ก็ของมันต้องมี! คนไทยยังช้อปกระจาย ดันมูลค่าอีคอมเมิร์ซพุ่ง 5.96 ล้านล้าน
ผลสำรวจ Value of e-Commerce Survey in Thailand 2023 ปี 2565 พบว่ามูลค่าอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 5.43 ล้านล้านบาท โดยกลุ่ม B2C ครองแชมป์กินสัดส่วนมากสุด ส่วนช่องทางการขายยอดฮิตหนีไม่พ้น e-Marketplaces และ Social Commerce ส่งผลให้ปี 2566 มูลค่าพุ่งถึง 5.96 ล้านล้านบาท
.
ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ETDA เปิดเผยว่า รายงานผลการสำรวจ หรือ Value of e-Commerce Survey in Thailand จัดทำขึ้น เพื่อให้ประเทศมีข้อมูลสะท้อนสถานภาพและทิศทางการพัฒนาอีคอมเมิร์ซของประเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ที่นำไปเป็นฐานข้อมูลประกอบการวางแผนธุรกิจ กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงเพื่อให้ภาครัฐ นำไปเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาทิศทางการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ
.
ทั้งนี้ การสำรวจมูลค่าอีคอมเมิร์ซจากกลุ่มตัวอย่างของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซทั่วประเทศ ได้สำรวจจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต, อุตสาหกรรมการค้าปลีกและการค้าส่ง, อุตสาหกรรมการขนส่ง, อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก, อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร, อุตสาหกรรมการประกันภัย, อุตสาหกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และอุตสาหกรรมการบริการด้านอื่นๆ กว่า 3,440 ราย
.
โดยเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนตุลาคม–ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่า จากข้อมูลในปี 2565 ประเทศไทยมีมูลค่าอีคอมเมิร์ซ อยู่ที่ 5.43 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ปี 2564 ที่มีมูลค่า 5.17 ล้านล้านบาท ถึง 5.05% ประกอบด้วยสัดส่วนมูลค่าอีคอมเมิร์ซแบบ B2C มากที่สุด คิดเป็น 51.7% รองลงมาคือ B2B 37.8% และ B2G 10.5%
.
เมื่อพิจารณามูลค่าอีคอมเมิร์ซรวมจำแนกรายอุตสาหกรรม พบว่า อุตสาหกรรมการค้าปลีกและค้าส่ง ยังคงครองแชมป์มีมูลรวมมากที่สุด อยู่ที่ 2.83 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย อุตสาหกรรมการค้าปลีก 1.53 ล้านล้านบาท และ อุตสาหกรรมการค้าส่ง 1.30 ล้านล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมการผลิต 6.99 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมการขนส่ง 5.52 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมการให้บริการที่พักและอาหาร 4.28 แสนล้านบาท และ อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร 2.99 แสนล้านบาท
.
.
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้