คนไทย 34% จ่อก่อหนี้ครัวเรือนเรื้อรัง! พิษเงินฝืดทุบซ้ำ ‘เที่ยวในประเทศ’ โลว์ซีซัน

ตลาด “ไทยเที่ยวไทย” ช่วงโลว์ซีซันกลางปี 2568 ยังมีปัจจัยน่ากังวล! หลังเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดและปัญหาหนี้ครัวเรือนเรื้อรัง สะท้อนชัดจาก “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาส 2/2568” โดย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สำรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีรายได้มากกว่า 10,000 บาท 450 คนทั่วประเทศ

.

ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ระบุว่า การใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างจังหวัด ของคนไทยไตรมาส 2/2568 เฉลี่ย 4,976 บาท/คน/ทริป เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะมีช่วงวันหยุดยาวมากกว่า และเป็นช่วงปิดภาคการศึกษา โดย 60% ของผู้ที่เดินทางไปต่างจังหวัด เป็นการเดินทาง “ข้ามภูมิภาค” ส่วน 62% เดินทางไปยังจังหวัดในภาคเดียวกันกับภูมิลำเนาและมีการพักค้างคืน ขณะที่ 87% เน้นเดินทางเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยว ทั้งนี้นักท่องเที่ยวไทยนิยมพักโรงแรม 47% พักรีสอร์ต 43% พักบ้านญาติหรือพี่น้อง 64% เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว 85% และมีการเดินทางด้วยเครื่องบิน 12%

.

“ทั้งนี้คนไทยมีแนวโน้มเดินทางไปต่างจังหวัดในไตรมาส 3/2568 ประมาณ 31% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดในรอบ 4 ปี! นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา จากปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืด คนไทยขาดกำลังซื้อ หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง จำนวนคนไม่มีงานทำมีจำนวนมากขึ้น ประชาชนจึงชะลอการเดินทาง”

.

โดย 61% ของประชาชนที่วางแผนเดินทางไปต่างจังหวัด จะเป็นการเดินทางข้ามภูมิภาค ส่วนใหญ่เดินทางไปภาคเหนือและกรุงเทพฯ มีการวางแผนการเดินทางไปยังจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันกับภูมิลำเนาและมีการพักค้างคืน 69% ส่วน 80% ของผู้เดินทางจะเดินทางในเดือน ส.ค. ช่วงวันแม่แห่งชาติ

.

“อย่างไรก็ตาม คนไทย 12% มีแผนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงจากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่นิยมเที่ยวในเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเวียดนาม”

.

สำหรับ “ดัชนีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว” ในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ระดับ 139 สะท้อนการประเมินการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวของคนไทยทั่วประเทศว่ามีมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมากกว่าไตรมาส 1/2568 ส่วนคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 126 แม้จะมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่น้อยกว่าไตรมาส 2/2568 อย่างมาก

.

อีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ “ดัชนีหนี้ครัวเรือน” ในไตรมาส 2/2568 พบว่าอยู่ที่ 118 มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมากกว่าไตรมาส 1/2568 เนื่องจากอยู่ในช่วงเปิดภาคเรียน ต้องจ่ายค่าเทอม ซื้อชุดนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน จึงอาจมีการก่อหนี้เพิ่มขึ้น

.

ด้านคาดการณ์หนี้ครัวเรือนในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 112 สะท้อนว่าคนไทยทั่วประเทศจะมีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ลดลงกว่าไตรมาส 2/2568 เพราะหมดช่วงเปิดภาคเรียน ขณะที่สินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง จะออกผลผลิตจำนวนมากในเดือน พ.ค.-ส.ค. ทำให้ไตรมาส 3 ประชาชนมีเงินใช้หนี้มากกว่าไตรมาสที่ผ่านมา

.

และเมื่อสำรวจ “สถานการณ์หนี้ครัวเรือน” ในไตรมาส 2/2568 เพิ่มเติม พบว่า 64% มีหนี้สิน โดยแต่ละคนจะมีหนี้สินราว 31% ของรายได้ ประชาชนที่มีหนี้สินส่วนใหญ่ มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท โดยมีหนี้สิน 32% ของรายได้

.

อาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีสัดส่วนหนี้สินสูงกว่าอาชีพอื่นๆ ประมาณ 36% ของรายได้ รองลงมาเป็นอาชีพเกษตรกร มีสัดส่วนหนี้สิน 34% ของรายได้ อาชีพรับจ้างทั่วไป มีสัดส่วนหนี้สิน 32% ของรายได้ เมื่อพิจารณาสัดส่วนของหนี้สินเมื่อเทียบกับรายได้ต่อเดือน พบว่า อาชีพเกษตรกรและอาชีพรับจ้างทั่วไปจะได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนมากกว่าอาชีพอื่นๆ เนื่องจากมีรายได้น้อยและรายได้ไม่แน่นอน

.

“นอกจากนี้พบว่าคนไทย 34% คาดว่าจะมีภาระหนี้ต่อเดือนเพิ่มขึ้นในปี 2568 และมีเพียง 10% ที่คาดว่าภาระหนี้ต่อเดือนจะลดลง ขณะที่ 56% คาดว่ามีภาระหนี้ต่อเดือนเท่าเดิม”