เปิดขุมทรัพย์ ‘เศรษฐกิจสีรุ้ง’ บูม Pink Money LGBTQIAN+ ใช้จ่ายสูง 2-3 เท่า

ภาครัฐ-เอกชน ขานรับไทยสร้างประวัติศาสตร์ชาติแรกในอาเซียนคลอดกฎหมายสมรสเท่าเทียม ดัน Pink Money เคลื่อนเศรษฐกิจ รับอำนาจซื้อ LGBTQIAN+

.

ททท.ประเมินใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 40% เดินหน้าดันไทย Top LGBTQIAN+ Friendly Destination วันสยาม หนุนไทยเจ้าภาพ Bangkok World Pride 2030 “นฤมิตไพรด์“ เผยชาวสีรุ้งเปย์หนัก 2-3 เท่า ”จีเซอร์คิท เปิดอินไซด์งานเกย์ แดนซ์ เฟสติวัล จีน สหรัฐ ฮ่องกง สิงคโปร์ ร่วมงานมากสุด เน้นพักโรงแรมหรู เผยอุปสรรค แบรนด์ ยังห่วงภาพลักษณ์ฉุดพลังทำตลาดยังห่างชั้นไต้หวัน

ประเทศไทยสร้างประวัติศาสตร์ประกาศบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ ทำให้กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQIAN+ จับมือคู่รักจดทะเบียนสมรสได้ นับเป็นโอกาสทองของภาคธุรกิจในการต่อยอด และขับเคลื่อน “เศรษฐกิจสีรุ้ง” ทั้งในประเทศ และดึงดูดบรรดานักท่องเที่ยวสีรุ้งทั่วโลกที่ขึ้นชื่อว่า “สายเปย์” ให้เดินทางมาท่องเที่ยวไทย ด้วยไลฟ์สไตล์การศึกษา หน้าที่การงานดี มีอำนาจซื้อสูง ส่งผลดีต่อการจับจ่ายสินค้า และบริการต่างๆ “กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจขุมทรัพย์ธุรกิจ โจทย์การตลาดสีรุ้ง ปลุกเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของไทย

.

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หลังจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมของประเทศไทยเริ่มต้นบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่แสดงถึงการเปิดรับความหลากหลาย และยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาว LGBTQIAN+ ที่เดินทางมายังประเทศไทยด้วยความอบอุ่น และเป็นมิตร สอดรับกับปี 2568 รัฐบาลประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว และกีฬา หรือ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดยปลายทางยอดนิยม (Preferred Destinations) และสวรรค์ของนักท่องเที่ยว


“ททท. ให้ความสำคัญกับกลุ่ม LGBTQIAN+ มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 40% มีขนาดตลาดใหญ่และมูลค่าทางการตลาดสูง โดยประเทศไทยมีรายได้ทางการท่องเที่ยวจากกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQIAN+ สูงเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย”

.

ทั้งนี้ ททท. ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองสมรสเท่าเทียม และมอบโปรโมชันพิเศษ ส่วนลดที่พัก ร้านอาหาร แพ็กเกจท่องเที่ยว และของที่ระลึกให้คู่รัก LGBTQIAN+ ที่จดทะเบียนสมรสตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.68 ถึงเดือนก.พ.68 นี้

.

ต่อเนื่องเดือนก.พ. เตรียมจัดกิจกรรม “Amazing Thailand LGBTQ+ Trade Meet และ Fam Trip” เชิญผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากภูมิภาคอเมริกา และอินฟลูเอนเซอร์กลุ่มตลาด LGBTQIAN+ จากหลายประเทศ พบปะผู้ประกอบการไทยพร้อม การทำคอนเทนต์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทย ส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่ Top LGBTQIAN+ Friendly Destination ระดับโลก

.

ข้อมูลจาก LGBT Capital พบว่า ในปี 2565 มีชาว LGBTQIAN+ ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีทั่วโลก จำนวน 388 ล้านคน และมีกำลังการใช้จ่ายมากถึง 4.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี บูมเม็ดเงินไหลเวียนทางเศรษฐกิจมหาศาล

:: ปลุกขุมพลัง Pink Money ::

นายสุเมธ ศรีเมือง ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท จีเซอร์คิท จำกัด ผู้จัดงาน Gay Dance Fastival ใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า ขุมพลังเศรษฐกิจจากกลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือ Pink Dollar หรือ  Pink Money ในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้มีการศึกษาดี หน้าที่การงานดี มีกำลังซื้อสูง เมื่อท่องเที่ยวจะปลดปล่อยไลฟ์สไตล์ต่างๆ จึงเป็นสายเปย์ หากเป็นคู่รัก ไม่มีบุตร จึงพร้อมใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขให้กับตนเอง เช่น การเข้าพักโรงแรมลักชัวรี

.

หากพิจารณาทัวริสต์กลุ่มหลากหลายทางเพศ ที่บริษัทมีการทำตลาด พบว่ามีไลฟ์สไตล์การเดินทางมาท่องเที่ยวไทย 2-3 ครั้งต่อปี ร่วมอีเวนต์สำคัญ และเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีน วันสงกรานต์ และงาน Pride Month

.

“หลังมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี เพราะมีปัจจัยภายนอกต้องเกาะติดทั้งภูมิรัฐศาสตร์โลก นักท่องเที่ยว ตลอดจนคู่รัก LGBTQIAN+ ที่จะเดินทางมาเยือนไทย แต่เบื้องต้น ธุรกิจการตลาดรวมถึงเศรษฐกิจสีรุ้งจะมีการเติบโต และเม็ดเงินสะพัดเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”

.

:: บูมปาร์ตี้เกย์ ดึงทัวริสต์สายเปย์ ::

จีเซอร์คิท ถือเป็นผู้ริเริ่มจัดอีเวนต์ Gay Dance Fastival ในไทยเมื่อ 19 ปีก่อน เป็นหมุดหมายงานเกย์ แดนซ์ เฟสติวัลใหญ่สุดในเอเชีย ปีแรกมีผู้ร่วมงานราว 1,500 คน และไม่มีผู้สนับสนุน (สปอนเซอร์) แต่อย่างใด ทั้งภาครัฐ และแบรนด์สินค้า เนื่องจากส่วนใหญ่เน้นจับกลุ่มเป้าหมายเพศชายโดยตรง ปี 2568 จีเซอร์คิท จัดงานต่อเนื่องช่วงสงกรานต์ ไฮไลต์ปีนี้มีแบรนด์เบียร์ไทยเข้าร่วมเป็นสปอนเซอร์ด้วย ส่วนพันธมิตรเดิม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบรนด์ระดับโลก เรือสำราญ

.

“ปีนี้จีเซอร์คิทต้องการสร้างสรรค์งานที่ล้ำแบบไม่เคยมีมาก่อน เพื่อทำให้คนมางานรู้สึก และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ รวมถึงเป็นกิจกรรม Road to 20 ของบริษัทที่จะครบ 20 ปี ในปี 2569 ซึ่งมีความพิเศษยิ่งขึ้น”

.

การจัดงานจีเซอร์คิท มีกลุ่มเป้าหมายเกย์จากหลากหลายประเทศ อันดับ 1 ที่มาร่วมงาน คือ จีน สูสี กับสหรัฐ ตามด้วยฮ่องกง และสิงคโปร์ มีการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 บาทต่อคนต่อครั้ง บัตรเข้างานปีนี้ราคาสูงสุด (Early Bird) อยู่ที่ 11,300 บาท ซึ่งจะปรับขึ้นเป็นลำดับต่อไป เช่น ราคาบัตรหน้างาน (At Door) งานดังกล่าวรองรับ 6,000-8,000 คนต่อคืน หรือกว่า 30,000 คน ช่วง 4 คืนตามความจุของสถานที่ โดยงานช่วงสงกรานต์นี้คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทจากทุกงานในช่วงนั้น


:: ไทยยังขาดแรงสนับสนุนรัฐ-เอกชน ::

แม้เศรษฐกิจ Pink Dollar กำลังเติบโต แต่ตลาดยังมีอุปสรรคไม่น้อย ที่ผ่านมาการจัดอีเวนต์ของกลุ่ม LGBTQIAN+ ยังขาดแรงสนับสนุนทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยเฉพาะแบรนด์สินค้า ซึ่งอาจมีความกังวลผลกระทบภาพลักษณ์ต่อการจับกลุ่มเป้าหมายเพศสภาพโดยตรง

.

ขณะที่การเจาะดึงนักท่องเที่ยว คู่รักมาจดทะเบียนสมรสในไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ ข้อจำกัดใหญ่คือ บางประเทศต้นทางยังไม่เปิดกว้าง ส่วนการขอใบรับรองโสด เพื่อมาสมรสต้องใช้เวลานาน

.

สำหรับข้อเสนอแนะภาครัฐ ททท.ควรผนึกความร่วมมือกับท่าอากาศยานไทย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวหลากหลายทางเพศตั้งแต่หน้าด่าน ลงสนามบิน ให้รู้สึกอบอุ่น และอยากกลับมาเยือนไทยอีกครั้ง ซึ่งกรณีศึกษาน่าสนใจประเทศสเปน ต้อนรับทัวริสต์สีรุ้งตั้งแต่สนามบิน เป็นสิ่งที่นักเดินทางประทับใจอย่างมาก

.

:: ตลาดสีรุ้งใหญ่ แนวโน้มเติบโต ::

นางสาวอรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด ผู้จัดงานบางกอกไพรด์ (Bangkok Pride) และงานวันสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality Day) กล่าวว่า กลุ่มหลากหลายทางเพศเป็นตลาดใหญ่ที่น่าสนใจ มีกำลังซื้อสูง จ่ายหนัก 2-3 เท่า เทียบกลุ่มคนทั่วไป ด้วยวิถีชีวิตเก็บออมเก่ง ใช้จ่ายอย่างรอบคอบ ไม่มีบุตร เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ ใช้ชีวิตอิสระ เมื่อมีเงินจึงมีความสุขในการใช้จ่าย นับเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์สินค้าและบริการ

.

สำหรับการจัดงานบางกอกไพรด์ในไทยปีแรก 2565 มีผู้ร่วมงาน 20,000 คน ปีที่ 2 กว่า 1 แสนคน ปี 2567 มากกว่า 2 แสนคน สร้างเม็ดเงินสะพัดหลักหมื่นล้านบาท โดยภารกิจของบริษัทนอกจากผลักดันงานให้ยิ่งใหญ่ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก ยังมีเครือข่ายจัดงานในต่างจังหวัดกว่า 30 แห่ง เช่น พัทยา ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี ผลักดันให้เป็นเดสติเนชันที่ชาว LGBTQIAN+ ไปเยือน

.

การตลาดสีรุ้งคือ สังเวียนของแบรนด์ช้างสารที่จะเข้ามารุกตลาด ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ด้วย จึงต้องการให้แบรนด์วางกลยุทธ์เป็นกลางทางเพศ (Gender-Neutral) เป็นทลายกำแพงทางเพศ (Unisex) ซึ่งจะทำให้แบรนด์ทำกิจกรรมได้อย่างสนุก โดยเกาะจริตของ LGBTQIAN+ ของไทยซึ่งเป็นที่สุดแล้ว

.

:: “วันสยาม” หนุนไทยเจ้าภาพ World Pride 2030 ::

นายเอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจสยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ไทยมีกฏหมายสมรสเท่าเทียมเป็นประเทศแรกในอาเซียน และประเทศที่ 3 ในเอเชีย เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQIAN+ จากทั่วโลก ที่มีกว่า 500 ล้านคน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีกำลังซื้อสูงเข้ามาเยือนไทยมากขึ้น

.

วันสยาม (ONESIAM) (สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่) ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมมาโดยตลอด พร้อมสนับสนุนประเทศไทยสู่การจัดงาน Bangkok World Pride 2030 เป็นเดสติเนชันของไพรด์ (World Pride Destination) ด้วยจุดเด่นประเทศไทยมีคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง  มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น สถานที่จัดงานตอบโจทย์ผู้คนจำนวนมาก ระบบคมนาคมขนส่งที่สนับสนุนการจัดงานเทศกาลระดับโลก มาตรฐานการบริการ และความเป็นมิตรของคนไทย ทำให้นักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจ ซึ่งสยามพิวรรธน์พร้อมที่จะสนับสนุนพื้นที่การจัดงานในรูปแบบต่างๆ

.

“วันสยาม ถือเป็นศูนย์กลางของ LGBTQIAN+ คอมมูนิตี้ สนับสนุนการจัดกิจกรรมของกลุ่ม LGBTQIAN+ อย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้กลุ่ม LGBTQIAN+ ได้ใช้พื้นที่เพื่อแสดงออกอย่างสร้างสรรค์มาโดยตลอดสอดรับปณิธานที่กลุ่มสยามพิวรรธน์ยึดมั่น ในการมอบโอกาสให้แก่ผู้คนในทุกมิติ ทั้งด้านธุรกิจ การบริการลูกค้า สังคม และชุมชนด้วยความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน”

.

โดยกลุ่มวันสยาม จับมือร้านค้าต่างๆ มอบสิทธิพิเศษ และส่วนลดให้กับคู่รักที่จดทะเบียนในงานสมรสเท่าเทียมเมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 พร้อมผลักดันโครงการต่างๆ ซึ่ง สยามเซ็นเตอร์ เป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในไทยที่ร่วมกับสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) ส่งเสริมความหลากหลาย และร่วมมือกับ บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด องค์กรผู้จัด บางกอกไพรด์ พันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนร่วมฉลองเทศกาล Pride Month

.

ปลายปี 2567 ยังเป็นพื้นที่จัดงาน White Party Bangkok งานปาร์ตี้ LGBTQ+ ใหญ่สุดในเอเชีย สร้างสถิติผู้ร่วมงานกว่า 30,000 คน จาก 90 ประเทศทั่วโลก การจัดงาน Drag Bangkok Festival 2024 ครั้งแรกไทยและเอเชีย รวมศิลปินแดร็กทั่วโลก เป็นต้น

.

ด้านศูนย์การค้าเซ็นทรัล เตรียมจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลไพรด์ (Pride Month) และร่วมฉลองที่ประเทศไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้แล้วในเดือนมิ.ย. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ พร้อมด้วยขบวนพาเหรด ร่วมสนับสนุนพื้นที่สำหรับ LGBTQIAN+  ซึ่งการจัดงาน Thailand’s Pride Celebration 2024 “Pride For All” มีผู้เข้าร่วมสูงกว่า 5 แสนคน

.

:: LGBT Travel Index ไทยพุ่งดึงทัวริสต์-ลงทุน ::

นายกิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย (RSAT) กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศลำดับที่ 38 ของโลก และประเทศแรกในเอเชียที่ใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมที่เป็นแบบเดียวกับชายหญิง (Marriage Equality) โดยการนำเรื่องเพศออกนอกกรอบ แต่ใช้คำว่า บุคคลเป็นแกนกลางทั้งหมด แตกต่างจากเนปาลและไต้หวัน ที่จะใช้กฎหมายแยกออกมาต่างหาก

.

การประเมินจาก LGBT Capital กับจำนวนประชากรกลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วโลก มี 500-600 ล้านคน จากประชากรโลก 7,000 ล้านคน ซึ่ง 60% อยู่ในเอเชีย ในไทยคาดการณ์ 7 ล้านคน

.

ส่วนผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทยใน 3 ด้าน

1.สถิติของ LGBT Travel Index ที่เคยจัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ที่ 86 ของโลก หรือระดับ D+ เมื่อมีกฎหมายแล้วคาดมีโอกาสขยับมาอยู่ระดับ A แสดงถึงปลอดภัยที่สุด ดึงดูดกลุ่มนักลงทุนและนักท่องเที่ยวมาไทย

.

2.เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาแต่งงานกับคนไทย รวมถึงกลุ่มคนต่างชาติที่แต่งงานกับคนต่างชาติเข้ามาจดทะเบียนในไทยได้ ทำให้กลุ่มคู่รัก และธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตไปด้วย ทั้งธุรกิจบริการ อีเวนต์ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน

.

3.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และการทำประกันภัยต่างๆ เติบโตตามคู่รักกลุ่มนี้ เช่น การซื้อบ้าน ขั้นตอนในการขอสินเชื่อสะดวกมากขึ้น

.

ในต่างประเทศมีการสำรวจข้อมูลจากประเทศสหรัฐ ภายหลังที่เปิดให้ 50 รัฐ จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมได้แล้ว สร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจสูงถึง 4 แสนล้านบาทภายในปีเดียว ส่วนประเทศไทยต้องมีการประเมินอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่เชื่อว่าจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจมหาศาล

.

:: เมืองปลอดภัย ดึงทาเลนต์เข้ามาทำงาน ::

นายจีรวัฒน์ ตั้งบวรพิเชฐ ที่ปรึกษาอาวุโสทางด้านการสร้างแบรนด์องค์กรนายจ้าง บริษัท เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ จำกัด (WorkVenture) กล่าวว่า การประกาศสมรสเท่าเทียมของไทย แสดงถึงแบรนด์ประเทศไทยที่เป็น “พาราไดซ์” หมายถึงการเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วโลกที่ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทย จากนี้จะเป็นปัจจัยดึงดูดกลุ่มทาเลนต์เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น และมีศักยภาพที่จะก้าวสู่การเป็นทาเลนต์ฮับของภูมิภาค

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

‘HAAB’ ขายขนมไข่เดือนละ ‘3 ล้านชิ้น’ เปิดร้านมา 1 ปี เตรียมบุก ‘มาเลเซีย’ เป็นประเทศแรก

ชาตรี ศิษย์ยอดธงผู้ก่อตั้ง ONE Championshipนักธุรกิจกีฬาระดับหมื่นล้าน

เปิดที่มากว่าจะมาเป็น “รีเจนซี่” บรั่นดีไทย

Heineken 0.0 เบยร์ไม่มีแอลกอฮอลล์ แกกกฏโฆษณา และฉีกภาพเบียร์ในตำนาน

“เซ็น กรุ๊ป” สร้างจุดแข็ง - คุ้มค่า อัดแคมเปญรับเทศกาลดันยอดขาย