เปิดฮาวทู ‘ท่องเที่ยวไทย’ คัมแบ็กปี 69 ‘ยุทธศักดิ์’ แนะสูตรแกร่ง-อบอุ่น-เร้าใจกว่าเดิม!



เมื่อพัฒนาการของตลาด “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ชะลอตัวในปี 2568 หลัง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) คาดการณ์ว่าตลอดปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยราว 33 ล้านคน จากประมาณการเดิม 37 ล้านคน โดยเป็นการลดลงจากกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short-haul) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเป็นสำคัญ สร้างรายได้ 1.51 ล้านล้านบาท ลดลง 5% เทียบกับปี 2567 ขณะที่ตลาดในประเทศ คาดมีจำนวน 204.57 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2% สร้างรายได้ 1.15 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%
.
ส่วนใน ปี 2569 ททท. ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศ 1.63 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 34.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% ขณะที่ตลาดในประเทศมีจำนวน 210.43 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 3% สร้างรายได้ 1.16 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%
.
ยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวในฐานะอดีตผู้ว่าการ ททท. ว่า “Thailand’s Grand Comeback” เป็นแนวทางการฟื้นฟูภาคท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นเครื่องยนต์สำคัญ ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวเหมือนในช่วงที่ผ่านมา มุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง บนแนวคิด “Stronger, Warmer, More Amazing ท่องเที่ยวไทยแกร่งขึ้น อบอุ่นกว่าเก่า เร้าใจกว่าเดิม”
.
:: Stronger แกร่งขึ้น เจาะกลุ่ม Quality Mass ::
ในมุม “Stronger แกร่งขึ้น” ด้วยต้นทุนการบริโภคในไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น ค่าที่พัก และค่าอาหาร เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาในฐานะจุดหมายปลายทางที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงของไทยลดลง จากข้อมูลดัชนี Travel & Tourism Development (TTDI) ปี 2567 พบว่าดัชนีการแข่งขันด้านราคาของไทยอยู่อันดับ 48 ของโลก ลดลงจากการสำรวจก่อนหน้า 3 อันดับและเป็นอันดับรองสุดท้ายของกลุ่มอาเซียนในการแข่งขันด้านราคา ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยถูกกว่าสิงคโปร์แค่ประเทศเดียว ดังนั้นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการทำการตลาดใหม่ หันไปเน้น “ความคุ้มค่า” เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันในฐานะจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่า
.
นอกจากนี้ ต้องเพิ่มการทำตลาดกับนักท่องเที่ยวกลุ่ม “Quality Mass” เช่น กลุ่มไมซ์ (MICE : การประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพในระยะสั้น ขณะเดียวกันต้องเร่งส่งเสริมการขาย นำเข้า “กลุ่มนักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูง” (Big Spender) เช่น กลุ่มท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Health and Wellness) และกลุ่มท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (Bleisure) นอกจากนี้ ให้เร่งสื่อสารการตลาดกับทั้งกลุ่มเดินทางซ้ำ (Re-visit) ให้กลับมาฟื้นความทรงจำ และกลุ่มเดินทางครั้งแรก (First Visit) ให้มาสร้างประสบการณ์ที่จะกลายเป็นความทรงจำสุดประทับใจ รวมถึงกลุ่มผู้ที่มีหนังสือเดินทางครั้งแรก (First Time Passport Holder)
.
ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น “สายการบิน” มุ่งเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยให้อัตราฟื้นตัวกลับมาเพิ่มขึ้น หากสามารถเพิ่มทั้งจำนวนเที่ยวบินและจำนวนที่นั่งให้กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ ก็จะไม่ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินสูงเกินไป เพราะถ้าราคาตั๋วเครื่องบินสูง อาจทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจไม่เดินทางมาไทย แล้วเลือกไปที่อื่นที่มีต้นทุนในการเดินทางต่ำกว่า ดังนั้นต้องเร่งเปิดเส้นทางบินทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยมีความพร้อมของเที่ยวบินและจำนวนที่นั่งมากเพียงพอที่ไม่ส่งผลกระทบด้านราคาตั๋วเครื่องบิน
.
:: Warmer อบอุ่นกว่าเก่า สมเกียรติ “ประเทศแห่งรอยยิ้ม” ::
“Warmer อบอุ่นกว่าเก่า” ต้องเปลี่ยนแปลงสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รับรู้และยอมรับในฐานะ “ประเทศแห่งรอยยิ้มของคุณภาพและความปลอดภัย” เน้นสร้างเชื่อมั่นในระบบการรักษาความปลอดภัย โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการยกระดับปัจจัยด้านความมั่นคงปลอดภัย (Safety and Security) โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในตำรวจท้องที่ และการเดินคนเดียวอย่างปลอดภัยในยามวิกาล สร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย ปัญหาอาชญากรรมต่อทรัพย์สินส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยว อุบัติเหตุ ตลอดจนปัญหาการเอารัดเอาเปรียบและหลอกลวงนักท่องเที่ยว และด้านคุณภาพการบริการ (แท็กซี่)
.
:: More Amazing เร้าใจกว่าเดิม เติมความสนุก ::
“More Amazing เร้าใจกว่าเดิม” สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวบนความรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น หรือมีความสุขที่ได้เดินทางท่องเที่ยวด้วย “ความสนุก” โดยมุ่งกระตุ้นความเชื่อมั่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกลับมาเที่ยวไทยด้วยมุมมองใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง พร้อมสร้างการจดจำภาพลักษณ์ใหม่ของไทยในสายตาของคนทั้งโลก ประเทศไทยต้องถูกจดจำในฐานะจุดหมายปลายทางที่ “สนุก” ที่เกิดจากประสบการณ์เดินทางผ่านวัฒนธรรม อาหาร วิถีชีวิต และธรรมชาติ และเป็น “Amazing Thailand” บนพื้นฐานของความสนุกและปลอดภัย
.
:: จับตามาตรการรัฐกระตุ้น “ไทยเที่ยวไทย” ::
สำหรับตลาด “ไทยเที่ยวไทย” มีแนวโน้มใช้จ่ายปรับตัวลดลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศและภาวะหนี้ครัวเรือน ดังนั้นการคาดหวังที่จะให้นักท่องเที่ยวชาวไทยมาช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้การท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศนับเป็นเรื่องท้าทาย
อย่างไรก็ดี หากเน้นการตลาดเพิ่มความถี่การท่องเที่ยวในประเทศ ช่วยลดต้นทุนการเดินทาง มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวระยะใกล้ภายในภูมิภาคมากกว่าการเที่ยวข้ามภาคที่มีต้นทุนในการเดินทางสูงกว่า และใช้ “เมืองรอง” เป็นสนามแม่เหล็กดึงดูดและกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ด้วยการสร้างกิจกรรมใหม่ๆ เป็นจุดขายใหม่กระตุ้นให้คนไทยเปลี่ยนมาเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น แทนการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ประกอบกับโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าก็อาจทำให้ตลาดไทยเที่ยวไทยช่วยสร้างรายได้ในภาพรวมของประเทศ บรรลุเป้าหมายการสร้างรายได้ที่วางไว้
.
:: Quick Win สร้างภาพลักษณ์ใหม่ เที่ยวไทยสนุก-ปลอดภัย ::
ยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ “Quick Win” ด้านการท่องเที่ยว ภายใต้ Thailand’s Grand Comeback เร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว วางรากฐานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง เป็น Quick Win เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ เที่ยวไทยสนุกและปลอดภัย ประเทศไทยใส่ใจคุณภาพนักท่องเที่ยว นำเสนอประเทศไทยในมิติใหม่ ประเทศที่ไม่เพียงแต่เป็นมิตร ยิ้มแย้ม และต้อนรับอบอุ่นเท่านั้น แต่ยังมีมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ความปลอดภัยที่เชื่อมั่นและตรวจสอบได้ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่คุ้มค่ากับทุกการเดินทาง
.
“Sanook Siam – Unseen Pure Local” เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและชนบท ผ่านการกำหนด Value Prepositions ใหม่ สร้างจุดขายใหม่ที่สะท้อน “เสน่ห์แท้จากถิ่นไทย” “ความสนุกแบบไทย” และ “เปิดมุมมองใหม่” (Unseen) ให้ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติได้สัมผัสความงดงาม วิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้อย่างแท้จริง เน้นให้เกิดประสบการณ์เชิงลึกและสร้างรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
.
ด้าน “HOPE – Wellness Journeys to Thailand” สร้างกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูงให้เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Health and Wellness ทั้งนี้จากข้อมูลของ Global Wellness Institute มูลค่าของ “เศรษฐกิจสุขภาพ” (Wellness Economy) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากตลาด 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 เป็นตลาด 7 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2568
.
ในขณะที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในปัจจุบันคิดเป็น 4.36 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของยอดรวมนี้ แต่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์การเติบโตเกือบ 20% ต่อปี โดยตลาดการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพคาดว่าจะเป็นอุตสาหกรรมมูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นีเวีย เปิดผลวิจัยระดับโลกชี้ ‘ความเหงา’ ภัยเงียบยุคใหม่ ชวนคนไทยช่วยกันดูแลใจ ภายใต้โครงการ NIVEA CONNECT

Reality Show เมืองไทย จะไปไกลทั่วโลก

”เอส“ เดินเกมส์ลุยปี 69 ส่งน้ำสีเรืองแสงเอาใจเจนซ่า

EMILY’S หมี่ไก่ฉีก มีลุ้นแตะ ‘500 ล้าน’ ขายได้เดือนละ 1 ล้านกล่อง เตรียมบุกต่างประเทศด้วย

3 แม่ทัพ ‘FAB’ อวดโฉมใหม่ ‘Santa Fe’ ปั้นแฟล็กชิปร้านแรกใจกลางสยามช0