‘เบทเตอร์เวย์’ ควัก 200 ล้าน ปั้น ‘FRIDAY FAIR’ เสริมแกร่งอีคอมเมิร์ซ

‘เบทเตอร์เวย์’ ทรานส์ฟอร์มใหญ่ 36 ปี ปั้น ‘FRIDAY FAIR’ เสริมแกร่งอีคอมเมิร์ซ ‘เครือสหพัฒน์’ เล็ง 3 เฟส ลูกค้าดาวน์โหลดทะลุล้าน ขายสินค้า 7 หมื่นรายการ ชูคอมมิชชันต่ำสุด
.
เมื่อโลกชอปปิงออนไลน์-อีคอมเมิร์ซ ทรงพลัง ทำให้ยักษ์ใหญ่ธุรกิจต้องขยับตัว รุกตลาดรับการเปลี่ยนแปลง และดึงดูดนักช้อป
“เบทเตอร์เวย์” เจ้าของแบรนด์ “มิสทิน” สินค้าความงาม(บิวตี้) สัญชาติไทยที่เครือสหพัฒน์ถือหุ้นกว่า 60% ครอบครัว “ดีโรจนวงศ์” ถือหุ้น 33% ที่เหลือเป็นพนักงานในเครือถือหุ้น 7% ได้เดินหน้าทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งใหญ่รอบ 36 ปี เปิดประตูการค้าสู่โลก ผ่านอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ
.
ดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ “มิสทิน” เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ “FRIDAY FAIR” ให้แข็งแกร่งภายใน 2 ปี ชูคอนเซปต์ “สุข สนุก คุ้มค่า” เพื่อต่อยอดธุรกิจ การจำหน่ายสินค้าในเครือสหพัฒน์ สร้างการเติบโตสู่เวทีการค้าระดับโลก
ทั้งนี้ การสร้างแพลตฟอร์ม “FRIDAY FAIR” จะแบ่งเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเป็นการพัฒนาระบบดิจิทัล ประมวลข้อมูล(ดาต้า)ต่างๆ รองรับการชอปปิงออนไลน์ ซึ่งต้องทำวันต่อวัน เพื่อให้ถูกใจกลุ่มร้านค้า ลูกค้าภายใน 3 เดือน 
.
จากนั้นเฟส 2 จะเป็นการสร้างส่วนแบ่งตลาดให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมชูจุดเด่นคิดค่าคอมมิชชัน 6% ต่ำสุดในตลาด เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการร้านค้า จากปัจจุบันแพลตฟอร์มอื่นซึ่งเติบโตและธุรกิจอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวรายได้ จึงมีการโฆษณา ค่าธรรมเนียมใช้แพลตฟอร์มต่างๆ สูงสุด 20%
.
ขณะที่เฟส 3 จะพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีเอ็นเทอร์เทนเมนต์ เพื่อสร้างสีสัน และทำให้ลูกค้าขาช้อปใช้เวลากับ FRIDAY FAIR ให้นานสุด ตามคอนเซปต์ สุข คือการได้เห็นและซื้อสินค้าคุณภาพดี สนุกเมื่อมาจับจ่ายชอปปิง ได้เรียนรู้โปรแกรมการทำอาหาร แฟชันการแต่งกาย จากสินค้าในเครือ รวมถึงคอนเทนต์ ไลฟ์คอมเมิร์ซจาก BIGXSHOW และคุ้มค่าด้วยการซื้อสินค้าคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้
.
“บทบาท FRIDAY FAIR เป็นการทรานส์ฟอร์มธุรกิจที่มีมาช้านานของมิสทิน ที่มีเราแคตตาล็อก FRIDAY มา 36 ปี ไปสู่อีคอมเมิร์ซ เพื่อตอบโจทย์การตลาดในเครือ และเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงเป็นช่องทางศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อสินค้า และเราปวารณาเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซคนไทย เพื่อคนไทย”
สำหรับการจำหน่ายสินค้าตามแผน 3 ปี จะมีไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นรายการ(เอสเคยู) จากเฟส 1 จะนำร่องสินค้า 3,000 รายการ และเป็นสินค้าในเครือสหพัฒน์ 90% และไม่ปิดกั้นสินค้านอกเครือ
.
ส่วนเป้าหมายททางธุรกิจขั้นต้น ต้องการให้มีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 5 หมื่นดาวน์โหลด เพิ่มเป็น 1 แสนดาวน์โหลดในเฟส 2 และแตะ “หลักล้าน” ในเฟส 3 ขณะที่ฐานสมาชิกแคตตาล็อก FRIDAY มีกว่า 2.6 แสนราย และยอดใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 350-400 บาทต่อบิล แต่การมี FRIDAY FAIR จะทำให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้น เนื่องจากจะมีการทำตลาด “ซีนเนอร์ยี” กับสินค้าในเครือ จัดโปรโมชัน เพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น จากซื้อสินค้าความงามมิสทิน ไปซื้อชุดชั้นในวาโก้ เสื้อผ้าแฟชัน เป็นต้น
.
“อนาคตลูกค้าจะชอปปิงมากขึ้น หากมีการซื้อชุดชั้นใน เสื้อผ้า สินค้าแฟชัน ส่วนแบรนด์สามารถทำตลาดเจาะเส้นทางการช้อปหรือ journey ลูกค้าได้”
.
การซีนเนอร์ยีใหญ่คือการ “มัดรวม”(Bundle) หลังบ้านในส่วนของห่วงโซ่การผลิต(ซัพพลายเชน) ทั้งการซื้อวัตถุดิบที่อนาคตอาจ “รวมกัน”(Pool) เพื่อสร้างอำนาจต่อรองดีขึ้น จากที่มีอยู่แล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า ฯให้ดีขึ้น จากเดิมต่างบริษัทต่างทำ มาใช้สิ่งอำนวยความสะดวก แจกจ่ายให้กันได้ เช่น เบทเตอร์เวย์แลนด์ ดิสทริบิวชัน ซึ่งให้บริการด้านฟูลฟิลเมนท์หรือจัดการคำสั่งซื้อสินค้าครบวงจร จากรับสินค้าเข้าคลัง การจัดเก็บ การแพ็คสินค้า จัดส่งถึงมือลูกค้า 17 แห่ง สหพัฒน์มีหลักร้อยแห่ง และของไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น ฯ การผสานพลังจะช่วยบริหารต้นทุนดีขึ้น เพิ่มศักยภาพแข่งขันของธุรกิจ
.
“ในเครือยังไม่เคย pool ข้อมูลรวมกัน ว่าใช้วัตถุดิบ เช่น เม็ดพลาสติกกี่ตันต่อปี ต่างคนต่างซื้อ อนาคต FRIDAY FAIR อาจเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ Pool ทุกสินค้าเข้ามาในระบบ เป็นดาต้า เพื่อรู้ข้อมูลการส่งสินค้าแต่ละตัวกี่กรัม แหล่งผลิตต้นทางจากไหน การจัดส่งสินค้าต่างคนต่างทำ อาจแจกจ่ายหรือ alocate หรือใช้สิ่งอำนวยความสะดวกหรือ facilities ร่วมกันได้”
.
อย่างไรก็ตาม มิติของการ “ทำกำไร” บริษัทยังไม่มอง เพราะระยะเริ่มต้น อยู่ในช่วงของการสร้างฐานลูกค้าหรือทราฟฟิก และมีคู่ค้า แต่ระยะยาว บริษัทมองโอกาสขยายตลาดสินค้าไทยเพื่อเปิดประตูสู่ตลาดโลกด้วย ส่วนการลงทุน ตั้งต้นจากเบทเตอร์เวย์ อนาคตจะเปิดกว้างให้เฉพาะ “บริษัทในเครือสหพัฒน์” เข้ามาลงทุน
.
“เป็นการทรานส์ฟอร์มใหญ่รอบ 36 ปี และโรดแมปคือการปั้น FRIDAY FAIR ให้เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกลางของเครือสหพัฒน์ เพื่อขยายตลาดสินค้าไทยสู่ต่างประเทศ ซึ่งมองว่าถึงเวลาที่ต้องรวมใจสร้างธุรกิจ สร้างชาติ ให้เรามีศักยภาพแข่งขันได้”

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

‘บี ปรินทร์’ ซีอีโอ แพลน บี ธุรกิจโตเพราะสู้-อดทน กับเบื้องหลัง #TruthFromThailand

ฝ่าอาถรรพ์ทำเลปราบเซียน ‘ทศพล’ คืนชีพแดนเนรมิต สู่ไนท์มาร์เก็ต สร้างสูตรโตแบบใหม่

เปิดรายได้ ‘6 ยักษ์กาแฟเมืองไทย’ ปี 2567 โกยฉ่ำสูงสุดทะลุหมื่นล้าน!

‘White Story’ จะเป็น ‘ข้าวกล่องพันล้าน’ ? โตจากร้านขนมปังชานเมือง สู่ 100 สาขาภายในปีนี้

เมกาบางนา อัปเกรดสไมล์ รีวอร์ดส เปิดตัวฟีเจอร์ SELF-VERIFICATION