ซีคอน บางแค จัดให้ ป้ายรถเมล์ติดแอร์ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ แห่งที่สองในไทย
ซีคอน บางแค ลงทุนสร้าง “ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์” แห่งที่สอง ใน กทม. หวังลูกค้าทุกคนได้ความสะดวก ไม่ต้องเจออากาศร้อน-หลบฝนได้ จัดเต็ม ฟรีไวไฟ ที่ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ตู้กดน้ำดื่มสาธารณะ พร้อมจอแสดงสายรถเมล์ที่กำลังเข้ามา
.
เสียงเรียกร้องจากคนในเมือง ที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะมายาวนานหลายปีคือ อยากให้มีการสร้างป้ายรถเมล์ติดแอร์บ้าง เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อน และในบางฤดูกาลฝนมีตก ทำให้ภาคเอกชนไทย โดยกลุ่มรีเทล ได้ขยายสู่การสร้างป้ายรถเมล์ติดแอร์ นำโดยกลุ่มซีคอนฯ
.
ทั้งนี้ได้มีการลงทุนสร้าง "ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรก “Sabuy Square” ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2566 โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ต่อมาในปี 2567 ได้มีขยายสู่การจัดทำในพื้นที่ หน้าศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ถนนเพชรเกษม อย่างเป็นทางการ
.
ดร. พรต ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการสำนักปฎิบัติการ บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด กล่าวถึง การลงทุนสร้าง ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของฝั่งธน (Seacon Air Condition Solar Bus Station) ที่ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ โดยโครงการนี้มุ่งสร้างประโยชน์ต่อลูกค้าในส่วนรวม
.
สำหรับป้ายรถเมล์ติดแอร์แห่งนี้ภาคเอกชนได้มีการลงทุน 3 ล้านบาท โดยออกแบบให้มีพื้นที่พักคอยทั้งภายในและภายนอกรวม มีขนาดพื้นที่ 56 ตร.ม. สามารถรองรับลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ 40 คน ซึ่งมีบริการต่างๆ ทั้ง
.
การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ KUKU พลังงานแสงอาทิตย์
บริการ Free Wi-Fi จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
มีที่เสียบ USB สำหรับชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ
ตู้กดน้ำดื่มสาธารณะ
กล้อง CCTV เชื่อมต่อระบบไปยังศูนย์บริหารจัดการ
ระบบสัญญาณเตือนฉุกเฉิน (Panic Button)
จอแสดงสายรถเมล์ที่กำลังจะมาถึง
.
ตัวโครงสร้างช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดและลมฝน ปกป้องจากฝุ่นควัน PM2.5
ทั้งนี้ ป้ายรถเมล์ติดแอร์ หน้าซีคอน บางแค ถนนเพชรเกษม MRT สถานีภาษีเจริญ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.30 – 23.00 น.
.
นอกจากนี้ ซีคอน บางแค มีนโยบายลงทุนด้านพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมต่อยอดแนวคิดพัฒนาโปรเจคใหม่ๆ เพื่อร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightForOpportunities #กรุงเทพธุรกิจUpdate
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้