Pricing War...เล่นได้แต่อย่านาน ไม่เช่นนั้น หายนะจะมาเยีอนธุรกิจคุณ


แบรนด์ตลาดสุกี้หมอร้อนในบ้านเรา เมื่อก่อนครองตลาดแบบรายเดียว คือ เอ็มเค สุกี้ เพราะรายอื่นแทบยากที่จะต่อลองได้
.
ศึกหม้อร้อนเริ่มรุนแรงและมีเค้าน้ำร้อนเดือด เมื่อสุกี้ตี๋น้อยโดนซื้อโดยเจ้าพ่อด้านไฟแนนเชียลอย่างค่ายเจ มาร์ท และสงครามหม้อร้อนก็เกิดขึ้น
.
สุกี้ตี๋น้อย บุกตลาดแบบที่เอ็มเคคาดไม่ถึง โดยใช้สูตรแบบร้านหมูกะทะ เก็บเป็นรายหัว ทานไม่อั้นจ่ายรายหัวครั้งเดียว หมากเกมนี้ ทำเอาเอ็มเคสุกี้ นั่งหาว เพราะถูกดึงลูกค้าไปมาก
.
ศึกครั้งใหม่ เปิดฉากขึ้นในเดือนมิถุนายน 2568  โดย "เอ็มเค" เปิดตัวโปรฯ บุฟเฟต์ 299 บาท มาแข่งขันกับ "สุกี้ตี๋น้อย" ที่ครองตลาดแมสมาตั้งแต่เปิดตัว แม้ยอดขายทั้ง 2 แบรนด์เพิ่มขึ้น แต่ "กำไร" ลดลง คือขายดี แต่ความชิปหายกำลังจะมาเยียน
.
บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป หรือ M Group สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 มีรายได้จากการขายและบริการรวม 3,884  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากการทำโปรโมชั่นบุฟเฟต์ราคา 299 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า 
.
นอกจากนี้เดือนกันยายน 2568 ได้ปรับเพิ่มเมนูบุฟเฟต์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมในเดือนกันยายนเติบโต 120% 
.
ไตรมาส 3 ปีนี้ "เอ็มเค" มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายและบริการ 63.9% ลดลงจากปีก่อนที่ 67.8% สาเหตุหลักเป็นผลมาจากการจัดทำโปรโมชั่นบุฟเฟต์ 
.
โดยไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท ลดลง 33.7%   
.
ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2568 
- รายได้ 11,218 ล้านบาท ลดลง 4.4%  
- กำไรขั้นต้น 7,309 ล้านบาท ลดลง 7.8%  
- สัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายและบริการ 65.1% ลดลงจากปีก่อนที่ 67.5% จากการจัดโปรโมชั่นบุฟเฟต์ที่เริ่มในเดือนมิถุนายน 2568
- กำไรสุทธิ 735 ล้านบาท ลดลง 32.4%  เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน 
.
โดยยอดขายสาขาเดิมลดลง 4.1% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวกละกำลังซื้อผู้บริโภคอ่อนตัวลง  อีกทั้งช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568  ยังไม่ได้มีการจัดทำโปรโมชั่นบุฟเฟต์ ส่งผลให้ช่วงเวลาดังกล่าวยอดขายลดลงค่อนข้างมาก  
.
โครงสร้างรายได้ "เอ็ม กรุ๊ป" มาจากร้านสุกี้เอ็มเค  72%   ยาโยอิ 18% แหลมเจริญ 8%  และอื่นๆ 4%  
.
#ปี68สุกี้ตี๋น้อยกำไรลดลง
.
บริษัทบีเอ็นเอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร “สุกี้ตี๋น้อย” (Suki Teenoi) ที่ก่อตั้งโดย คุณเฟิร์น นัทธมน พิศาลกิจวนิช สรุป 9 เดือน ปี 2568 “ตี๋น้อย” มีกำไรสุทธิ 803 ล้านบาท ลดลง 9.77% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 890 ล้านบาท
.
หากเปรียบเทียบ "กำไร" รายไตรมาสของ "สุกี้ตี๋น้อย" ปี 2567 และ ปี 2568 พบว่ามีแนวโน้ม "ลดลง" ดังนี้   
.
ปี 2567
- ไตรมาส 1 กำไร 277 ล้านบาท 
- ไตรมาส 2 กำไร 333 ล้านบาท
- ไตรมาส 3 กำไร 280 ล้านบาท 
- ไตรมาส 4 กำไร 279 ล้านบาท 
.
ปี 2568 
- ไตรมาส 1 กำไร 271 ล้านบาท  ลดลง 2.1%
- ไตรมาส 2 กำไร 311 ล้านบาท  ลดลง 6.7%  
- ไตรมาส 3 กำไร 221 ล้านบาท  ลดลง 21%
.
จบไตรมาส 3 ปีนี้ สุกี้ตี๋น้อย มีสาขาทั้งหมด 86 สาขา มี ตี๋น้อย บาร์บีคิว (บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง) 7 สาขา และ ตี๋น้อย โกลด์ (บุฟเฟ่ต์พรีเมียม) 1 สาขา รวมทั้งหมด 96 สาขา
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เฟซบุ๊คเพจ “สุกี้ตี๋น้อย” ได้โพสต์ข้อความ ฉลองยอดขาย 8,000 ล้านบาท 
.
คุณเฟิร์น-นัทธมน ได้กล่าวไว้ว่า ปี 2568 คาดว่ารายได้ 9,000 ล้านบาท และปี 2569 รายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท โดยวางแผนเปิดสาขาใหม่สัปดาห์ละ 1 สาขา
.
บอกแล้วไง Pricing War...เล่นได้แต่อย่านาน ไม่เช่นนั้น หายนะจะมาเยีอนธุรกิจคุณ
.
#เอ็มเคสุกี้ #สุกี้ตี๋น้อย #MK #Teenoi #สุกี้ #BrandBuffet

ความคิดเห็น

บทความที่มีคนอ่านมากที่สุด

นิรมน คนหน้าเย็น โฆษณาใหม่จาก แอร์ เอเชีย ใช้แอร์โฮสเตสจริง มาร้องเพลงโฆษณา

คะแนน ฟีฟ่า แร้งกิ้ง ของ ทีมชาติไทย จะอยู่ที่อันดับ 99 ของโลก

‘ปัญญ์ปุริ’ สานเป้าหมายแบรนด์โลก ลุยต่างประเทศ ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 50 สาขา

‘ลุฟท์ฮันซ่า’ นำเครื่องบินใหญ่สุดของโลก แอร์บัส A380 คัมแบ็กให้บริการในไทย

“ศุภาลัย”ชูมิกซ์โปรดักส์ชิงดีมานด์แนวราบปักหมุดใจกลางเมืองภูเก็ต