4 ธุรกิจ ‘Food Delivery’ ในไทย ‘Grab’ ทำกำไรได้เพียงรายเดียว
การประกาศปิดตัวลงของ “foodpanda” เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ได้รับความสนใจอย่างมาก แม้ระยะหลังความเคลื่อนไหวของ “foodpanda” จะน้อยลง ทว่า นี่คือแพลตฟอร์มส่งอาหารที่เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นรายแรก ถัดจากนั้นไม่นานก็ถึงคิวของ “Grab” ฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติสิงคโปร์ และหลังจากนั้นเกมสงครามราคาท่ามกลางสมรภูมิส่งด่วนก็เกิดขึ้นต่อเนื่องนับสิบปี
.
ที่ผ่านมา มีแพลตฟอร์มเดลิเวอรีครอบคลุมทั้งธุรกิจขนส่งพัสดุรวมถึงธุรกิจส่งอาหารทยอยเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปหลายราย บางเจ้าเข้ามาเพียงไม่นานก็ตัดสินใจถอนทัพทันที เพราะนี่คือธุรกิจ “เกมยาว” ยากที่จะสร้าง “Loyalty” ระหว่างแพลตฟอร์มและลูกค้าได้จริง เจ้าไหนราคาดีกว่า คุ้มค่ากว่า ลูกค้าก็พร้อมจะเปลี่ยนใจเสมอ
.
สำหรับ “foodpanda” เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2555 แต่หลังจากนั้นเพียง 1 ปี “Grab” เริ่มบุกประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มจากธุรกิจ “Ride-hailing” หรือ “แอปฯ เรียกรถ” จากนั้นจึงขยับสู่บริการส่งอาหาร กระหน่ำแจกโค้ดส่งฟรี ลดราคาฉ่ำ แถมยังมีจำนวนไรเดอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้นอีก 2-3 ปีให้หลัง “LINE MAN” ก็กระโดดเข้าสู่สมรภูมิ กลายเป็นธุรกิจแข่งเดือด เชือดเฉือนผ่านสงครามราคายาวนานถึงปัจจุบัน
.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปิดตัวลงของ “foodpanda” ยอด ชินสุภัคกุล หัวเรือใหญ่แห่ง “LINE MAN Wongnai” ออกมาให้ความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากนี้สภาพตลาดฟู้ดเดลิเวอรีไทยจะเข้าสู่การแข่งขันแบบ “Duopoly” ชัดเจน มองว่า อาจเป็นจุดเปลี่ยนจากเกม “สงครามราคา” สู่ “สงครามคุณภาพ” โดยผู้เล่นที่เหลือจะสามารถจัดสมดุลระหว่างคุณภาพและบริการได้ดีขึ้น เปิดโอกาสในการทำกำไรอย่างยั่งยืน และมีทรัพยากรเพียงพอในการลงทุนพัฒนาบริการใหม่
.
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightForOpportunities #กรุงเทพธุรกิจBusiness
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้