‘ไทย’ หมุดหมายกองถ่ายคอนเทนต์โลก ผู้ประกอบการอ้อนสิทธิประโยชน์เพิ่ม

แม้ไทยขึ้นแท่นประเทศยอดฮิตที่กองถ่ายทำคอนเทนต์ หนัง ซีรีส์ โฆษณา ยกกองมาปักหลักถ่ายทำ MPA เน็ตฟลิกซ์ลงทุน ดีสนีย์ พลัส ตบเท้าลงทุนมหาศาล แต่ผู้ประกอบการไทยยังขาดเงินทุน และสิทธิประโยชน์ที่ต้องการ

.

สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา-สำนักงานเอเชียแปซิฟิก (Motion Picture Association – Asia Pacific) จัดงาน “Thailand’s Success Stories” เปิดเวทีให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยและระดับโลก เจ้าของแพลตฟอร์มสตรีมมิง มาแชร์มุมมอง รวมถึงข้อเรียกร้องถึงภาครัฐ ในการผลักดันไทย ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางของกองถ่ายภาพยนตร์ ซีรีส์ โฆษณา ฯ จากทั่วทุกมุมโลก สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ

.

สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา-สำนักงานเอเชียแปซิฟิก (Motion Picture Association – Asia Pacific) จัดงาน “Thailand’s Success Stories” เปิดเวทีให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยและระดับโลก เจ้าของแพลตฟอร์มสตรีมมิง มาแชร์มุมมอง รวมถึงข้อเรียกร้องถึงภาครัฐ ในการผลักดันไทย ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางของกองถ่ายภาพยนตร์ ซีรีส์ โฆษณา ฯ จากทั่วทุกมุมโลก สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ

.

หากมองความสำเร็จของ K-Content หรือคอนเทนต์จากประเทศเกาหลีใต้ผ่านกระแส Hallyu ที่เนื้อหาซีรีส์ หนัง เรียลลิตี ฯ ผงาดในตลาดโลก ยิ่งกว่านั้นการสนับสนุนจากภาครัฐ กลายเป็น “กรณีศึกษา” ให้นานาประเทศเจริญรอยตามได้

.

ปี 2564 อุตสาหกรรมคอนเทนต์เกาหลีใต้สร้างมูลค่าส่งออก 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 4.21 แสนล้านบาท ภายในปี 2570 ยังตั้งเป้าส่งออกคอนเทนต์แตะ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 8.5 แสนล้านบาท

.

มองกลับมาประเทศไทย ผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยและต่างประเทศ เห็นพ้องถึงศักยภาพการเติบโต แต่อีกด้านก็มีอุปสรรค

.

เออร์มิลา เวนูโกปาลัน ประธานและกรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สมาคมภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา(MPA) ฉายภาพว่า ประเทศไทยมีชื่อเสียงในการเป็นหมุดหมายและสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หรือหนัง รวมถึงซีรีส์ โฆษณา ฯ ระดับโลก โดยปีที่ผ่านมาคอนเทนต์กว่า 353 เรื่องถ่ายทำในไทย และคาดการณ์ปี 2568 จะทะลุ 500 เรื่อง

.

ขณะที่มูลค่าการลงทุนของสมาชิก MPA ที่ยกกองมาถ่ายทำหนัง ซีรีส์ในไทยตั้งแต่ปี 2565-2567 มีมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.3 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการกระตุ้นและสร้างมูลค่าเศรษฐกิจไทยได้อย่างดี ทว่า การที่อุตสาหกรรมคอนเทนต์จะเติบโตอย่างยังยื่น “แค่เงินทุนอย่างเดียวไม่พอ” แต่ต้องมีการเพิ่มทักษะ ขีดความสามารถของคน มีสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ รวมถึงกฎหมายที่เอื้อ การต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ ฯ จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และการท่องเที่ยวไทยได้มากขึ้น

.

แชงการี กิรุปปาลินี ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า เน็ตฟลิกซ์มีหลักการทำงานเดียวกันทั้งโลกไม่ว่าจะไทยหรือในสหรัฐกับงานความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้คอนเทนต์ท้องถิ่นประเทศนั้นๆ ได้เชื่อมกับคนดูทั่วโลก

.

เน็ตฟลิกซ์ เข้าดำเนินธุรกิจในไทยเกือบ 10 ปี มีการลงทุนในนักสร้างคอนเทนต์ในประเทศหรือโลคัล ครีเอเตอร์ระหว่างปี 2564-2567 มูลค่าราว 200 ล้านดอลลาร์ เกิดการจ้างงาน 1.3 หมื่นคน และสร้างเศรษฐกิจมหาศาล ไม่เพียงตอนถ่ายทำหนัง ซีรีส์ แต่หลังจบ ยังมีกิจกรรมต่อยอดด้วย เช่น ซีรีส์ “สืบสันดาน” เมื่อสถานที่ถ่ายทำมีการจัดแพ็คเกจใช้ชีวิตแบบเศรษฐีตามรอยซีรีส์ เป็นต้น

.

นอกจากนี้ คอนเทนต์จากไทย ถูกนำเสนอสู่สายตาคนดูบนเน็ตฟลิกซ์กว่า 750 ล้านชั่วโมง เช่น สาธุ สงครามส่งด่วน

.

ทว่า ในการผลักดันอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยก้าวไปข้างหน้า แนะภาครัฐให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ส่งเสริมการผลิตคอนเทนต์ในประเทศด้วยการให้สิทธิประโยชน์กองถ่ายไทย นอกเหนือกองถ่ายจากต่างประเทศ 2.กฎหมายการจัดเรทรับชมคอนเทนต์ และ3.เพิ่มขีดความสามารถของคนรับการไหลเข้ามาของกองถ่ายจากต่างประเทศ

.

วรรณฤดี พงษ์สิทธิ์ศักดิ์ โปรดิวเซอร์ ภาพยนตร์หลานม่า และ ซีรีส์สงครามส่งด่วน กล่าวว่า จีดีเอช สร้างหนังมา 20 ปี เดิมโฟกัสหนังไทยเป็นหลัก แต่ปัจจุบันต้องการก้าวไปสู่ระดดับโลกมากขึ้น จึงมีการทำงานร่วมกับ “เน็ตฟลิกซ์” เก็บเกี่ยวองค์ความรู้ระดับโลก รวมถึงได้งบประมาณสนับสนุน เช่น ซีรีส์สงครามส่งด่วน ใช้เงินทุนร้อยล้านบาท หากเป็นคอนเทนต์ไทยสเกลจะใหญ่มาก แต่ระดับโลกถือว่าเล็ก

.

ทั้งนี้ อุปสรรคใหญ่ของการสร้างคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก คือ “เงินทุน” จึงต้องการให้ “ภาครัฐ” ทำงานร่วมกับเอกชน และหาแนวทางสนับสนุนมากยิ่งขึ้น

.

“10 ปีแรกเราไม่เก่ง ไม่โทษเรื่องงบลงทุน เพราะคิดบทไม่เก่งจริงๆ พอเราคิดเก่ง ติดปัญหาคืองบ สิ่งนี้พิสูจน์หลายครั้ง เช่น ไปถ่ายฉลากเกมส์โกงที่ออสเตรเลีย มีทุนอยู่ได้ 2-3 วันเท่านั้น ถ่ายทำ ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ทีมงานเก่งมาก แต่ค่าตัวแพงกว่าไทย 5 เท่า”

.

ค็อด สตรูแสยง ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ทีซิกส์ตี้ซิกส์ สตูดิโอ กล่าวว่า หากต้องการให้อุตสาหกรรมคอนเทนต์เติบโตกว่านี้ ต้องเลิกพึ่งเงินอุดหนุนจากรัฐ ผู้ผลิตต้องเปลี่ยนมุมมอง ให้ผลิตผลงานไปสู่ระดับสากล ต้องการเห็นทิศทางอุตสาหกรรมเป็นแบบนี้ เพราะโลกอาจมีอุปสรรคการค้า เช่น ทรัมป์ออกนโยบายตั้งกำแพงภาษี ห้ามถ่ายภาพยนตร์นอกสหรัฐ เป็นต้น