ช่อง 3 ขยายไลน์ธุรกิจหนัง ผนึกเอ็ม สตูดิโอ ลุย ‘ธี่หยด ภาคสอง’ รับปีทองหนังไทย
ส่องภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 2567 มีการประเมินจาก สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT กับตลาดรวมมีมูลค่าประมาณ 1.14 แสนล้านบาท คาดว่าจะขยายตัว 2.6% ตามจีดีพีของประเทศไทย
ส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปีก่อน มีมูลค่าประมาณ 1.11 แสนล้านบาท ตลาดมีการขยายตัวประมาณ 1.6% และเป็นครั้งแรกที่อุตสาหกรรมทีวี มีสัดส่วนรายได้น้อยกว่า 50% ของการเม็ดเงินโฆษณาทั้งหมด จากแนวโน้มรายได้จากสื่อทีวีที่หดตัวลง ทำให้การขยายพอร์ตโฟลิโอใหม่ในธุรกิจจึงมีความสำคัญมากขึ้น
ช่อง 3 ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอไปสู่การรุกอุตสาหกรรมหนังไทย แม้ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ในการเข้ามาทำธุรกิจนี้ จากที่ผ่านมาช่อง 3 ได้ร่วมผลิตหนังมาหลายเรื่องแล้วเช่นกัน แต่ในปีก่อนมีไฮไลต์ครั้งสำคัญกับการร่วมมือกับ เอ็ม สตูดิโอ (M Studio) ภายใต้กลุ่มเมเจอร์ฯ ร่วมสร้างภาพยนตร์ “ธี่หยด” กลายเป็นเรือธง ประสบความสำเร็จ ด้วยยอดรายได้สูงถึง 500 ล้านบาท พร้อมสร้างหลายสถิติใหม่ในอุตสาหกรรมหนังไทย
“เทรซี แอนน์ มาลีนนท์” ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่ม บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด ฉายภาพ การรุกธุรกิจครั้งสำคัญของช่อง 3 สู่อุตสาหกรรมหนังในปี 2567 ได้ร่วมผนึกกำลังความร่วมมือกับ เอ็ม สตูดิโอ (M Studio) สร้างโปรเจกต์หนังฟอร์มยักษ์ โดยวางแผนจะร่วมผลิต 2 เรื่องในปีนี้ รองรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่กำลังเติบโตดี
สำหรับการขยายไปสู่ความร่วมมือครั้งใหม่ในปีนี้ จะเป็นการเข้ามาร่วมเสริมพอร์ตโฟลิโอ จากรายได้ของหนังและลิขสิทธิ์จากคอนเทนต์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งประเมินว่าจะหกลายเป็นพอร์ตธุรกิจที่มีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต โดยภาพรวมรายได้ในช่วงผ่านมามีการขยายตัวดีเช่นกัน
เดินหน้าส่ง 2 เรื่องใหม่ขยายธุรกิจ - ต่อยอดสู่ลิขสิทธิ์
ทั้งนี้ การร่วมมือกับ M Studio มีแผนร่วมมือผลิต 2 เรื่องได้แก่ มานะแมน นำแสดงโดย ณภัทร เสียงสมบุญ, โอ๊ต ปราโมทย์ และ จ๊ะ นงผณี ส่วนเรื่องต่อมา ธี่หยด 2 กำกับและผลิตโดยทีมงานจากภาคแรก พร้อมมี ณเดชน์ คูกิมิยะ มาร่วมแสดงนำเช่นเดิม มีกำหนดเข้าฉายในช่วงปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกับ เอ็ม สตูดิโอ เป็นการต่อยอดกับความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา กับภาพยนตร์เรื่องธี่หยด ด้วยยอดรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท และมีการนำไปฉายในต่างประเทศรวมกว่า 20 ประเทศ ทั้งกัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ และ ไต้หวัน สามารถสร้างรายได้รวมกันกว่า 100 ล้านบาทแล้ว
รวมถึงมีแผนนำไปเข้าแฟลตฟอร์มวีดีโอ สตรีมมิง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ช่อง 3 ได้นำคอนเทนต์ไปต่อยอดสู่ แฟลตฟอร์ม วีดีโอ สตรีมมิง หลากหลายแห่ง จึงช่วยเสริมพอร์ตรายได้จากลิขสิทธิ์ให้เติบโต
“ช่อง 3 มุ่งในการเป็นผู้ผลิตและผู้นำใน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ แพลตฟอร์ม พร้อมเน้นกลยุทธ์ Single Content Multiple Platform ที่นำคอนเทนต์นำไปในหลายแพลตฟอร์ม”
เอ็ม สตูดิโอ ชี้ปีทองหนังไทย รายได้แซงฮอลลีวู้ดครั้งแรกในประวัติศาสตร์
“สุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็ม สตูดิโอ (M Studio) ฉายภาพอุตสาหรรมหนังไทยว่า ได้เข้าช่วงปีทองของหนังไทยแล้ว จากยอดผู้เข้าชมหนังไทยในอุตสาหกรรม ที่สามารถครองรายได้ในสัดส่วน 55% และหนังฮอลลีวู้ด สัดส่วน 45% ซึ่งมีภาพยนตร์ไทย ทำรายได้ 3 เรื่องในไตรมาสสุดท้ายมากกว่า 1,000 ล้านบาท และคิดเป็นจำนวนบัตรชมภาพยนตร์กว่า 10 ล้านใบแล้ว
สำหรับ ธี่หยด เป็นความร่วมมือในการผลิตระหว่าง เอ็ม สตูดิโอ และ ช่อง 3 ได้สร้างสถิติใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมภายนตร์ไทย ทั้งสถิติการเปิดตัวสูงสุด 39 ล้านบาทในหนึ่งวัน และเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสร้างรายได้สู่ 100 ล้านบาทได้เร็วที่สุด
“การร่วมมือกับช่อง 3 จะอยู่ในรูปแบบกิจการร่วมค้า ตามชื่อหนังของแต่ละเรื่อง ที่ร่วมมือกัน พร้อมมีการลงทุนในสัดส่วน 50% และ 50%”
เปิดสถิติหนังไทยไตรมาสสุดท้าย สร้างนิวไฮสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 หนังไทย 3 เรื่องที่สร้างรายได้สูงสุดรวมกันกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวนบัตรชมภาพยนตร์มากกว่า 10 ล้านใบ อันดับแรกคือ
* สัปเหร่อ สร้างรายได้กว่า 700 ล้านบาท จำนวนตั๋วหนังกว่า 6 ล้านใบ
* ธี่หยด สร้างรายได้กว่า 500 ล้านบาท จำนวนตั๋วหนังกว่า 4 ล้านใบ
* 4Kings สร้างรายได้กว่า 200 ล้านบาท จำนวนตั๋วหนังกว่า 2 ล้านใบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้