‘บีเจซี-บิ๊กซี’ ทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน เร่งโตปี 68 สู้กำลังซื้อฝืด


“บีเจซี-บิ๊กซี” กางแผนปี 68 เทงบ 1.6 หมื่นล้านบาท ลงทุนโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค บรรจุภัณฑ์ ค้าปลีก พร้อมปรับเป้าโตจาก โตต่ำถึงโตระดับกลาง เป็นโตระดับกลางถึงโตสูง
โดยเฉพาะ “บีเจซี” ปีนี้ขอเอาชนะความคาดหวัง มุ่งโต 10-14% ขยับยอดขายรวมทั้งกลุ่มบีเจซี บิ๊กซีที่ 2.7 แสนล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า
.
“บีเจซี-บิ๊กซี” ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค การผลิตบรรจุภัณฑ์ต่างๆ รวมถึง “ค้าปลีก” ถูกขับเคลื่อนโดย 2 แม่ทัพใหญ่ “ฐาปณี-อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” ที่ปี 2568 ยังคงเทงบลงทุนก้อนใหญ่ เพื่อสร้างการเติบโต
นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี เปิดเผยว่า ปี 2568 ทั้ง 2 ธุรกิจคือผลิตสินค้าจำเป็น และค้าปลีก ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นจะใช้เงินลงทุน 6,091 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการค้าปลีกทุกรูปแบบ(ฟอร์แมท)ทั้งใหญ่และเล็กรวม 207 สาขา ส่วนอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะใช้ขยายการลงทุนของบีเจซี
.
ทั้งนี้ ตามแผนบีเจซี จะมีการสร้างโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม หลังจากบริษัทมีการออกสินค้าและแบรนด์ใหม่ภายใต้ “พรอมิส” ซึ่งจะใช้งบราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างปีนี้ และซื้อเครื่องจักรมาติดตั้ง เพื่อให้เดินสายการผลิตในปี 2569
.
นอกจากนี้ งบบางส่วนจะใช้ลงทุนในรูเบีย อุตสาหกรรม ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ซึ่งปีนี้บริษัทให้ความสนในการผลิตขวดแก้วขนาดเล็ก รองรับความต้องการของลูกค้า และเทรนด์ผู้บริโภค รวมถึงสินค้าในกลุ่มของใช้ส่วนบุคคล ลูกค้าที่ต้องการออกสินค้าใหม่เพื่อทดลองตลาด โดยสั่งผลิตเพียง 5 หมื่นขวดก็สามารถตอบสนองได้ จากที่ผ่านมา บริษัทจะรับผลิตขั้นต่ำระดับ 5 แสนขวด
“งบลงทุนเราอยู่ระดับหมื่นล้านบาท แต่ใช้จริงอาจมีความล่าช้าบ้าง และดูว่าจะใช้จริงกับโรงงานไหนบ้าง แต่เบื้องต้นการลงทุนของบีเจซี จะมีทั้งโรงงานผลิตสินค้าจำเป็น โรงงานขวดแก้ว และสายการผลิตบรรจุภัณฑ์กระป๋อง”
.
:: ออกสินค้าใหม่ทุกไตรมาส ::
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคปี 2568 บริษัทจะออกสินค้าใหม่ทุกไตรมาส โฟกัสทั้งขนมขบเคี้ยว(สแน็ค), ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า, ของใช้ส่วนบุคคล(เพอร์ซันนอลแคร์) รวมถึงให้น้ำหนักเซ็กเมนต์พรีเมียม เนื่องจากช่วยเสริมแกร่งในด้านการทำกำไร
.
สำหรับสินค้าไฮไลต์คือการต่อยอดแบรนด์นกแก้วหรือ Parrot สู่ผลิตภัณฑ์ดูลผิวหน้า จากเดิมมีเพียงสบู่ก้อนสีเขียวเป็นเอกลักษณ์ จะออกแบรนด์ใหม่เอจิส ผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มเป้าหมายสูงวัย ซึ่งจะเห็นในไตรมาส 2 รวมถึงเซรั่มดูแลเส้นผม เป็นต้น
.
อย่างไรก็ตาม โจทย์ท้าทายปี 2568 ยังเป็นเรื่องต้นทุนการผลิตสินค้า แต่บริษัทยืนยันจะไม่ขึ้นราคา เพราะไม่ต้องการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด ขณะที่สินค้ากลุ่มขนมขบเคี้ยว ที่จะมีการเก็บภาษีความเค็ม บริษัทปรับสูตรเกือบทุกตัว ทั้งมันฝรั่ง ขนมขึ้นรูป ฯ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ โดยมีเพียงแบรนด์ปาร์ตี้ที่ยังปรับสูตรไม่ลงตัว ในปีที่ผ่านมา บริษัทยังมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน ประหยัดได้กว่า 672 ล้านบาท
“ตลาดวงกว้างถือเป็นตลาดหลักหรือ Core อยู่แล้ว มีการรับจ้างผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคให้ลูกค้าอื่นๆ แต่ตอนนี้เราอยากสร้างแบรนด์ และจะออกสินค้าใหม่ทุกไตรมาส ในทุกหมวดสินค้า ส่วนด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค เชื่อว่าสินค้าจำเป็น สุดท้ายผู้คนต้องซื้อและใช้ หากเราขายสินค้าได้ตรงความต้องการ และราคาเหมาะสม สินค้าเราจะยังขายได้”
.
:: ผนึกพันธมิตรมุ่งมีโรงงานเครื่องมือแพทย์ ::
นอกจากนี้ ยังมีโปรเจคเสริมแกร่งธุรกิจสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และเทคนิค ซึ่งบริษัทมองการต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีโรงงานผลิตสินค้าดังกล่าวอยู่แล้ว เพื่อเข้าไปลงทุน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณระดับพันล้านบาท
.
“เรากำลังทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโรงงานผลิตอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งมองทั้ง Existing เป็นพันธมิตร ไม่ได้ลงทุนใหม่ แต่คาดว่าจะใช้เงินหลักพันล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าจะมีการลงนามความร่วมมือดังกล่าว”
.
ล่าสุด บีเจซี เฮลท์แคร์ ยังเดินหน้าสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านเวชภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ด้วยการร่วมกับ DK Medical Systems ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้ จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีทางการแพทย์แห่งใหม่ภายใต้ “X-Cellence Training Center” พื้นที่ 200 ตารางเมตร(ตร.ม.) ที่อาคารบีเจซี 2 เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย
.
พร้อมกันนี้ ได้นำเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์รุ่นล่าสุด Elin T7 มาทำตลาดในประเทศไทยเป็นเครื่องแรก เพื่อเจาะตลาดระดับพรีเมียม หลังจากเครื่องดังกล่าวทำตลาดในประเทศเกาหลีไป 55 เครื่อง หลังจากเปิดตัวไป 2 ปี

“นโยบายของ DK Medical Systems ต้องการขยายตลาดสู่ภูมิภาคของเราคืออาเซียน และไทยมีความโดดเด่นด้านเมดิคัลฮับ ในภูมิภาค ขณะเดียวกันบีเจซี เฮลท์แคร์ นอกจากเป็นดิสริบิวเตอร์เครื่องมือแพทย์ ตอนนี้เรายังศึกษาการลงทุนโรงงาน เพราะเราอยากผลิตหรือโออีเอ็มเครื่องมือแพทย์แบรนด์ของตัวเอง จากปัจจุบันเราแกร่งทั้งด้านบริการหลังการขาย 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ บุคลากรทางการแพทย์รู้จักเราเป็นอย่างดี เป็นท็อปออฟมายด์ในบางหมวด เช่น เครื่องเอกซเรย์เต้านมเพื่อตรวจค้นหามะเร็งหรือเครื่องเมมโมเกรมเราเป็นผู้นำ”
.
สำหรับตลาดรวมการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทยมีมูลค่าระดับแสนล้านบาท โดยตลาดมีการเติบโตเฉลี่ย 5.5-7% ขณะที่บีเจซี เฮลท์แคร์สร้างการเติบโต 8% สูงกว่าตลาด
.
“ปี 2568 บีเจซี เฮลท์แคร์ ยังตั้งเป้าเติบโต 8% แต่ด้านสัดส่วนรายได้ของกลุ่มนี้ยังเล็กสุดในพอร์ตโฟลิโอของบริษัท”
.
:: ปรับเป้าเติบโต ::
เดิมแผนธุรกิจของกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มองอาณาจักรใน 5 ปีจะทำรายได้ทะยานสู่ 2.7 แสนล้านบาท แต่เป้าดังกล่าวจะขยับออกไปอีก 5 ปี ขณะที่ปี 2568 ปรับเป้าหมายรายได้โตแบบระดับกลางถึงสูง(Mid to high) จากปี 2567 เป้าเติบโตล่างถึงบน(Low to Mid)
.
ทั้งนี้ เฉพาะบีเจซี ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-14% ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกเดือนมกราคม 2568 เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีมาก
.
“เป้าระดับ 2.7 แสนล้านบาทเดิมที่จะเติบโต 11-17% ต่อปี เป็นเป้าที่พยายาม แต่ปกติเราก็จะโตกว่า 10% อยู่แล้ว หากมองถึง 5 ปีข้างหน้า อาจจะทำได้ ส่วนบีเจซี ปี 2568 เราตั้งเป้าโต 10-14% เป็นเป้าแบบ Mid to High เราต้องการเอาชนะความคาดหวัง”
.
อย่างไรก็ตาม ปี 2567 บีเจซี บิ๊กซี มีรายได้รวมกว่า 1.7 แสนล้านบาท เติบโต 1.7% และมีกำไรสุทธิ 4,001 ล้านบาท ลดลง 16.5% จากอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายภาษีที่สูงขึ้น

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต