ส่องขุมทรัพย์ธุรกิจไทยเบฟ ‘เหล้า’ กำไรลด 4.6% ‘เบียร์’ การบริโภคลด 2 ล้านลิตร
ปีนี้เดิมพันใหญ่ของ “บิ๊กแบรนด์” อย่าง “เบียร์ช้าง” คือการต้องเดินหน้าชิงบัลลังก์เบอร์ 1 ในตลาดมูลค่า “แสนล้านบาท” ให้ได้ หลังต่อกรกับ “คู่แข่ง” รายสำคัญในตลาดมาอย่างยาวนาน
.
สถานการณ์ ยอดขายของสุรา ทั้งปีอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท เติบโต 0.8% และกำไรสุทธิ 2.13 หมื่นล้านบาท ลดลง 4.6% ส่วนเบียร์ยอดขาย 1.26 แสนล้านบาท เติบโต 2.4% และกำไรสุทธิ 5,221 ล้านบาท เติบโต 3.9% ขณะที่ยอดขายเชิงปริมาณ สุราอยู่ที่ 638 ล้านลิตร ลดลง 0.8% เหล้าตก ยังทำให้โซดายอดขายเชิงปริมาณลดลง 1.3% ด้วย ส่วนเบียร์ยอดขายเชิงปริมาณอยู่ที่ 2,314 ล้านลิตร ลดลง 0.1% หรือราว 2 ล้านลิตร จากปีก่อน
.
ล่าสุด บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) เผยผลประกอบการปี 2567 สร้างยอดขาย 3.4 แสนล้านบาท เติบโต 2.2% ส่วน “กำไรสุทธิ” อยู่ที่ 3.52 หมื่นล้านบาท โตต่ำเพียง 0.6% เท่านั้น
.
ทั้งนี้ กลุ่ม “เหล้า-เบียร์” คือหัวใจสำคัญเป็นขุมทรัพย์ทำเงินมหาศาล และเพิ่มกำไรสร้างความมั่งคั่งให้อาณาจักร “ตระกูลสิริวัฒนภักดี” เจาะลึกยอดขาย 3.4 แสนล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจาก เบียร์ 37.1% ตามด้วยสุรา 35.5% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 19.3% อาหาร 6.6% และอื่นๆ 1.6%
.
ส่วน “กำไรสุทธิ” สุรายังทำเงินมากสุด 60.6% ตามด้วยเบียร์ 14.8% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 16.7% แซงเบียร์เป็นครั้งแรก หลังจากมีการนำกิจการของเฟรเซอร์แอนด์นีฟ(เอฟแอนด์เอ็น)เข้ามาเป็นบริษัทในเครือจากบริษัทร่วม ส่วนอาหารทำกำไร 0.6% และอื่นๆ 6.9%
.
อย่างไรก็ตาม เหล้า กำไรลด ถือเป็นโจทย์ที่บริษัทต้องหาทางสร้างการเติบโตในปี 2568 แต่ที่ผ่านมา ไทยเบฟระบุว่า สุราขาวในไทยยังเติบโต และตลาดเมียนมาที่แกร่งยังคงเติบโตเช่นกัน ส่วนกำไรของเบียร์ที่เติบโต 3.9% เกิดขึ้นทั้งในไทยและเวียดนามเพราะการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้