ธุรกิจร้านอาหาร เผชิญกำลังซื้อหด ยอดขายลด 30% ชี้ ‘อร่อยอย่างเดียวอาจไม่พอ’
นายธนพงศ์ วงศ์ชินศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนกวินเอ็กซ์ จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจร้านอาหาร “เพนกวิน อีท ชาบู” (Penguin Eat Shabu) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ต่างได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยในประเทศ ทั้งภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ โดยจากการสอบถามผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ในทั่วประเทศหลายราย มียอดขายลดลงไปเฉลี่ยประมาณ 30% หรือขึ้นอยู่กับแบรนด์และการบริหาร
ขณะเดียวกันตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 จึงเห็นผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ต่างทยอยปิดตัวไป โดยเฉลี่ยในแต่ละปีผู้ประกอบการร้านอาหารในประเทศจะมีการปิดตัวไปกว่าแสนรายทุกปีอยู่แล้ว
สำหรับการเข้ามาสู่ธุรกิจร้านอาหารของผู้ประกอบการ มีจำนวนเพิ่มขึ้นภายหลังการเกิดโควิด
นอกจากตลาดในประเทศที่แข่งขันมากขึ้น อีกปัจจัยที่ต้องจับตาคือ การมีแบรนด์ใหม่จากต่างประเทศเข้ามาเปิดในประเทศไทยมากขึ้น โดยทิศทางของตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป จึงหมดยุคที่ผู้ประกอบการร้านอาหารมุ่งมาแข่งขันกันเองแล้ว ควรปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกัน
“การทำธุรกิจในปีนี้ไม่ง่าย ต้องประเมินตลาดว่าลูกค้ามีความต้องการด้านใด เราต้องไปตรงนั้น ที่ลูกค้ายอมใช้จ่ายเงิน สิ่งสำคัญต้องมีทักษะการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ต้องมีพาร์ทเนอร์ พร้อมเปลี่ยนคู่แข่งไปสู่คู่ค้า”
ทั้งหมดจึงนำไปสู่การร่วมมือจัดทำกิจกรรมที่เรียกว่า “ลงแขกกินข้าว” โดยเป็นกิจกรรมที่นำผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศมาพบปะกัน จัดขึ้นในทุกสองสัปดาห์และเวียนไปจัดในพื้นที่ทุกภูมิภาค เพื่อผลักดันการร่วมมือสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการร้านอาหารในประเทศไทยให้แข็งแกร่งมากที่สุด
“เราพูดได้ว่า ธุรกิจร้านอาหารไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้แล้ว ไม่ใช่พื้นที่ของมือสมัครเล่นอีกต่อไป การมุ่งคำว่า อร่อยอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ผู้ประกอบการต้องเข้าใจหลักการตลาดและการบริหารธุรกิจ เพื่อผลักดันทำให้ร้านขยายตัวได้ต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตาม กิจกรรม “ลงแขกกินข้าว” ได้จัดต่อเนื่องมาสองปี โดยมีเครือข่ายรวมกว่า 6,000 แบรนด์ในทั่วประเทศ สำหรับในปีนี้มีแผนจัดกิจกรรมไปใน 21 จังหวัดทั่วประเทศ
“เราทำกิจกรรมลงแขกกินข้าว ผมทำหน้าที่เป็น คอนเนคเตอร์ เชื่อมโยงผู้ประกอบการร้านทั่วประเทศ และไม่ได้มีแนวคิดจัดตั้งเป็นสมาคมฯ แต่อยากเชื่อมโยงผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ ให้รู้จักกันและหันมาร่วมมือเครือข่ายให้แข็งแกร่งมากขึ้น”
สำหรับแผนธุรกิจของร้านอาหาร “เพนกวิน อีท ชาบู” (Penguin Eat Shabu) ในปี 2567 ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม จากในปัจจุบันมีอยู่ 6 สาขา แต่มีแผนการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ ให้เพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยมากขึ้น สอดรับกับตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ที่ผ่านมาได้ร่วมจัดอีเว้นท์ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหาร ทั้งงาน Restech2024 และงานวัยรุ่นตั้งตัว 2024 ทั้งนี้ประเมินจากแผนที่วางไว้ จะทำให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทในปี 2567 ขยายตัวได้ในระดับสองหลัก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้