า การนำเสนอสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ หรือการเน้นเรื่องคุณภาพและความยั่งยืน
ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มราคาถูกจะดึงดูดผู้บริโภคได้ด้วยราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง แต่ก็มีปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ คุณภาพของสินค้า
ผู้บริโภคจำนวนมากได้รับสินค้าที่ไม่ตรงกับสิ่งที่เห็นในเว็บไซต์ เพราะด้วยแรงกดดันที่จะต้องรักษาต้นทุนให้ต่ำ ทำให้สินค้ามีคุณภาพไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวัง ความปลอดภัยของข้อมูลก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องกังวล
ในภูมิภาคที่ผู้บริโภคมีความความอ่อนไหวต่อราคาและการเข้าถึงอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโต แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็ยังคงขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว
แต่อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการแก้ไขปัญหาคุณภาพและความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงการรักษาข้อได้เปรียบในเรื่องต้นทุน
สำหรับแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซราคาถูก ควรมุ่งเน้นในจุดที่แพลตฟอร์มราคาถูกไม่สามารถให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพที่เหนือกว่า การบริการลูกค้า การมุ่งเน้นเรื่องจริยธรรมและความยั่งยืน การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคล
นอกจากนี้การลงทุนในนวัตกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโมเดลธุรกิจ และการแสวงหาช่องทางการขายใหม่ จะช่วยทำให้แบรนด์สามารถสร้างความสมดุลระหว่างราคาที่แข่งขันได้และการเติบโตอย่างยั่งยืน
การช้อปราคาถูกสุดขั้วอาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่อยู่ยาวหรือเป็นแค่กระแสที่มาแล้วก็ไปซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้า ความพึงพอใจของลูกค้า และความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจ หากแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถอยู่รอดได้
เราอาจเห็นแบรนด์ชั้นนำหลายรายเข้าสู่สมรภูมิแข่งขันด้านราคา แต่หากเป็นเพียงกระแสชั่วคราว คุณภาพจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ซึ่งอาจทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ยกระดับคุณภาพ และปรับราคาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้