ไอเดีย ‘กาแฟพันธุ์ไทย’เป็นอะไรก็ได้ สานเป้าขายโตแตะ 6,000 ล้าน
ไม่กี่ปีมานี้ “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” เติบโต “เท่าตัว” พลิกภาพขยายสาขาในปั๊มปีละ 50-60 สาขา สู่สปีดเปิด 500-600 สาขาต่อปี ปี 68 ลุยโมเดลแฟล็กชิป ก๋วยเตี๋ยวเรือเสิร์ฟลูกค้า
.
หากย้อนดู “รากฐาน” ของธุรกิจร้านกาแฟสัญชาติไทยแบรนด์ “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” นอกจากเกิดและเติบโจในสถานีบริการน้ำมันหรือปั๊มของอาณาจักรแม่แสนล้านบาทอย่าง “พีทีจี เอ็นเนอร์ยี” เมื่อพื้นฐานดีทั้งมีร้านค่อยๆเสิร์ฟเมนูให้ผู้บริโภค สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ผ่าน 1 ทศวรรษ “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” ได้เวลา “ก้าวกระโดด” สร้างการเติบโต ไม่เพียงแค่ขยายสาขาค่อยเป็นค่อยไป 50-60 สาขาต่อปี รายได้เติบโตทีละสเต็ป ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของการ “สปีด” เต็มสูบ
.
ปัจจุบันแบรนด์ไอเดียของพันธุ์ไทยคือการต่อยอดให้ “พันธุ์ไทยเป็นอะไรก็ได้” ผู้บริโภคจึงเห็น “โมเดลร้านใหม่” ที่หลากหลาย แต่ยังคงจุดแข็งหลักคือเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม(F&B : Food and Beverage) ให้กับกลุ่มเป้าหมาย
.
สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ฉายภาพว่า ปี 2568 ร้านกาแฟพันธุ์ไทยยังคงมุ่งมั่นสร้างยอดขายให้เติบโตก้าวกระโดดในอัตราเท่าตัว หรือที่ 5,800 ล้านบาท จากปีก่อนยอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท ทว่า ภายในยังมองการ “ปั๊มยอดขาย” ให้แตะระดับ 6,000 ล้านบาทด้วย
.
กลยุทธ์จะหนุนการเติบโต ยังเป็นการสปีดเปิดร้านใหม่ขั้นต่ำ 600 สาขา หรือเฉลี่ย 50 สาขาต่อเดือน จากปัจจุบันมี 1,580 สาขา บริษัทยังเดินหน้า “ปั้นโมเดลร้านรูปแบบใหม่” เพื่อตอบโจทย์คนรักกาแฟ โดยเฉพาะร้านเรือธงหรือแฟล็กชิปสโตร์เพิ่มที่นครชัยศรี 11 ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 200 ตารางเมตร(ตร.ม.)ขึ้นไป ภายในจะมีร้านกาแฟ และร้านรูปแบบไดรฟ์ทรูด้วย และจะเปิดแฟล็กชิปอีกร้านที่สำนักงานใหญ่พีทีจี เอ็นเนอร์ยี อวดโฉมเดือนสิงหาคม 2568
ทั้งนี้ ร้านกาแฟพันธุ์ไทยโมเดลปกติจะมีขนาด 30-40 ตร.ม. และลงทุนราว 2.5 ล้านบาทต่อสาขา แต่โมเดลแฟล็กชิปลงทุนมากขึ้น อีกโมเดลที่ซุ่มสร้าง เปิดตัวแบบเงียบๆคือ “ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย” ที่ทำเลย่านรังสิต พื้นที่ 100 ตร.ม. ขึ้นไป ใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาทต่อสาขา
.
การเลือกเปิดก๋วยเตี๋ยวคู่กาแฟ เพราะอาหารและเครื่องถือถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวหรือ combination กัน ทานอาหารเสร็จ ซื้อกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆดื่มตบท้าย
:: “โมเดลร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทยผลตอบรับดีมาก บริษัทมีแผนจะขยายอีก 5 สาขา” ::
ด้านทำเลของร้านกาแฟที่จะเปิด จากในปั๊มสู่นอกปั๊ม “พันธุ์ไทย” ให้น้ำหนักสถานที่ราชการ มหาวิทยาลัย ฯ ที่เข้าถึงผู้คนหมู่มาก ส่วน “เมนูเครื่องดื่ม” ยังคงพัฒนาต่อเนื่อง โดยเฉพาะซิกเนเจอร์ 4 รายการ เสิร์ฟลูกค้า เช่น กลุ่มขนมไทยของหวาน ส่วนผสมน้ำตาลโตนด เป็นต้น
.
ปัจจุบัน “พันธุ์ไทย” ยังถูกฐานแฟนสร้างกลุ่มลับหรือคอมมูนิตีบนโลกออนไลน์ในชื่อ “กาแฟพันธุ์ไทย แฟนคลับ-PunThai Coffee fanclub Thailand” มีสมาชิกร่วมก๊วนกว่า 5.6 แสนคน และผู้บริโภคยุคใหม่บนโลกออนไลน์ ยังรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มเอง ไปแชร์ผ่านโซเชียล เช่น เครื่องดื่มท็อปปิงด้วยบราวนี่ หรืออื่นๆ ซึ่งทำให้แบรนด์มีโอกาสต่อยอดไอเดียจากที่ทีมงานการตลาดไม่ได้ขบคิดทันฐานแฟน และกิจกรรมเหล่านั้นยังกวาดเอนเกจเมนต์เสริมแกร่งแบรนด์อีกมหาศาล รวมถึงการมีพรีเซ็นเตอร์สุดฮอตช่วงที่ผ่านมาคือ “พี่จอง-คัลเลน” ปลุกตลาดให้มีสีสันสร้างความคักคักและเติบโต
.
“พันธุ์ไทยเป็นอะไรก็ได้ เรามุ่งอยู่ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อย่างร้านก๋วยเตี๋ยวเราเริ่มขยายในกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อนว่าสู้คู่แข่งได้ไหม แล้วค่อยขยายเข้าห้างค้าปลีก”
.
ที่ขาดไม่ได้ยกให้ “บัตรแดง” หรือพีที แม็กซ์การ์ด พลัส(PT Max card plus) ที่ทรงพลัง มีส่วนลด 50% ซื้อเครื่องดื่ม 10 แก้วต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสมาชิกใช้สิทธิเฉลี่ย 8 แก้วต่อเดือน เป้าหมายต่อไปคือการผลักดันให้ใช้สิทธิเต็มแม็กซ์ 10 แก้วต่อเดือน ส่วนการสื่อสารตลาด สร้างแบรนด์ยังเดินหน้ารุกทุกช่องทาง รวมถึงการโฆษณา เสริมแกร่งแบรนด์เป็นที่รับรู้ รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น
.
ไตรมาส 1 กาแฟพันธุ์ไทยยังสร้างผลงานเด่น “เติบโตเท่าตัว” จากช่วงเดียวกันปีก่อน และโต 32.2% จากไตรมาส 4 โดยยอดขายร้านเดิม(same store) เติบโต 35% ส่วนแนวโน้มช่วง 6 เดือน บริษัทยังเชื่อมั่นในการเติบโตของธุรกิจร้านกาแฟ
“มองตลาดร้านกาฟ 6 เดือนที่เหลือ มั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ยอดขายปีก่อนของร้านพันธุ์อยู่ที่ 150 แก้วต่อสาขาต่อวัน ตอนนี้ขยับมาเป็น 200 แก้วต่อสาขาต่อวัน ปีนี้ภาพรวมเราคาดว่ายอดขายจะเติบโต และต้องทะลุเป้าหมาย 5,800 ล้านบาท ดีเอ็นเอเราต้องเติบโต ส่วนกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเท่าเดิม เพราะยอดขายเราสูงขึ้น ได้อีโคโนมีออฟสเกล ต้นทุนก็ดีขึ้น เพราะราคาเมล็ดกาแฟอ่อนตัวลงมาบ้าง แต่ภาพรวมต้นทุนยังสูงอยู่”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้