ดุสิตธานี ทรานฟอร์มสู่ ‘Unlock Value’ ดัน 4 กลุ่มโตแกร่ง – ปีแห่งเทิร์นอะราวด์

ศุภจี ซีอีโอหญิง นำทัพดุสิตธานี ในช่วง 9 ปี ทรานฟอร์ม เติบโตทุกมิติ โรงแรม-อาหาร-อสังหา-การศึกษา มองเป็นปีแห่งการปลดล็อค-เทิร์นอะราวด์-โตยั่งยืน พร้อมย้ำคณะกรรมการบริษัทไม่เคยมีความขัดแย้งภายใน

.

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมขับเคลื่อนองค์กรตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ 9 ปี (2559-2568) แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงเวลาละ 3 ปี ได้แก่ ช่วงที่ 1 ช่วงสร้างฐาน (2559-2561) ช่วงที่ 2 ช่วงขยายการเติบโต Take Off (2562-2565) และช่วงที่ 3 ช่วงเก็บเกี่ยวการเติบโต Unlock Value (2566-2568) ถือว่าในปัจจุบันปี 2568 เข้าสู่ช่วงที่ 3 เพื่อมุ่งการเติบโตอย่างยั่งยืน

.

สำหรับการบริหารงานในแต่ละช่วงแบ่งเป็น

ช่วงที่ 1 ช่วงสร้างฐาน (2559-2561) เป็นช่วง 3 ปีแรกของการเข้ามาบริหารงานกลุ่มดุสิตธานี ได้เป้าหมายโฟกัสที่การสร้างคน ทั้งวัฒนธรรมองค์กร ทัศนคติ การพัฒนาทักษะพนักงาน พัฒนากระบวนการทำงาน การเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยี สร้างศักยภาพของสินทรัพย์กลุ่มดุสิตธานี การยกระดับศักยภาพของแบรนด์ดุสิตธานีให้ตอบโจทย์ทุกเซกเมนต์ หรือเซกเมนต์ที่มีศักยภาพสูง รวมถึงเตรียมพร้อมด้านโครงสร้างการเงินเพื่อรองรับแผนระยะยาว เพื่อให้กลุ่มดุสิตธานีพร้อมนำเสน่ห์แบบไทยและความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไทยไปให้คนทั่วโลกได้รู้จัก

 .

ช่วงที่ 2 ช่วง Take Off (2562-2565) การเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ทั้งการขยายธุรกิจโรงแรม และขยายบริการที่หลากหลายรูปแบบ ขยายธุรกิจการศึกษา พร้อมขยายสู่ธุรกิจอาหาร ด้วยการจัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ตลอดจนขยายโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use) มีมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท แต่เป็นช่วงที่กลุ่มดุสิตธานี ต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ เน้นการสำรองเงิน เพื่อให้มีกระแสเงินสดที่เพียงพอ จึงต้องขายทรัพย์สินบางส่วนออกไปเพื่อปรับโมเดลทางการเงินใหม่ เพื่อรักษาองค์กรให้เดินต่อไปได้ และโครงการสำคัญยังเดินหน้าโดยไม่ลดทอนคุณภาพ

 .

ช่วงที่ 3 ช่วง Unlock Value (2566-2568) เป็นช่วงเก็บเกี่ยวการเติบโต จากการที่กลุ่มดุสิตธานีลงทุนไปก่อนหน้านี้ เพื่อสร้างผลประกอบการโตยั่งยืน ทั้งขยายโรงแรม จากที่เคยมีโรงแรม 27 แห่งใน 8 ประเทศ ปัจจุบัน ณ ไตรมาสแรกปี 2568 กลุ่มดุสิตธานีมีโรงแรมและวิลล่าภายใต้การบริหารจัดการรวม 294 แห่ง จำนวนห้องพักรวม 12,909 ห้อง ใน 18 ประเทศ เป็นโรงแรม 55 แห่งและวิลล่าหรู 239 แห่ง ส่วนในปี 2568 จะรับรู้รายได้จากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เต็มปี หลังจากเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2567

.

 :: บอร์ดไม่มีปัญหาขัดแย้งภายใน พร้อมได้รับความไว้วางใจจากทายาททั้ง 3 ร่วมบริหารงานต่อ ::

.

สำหรับกรณีเรื่องความขัดแย้งภายใน และเกิดปัญหาไม่โหวตงบการเงินของบริษัทในช่วงที่ผ่านมานั้น โดยขอยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 9 ปีคณะกรรมการบริษัทได้ร่วมเห็นชอบแผนในการดำเนินงานมาตลอด และไม่มีความขัดแย้งในคณะกรรมการบริษัท แต่ในการที่ประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่นั้น อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างได้

.

อีกทั้งจากการได้พูดคุยกับทีมผู้ถือหุ้นและทายาททั้ง 3 ของดุสิตธานี ต่างระบุว่าให้ตนเองทำหน้าที่บริหารงานร่วมขับเคลื่อนองค์กรในระยะต่อไป

.

ทั้งนี้ บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้งในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เพื่อร่วมพิจารณาวาระหลักคือ การคัดเลือกคณะกรรมการบริษัทที่มีอยู่ 8 คน ที่จะพิจารณาตำแหน่งต่างๆ ให้ครบตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดไว้ ขณะเดียวกันอาจมีการพิจารณาจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ที่ต้องกำหนดวันจัดการประชุม เพื่อขอรับรองงบการเงินในปี 2567

.

อย่างไรก็ตามยุทธศาสตร์ในระยะต่อไปขององค์กรนั้น จะต้องมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริษัท เพื่อสรุปแผนร่วมกันอีกครั้ง

:: คาดรายได้หลักในปี 68 กลับมาแตะระดับ 9,000 ล้านบาท ::

สำหรับภาพรวมรายได้รวมในปีนี้ 2568 คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจหลัก 9,000 ล้านบาท แต่ไม่รวมรายได้ รายการพิเศษ จากการส่งมอบงานโครงสร้างพื้นที่อาคารค้าปลีก ของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Bareshell) โดยภาพรวมรายได้ขยายตัว 20-25% จากปีก่อน ในแต่ละกลุ่มธุรกิจวางเป้าหมายการเติบโตดังนี้ โรงแรม ขยายตัว 20-25% การศึกษา ขยายตัว 10-12% อาหาร ขยายตัว 10-15% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขยายตัว 100% จึงส่งผลให้บริษัทสามารถพลิกกลับมาสร้างผลประกอบการที่มีกำไรอีกครั้ง (เทิร์นอะราวด์) จากปีก่อนหน้านี้มีผลกำไรขาดทุน

.

ทางด้านสัดส่วนรายได้มาจาก โรงแรม 66-67% ธุรกิจอาหาร 18% กลุ่มธุรกิจการศึกษา 5% และอสังหาริมทรัพย์ 7% จากที่ผ่านมา รายได้หลัก จากโรงแรม คิดเป็นสัดส่วน 90% ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

‘เนื้อแท้’ ยก ‘เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์-เซเว่นอีเลฟเว่น’ ประตูบานใหญ่ เสิร์ฟสินค้าเจาะตลาดแมส

‘HAAB’ ขายขนมไข่เดือนละ ‘3 ล้านชิ้น’ เปิดร้านมา 1 ปี เตรียมบุก ‘มาเลเซีย’ เป็นประเทศแรก

ไก่ทอดฮ็อทสตาร์ ผนึกเป๊ปซี่ รุก GEN Z

‘CHAGO’ ชานมแบรนด์ใหม่ จากอาณาจักร ‘รวยไม่หยุด’ ดึง ‘ออม-กรณ์นภัส’ นั่งหุ้นส่วนด้วย

EMILY’S หมี่ไก่ฉีก มีลุ้นแตะ ‘500 ล้าน’ ขายได้เดือนละ 1 ล้านกล่อง เตรียมบุกต่างประเทศด้วย