SPOTV ซื้อลิขสิทธิ์ ไทยลีก ฉาย 11 เอเชีย ดันโกอินเตอร์ – ซอฟต์พาวเวอร์


จู่ๆ วงการฟุตบอลไทยมีข่าวใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อมีรายงานว่า “SPOTV” ผู้ให้บริการถ่ายทอดสดกีฬาจากประเทศเกาหลีใต้ได้ซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลไทยลีกไปเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับลิขสิทธิ์ที่ซื้อไปนั้นจะทำการถ่ายทอดสดให้ผู้ใช้บริการของ SPOTV ชมกันใน 11 ประเทศทั่วเอเชีย อันประกอบไปด้วย อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, ติมอร์เลสเต, ฮ่องกง และมาเก๊า ในช่วงแรกนั้นจะเเปิดให้รับชมกันแบบฟรีๆไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด ซึ่งจะเริ่มการถ่ายทอดสดในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ และหลังจากนั้นจึงจะมีการเรียกเก็บค่าสมาชิกในภายหลัง

ข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวดีของฟุตบอลไทยหรือไม่? ค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยในมือต่างชาติ

สำหรับเรื่องสำคัญที่สุดที่หลายคนอยากรู้คือ “มูลค่า” ของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกที่ทางด้าน SPOTV ซื้อไปนั้นอยู่ที่เท่าไร?

ในเรื่องนี้ไม่มีข้อมูลหรือการยืนยันเปิดเผยจากทั้งทางฝ่ายของ SPOTV - ซึ่งยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่องทางของตัวเองด้วยซ้ำไป - และในฝั่งของไทยลีกที่ยังไม่มีการยืนยันข่าวเช่นกัน

อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่าสนใจคือไม่ว่ามูลค่าของลิขสิทธิ์จะมากหรือน้อยอย่างไร รายได้ก้อนนี้จะไม่ได้กลับเข้าสู่กระเป๋าของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์แต่อย่างใด เหตุผลนั้นเป็นเพราะทางด้านสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มอบลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกให้แก่ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคม ซึ่งก็คือบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะได้รับคือจำนวนเงินการันตีที่ทำไว้ในสัญญากับทางด้านผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ ส่วนผู้ดูแลจะนำไปบริหารจัดการอย่างไร ได้ผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่ามากน้อยกับการลงทุนแค่ไหน เป็นความรับผิดชอบของบริษัทผู้ดูแลไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสมาคมฟุตบอล พูดให้เข้าใจง่ายคือเม็ดเงินนี้จะไม่ใช่เงินโบนัสที่กลับมาส่งเสริมวงการฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่งแต่อย่างใด เพราะสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯได้รับเงินการันตีในทุกปีตามสัญญาอยู่แล้ว

ตรงนี้จะแตกต่างจากกรณีของลีกฟุตบอลชื่อดังอย่างพรีเมียร์ลีก ที่เปิดประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเอง ในแต่ละรอบประมูลจะได้เงินค่าลิขสิทธิ์กลับมามากหรือน้อยก็ต้องยอมรับกัน (แต่มูลค่าการประมูลนั้นมากมายมหาศาลอยู่แล้วในทุกรอบการประมูลที่จะมีทุก 3 ปี)

:: SPOTV คือใคร? ::
SPOTV ผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกไปทำการเผยแพร่นั้นเป็นช่องโทรทัศน์แบบอกรับสมาชิกสัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งนำเสนอการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาและเนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกีฬา ซึ่งเพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2010 แต่มีการเติบโตที่น่าสนใจ

โดยในประเทศไทย SPOTV ถูกดึงเข้ามาแทนที่ช่องกีฬาชื่อดังในอดีตที่ปิดตัวลงไปอย่าง FOX Sports Asia เมื่อปี 2021 ซึ่งรับชมได้ผ่านทางทรู วิชันส์ จำนวน 2 ช่องด้วยกัน ได้แก่ SPOTV และ SPOTV2 และในเวลาเดียวกัน นี่ก็อาจเป็น “โอกาส” ของฟุตบอลไทยด้วย

และผลกระทบในเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นตามมายังมีอีกมากมายมหาศาล เพราะไม่เพียงแค่แฟนฟุตบอลจะได้เห็นฟุตบอลไทยเท่านั้น ยังหมายถึงนักลงทุน สปอนเซอร์ต่างๆที่จะพิจารณาโอกาสในการเข้ามาลงทุนกับฟุตบอลไทย ซึ่งคุณภาพในการแข่งขันนั้นถึงจะยังไม่สูงเท่ากับ “เคลีก” ของเกาหลีใต้ หรือ “เจลีก” ของญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นฟุตบอลที่ด้อยคุณภาพแต่อย่างใด

นักฟุตบอลไทยเองก็มีโอกาสที่จะได้อยู่ในหูในตาของบรรดาเอเยนต์ตัวแทนต่างๆ ซึ่งหากเล่นดี เล่นเข้าตา ก็มีโอกาสที่จะโดนดึงตัวไปเล่นในต่างประเทศด้วย

เช่นกันกับเรื่องของ “วัฒนธรรมฟุตบอลไทย” (Thai Football Culture) ที่จะถูกเผยแพร่ผ่านการถ่ายทอดทางช่องของ SPOTV ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีความพยายามในการปั้นแต่งภาพลักษณ์ให้ดูดี มีอะไรที่มากกว่าแค่เกมในสนาม เช่น อัธยาศัยของแฟนบอลไทย ความมีน้ำใจ อาหารการกินหน้าสนาม วัฒนธรรมการเชียร์ สีสันต่างๆ

สิ่งเหล่านี้คือ “ซอฟต์พาวเวอร์” ในแบบที่รัฐบาลปัจจุบันพยายามผลักดัน ซึ่งฟุตบอลไทยก็มีโอกาสจะเป็นเช่นนั้นจากโอกาสนี้

:: มูลค่าไม่เท่ากับคุณค่า ::
ดังนั้นไม่ว่า SPOTV จะซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยไปด้วยมูลค่าเท่าไร ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ ในอดีตฟุตบอลเจลีก ของญี่ปุ่นเองก็เคยมีช่วงเวลาที่แทบไม่คิดมูลค่าของการถ่ายทอดสดเลย เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาจากการปรากฏให้แฟนบอลต่างชาติได้เห็น ยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าของลีกให้มากขึ้นเท่านั้น

อาจจะมองได้ว่านี่เป็นการหวนกลับมามี “คุณค่า” อีกครั้งของฟุตบอลไทย และมีโอกาสจะเป็นการเพิ่มมูลค่าลิขสิทธ์ให้กลับมาอยู่ในระดับที่ไม่น่าตกใจหรือใจหายอีกครั้ง หลังพ้นยุคทองที่เคยไต่ไปในระดับ “พันล้านบาท” ในอดีต

แต่จะอย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือฟุตบอลไทยต้องพยายามทำทุกอย่างให้ดี มีการพัฒนา

ไม่ใช่แค่เรื่องของเกมในสนาม เรื่องของภาพลักษณ์ เรื่องความมีน้ำใจนักกีฬา (ภาพบอลไทยจะไปมวยโลกไม่ควรจะเกิดอีก) แต่รวมถึงคุณภาพของการถ่ายทอดสด ภาพชัดไหม เสียงชัดไหม บรรยากาศในสนามเป็นอย่างไร

พรีเมียร์ลีก ลีกอันดับหนึ่งของโลกยังมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนทุกปี เอาแค่เรื่องของ “สีหญ้า” ที่ปรากฏบนหน้าจอทีวีก็มีการกำหนดว่าจะต้องดูเขียวสดใส ใส่ Contrast จัดๆเท่านั้นเพื่อให้น่าดูชม ขณะที่ก่อนการแข่งขัน พักครึ่งการแข่งขัน ไปจนถึงหลังจบการแข่งขัน ก็จะมีคอนเทนต์แวดล้อมให้ติดตาม เช่น การวิเคราะห์เกม หรือสกู๊ปข่าวที่เกี่ยวกับสโมสรต่างๆ ไปจนถึงนักฟุตบอลชื่อดังทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ฟุตบอลไทยมีโอกาสที่จะเพิ่ม “คุณค่า” ให้กับตัวเองได้ในโอกาสนี้และถ้าฟุตบอลไทยมีคุณค่า “มูลค่า” ของมันก็จะกลับมาเองโดยไม่จำเป็นต้องร้องขอหรือหักคอใครทั้งสิ้น

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

อย่ากลัว Distruption เพราะมันมากาคุณแน่ๆ

“พจน์ อานนท์” หนัง Content “ต่ำ” แต่คำโปรโมท “สูง”

กางเกงยีนส์ ‘แม็ค’ ปรับธุรกิจอย่างไร ให้มากกว่าเดนิม สร้างการโตนิวไฮรอบ 7 ปี

Heineken 0.0 เบยร์ไม่มีแอลกอฮอลล์ แกกกฏโฆษณา และฉีกภาพเบียร์ในตำนาน

ต่อไปนี้ ระบบการทำธุรกิจ จะโดน Distrub