คุณาลัยผุดโครงการไฮเอนด์หนีรีเจกต์เรตพุ่ง 50%ลูกค้าซื้อเงินสด
‘คุณาลัย’ผุดโครงการไฮเอนด์หนีรีเจกต์เรตพุ่ง ระบุ 50%ลูกค้าซื้อเงินสด นำร่องโครงการนาวาร่า ทำเลรังสิต-คลอง2 มูลค่ากว่า6,700ล้าน ระดับราคาหลังละ 5-10 ล้านคาดใช้เวลาพัฒนาและขาย12ปี
ประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปี 2567 ยังเผชิญกับปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน (Rejection Rate )ในกลุ่มระดับต่ำกว่า 3 ล้านบาท ผู้ประกอบการอสังหาฯจึงหันไปพัฒนาโครงการระดับราคา5- 10ล้านบาทมากขึ้นหนึ่งในนั้น คือ วิลล่า คุณาลัย ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “นาวาร่า รังสิต-คลอง2” มีมูลค่าโครงการกว่า 6,700 ล้านบาท โดยจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 8 เฟส เฟสละ119 ยูนิต
“ในเฟสแรกจะเป็นแปลงด้านหน้ามีเพียง 64 แปลงเท่านั้น ซึ่งได้เปิดพรีเซลไปเมื่อเดือนเม.ย.2567 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาดที่ดินตั้งแต่ 64-90 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 4.59-10 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 34 ยูนิตโอนกรรมสิทธิ์แล้ว 12 ยูนิต และเดือนส.ค.นี้ จะโอนอีก15 ยูนิต ซึ่งสัดส่วนประมาณ 50% ลูกค้าจะซื้อด้วยเงินสด คาดว่าทั้งโครงการจะใช้ระยะเวลาในการขายและพัฒนา 12 ปี”
ประวีรัตน์ กล่าวว่าการพัฒนาโครงการของเราอาจจะแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ด้วยความที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการก่อนวิกฤติ 2540 หลายโครงการใช้วิธีการซื้อโครงการเก่าที่มีศักยภาพมาพัฒนาใหม่ ซึ่งทำให้ได้เรียนรู้ว่าการพัฒนาโครงการนั้นเป็นสิ่งที่ยากแล้ว แต่การที่จะมุ่งมั่นและรักษาสิ่งสำคัญนั้นยากกว่า และใช้อุปสรรคเหล่านั้นเป็นแรงบันดาลใจในการหาที่ดินหรือโครงการที่มีศักยภาพ
โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโตจากตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)ไปสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีรายได้1,000 ล้านบาทต่อปี และสร้างผลกำไรสุทธิ 12-15% โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” ทำเลชานเมืองใกล้ชิดธรรมชาติ ระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป หลังจากก่อนหน้านี้ประสบปัญหายอดการปฏิเสธสินเชื่อสูง 40-50% จากการพัฒนาโครงการบ้านในระดับราคา 2-5 บ้านบาท ย่านบางบัวทอง คิดเป็นสัดส่วน 60% ของพอร์ต
อย่างไรก็ตามหลังจากบริษัทพัฒนาโครงการเพิ่มครบ 4 มุมเมืองตามแผนจะทำให้ในปี 2567 บริษัทจะมีสินค้าระดับราคา 2-5 ล้านบาท ในสัดส่วน 40% สินค้าระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป 60% ภายใต้แบรนด์ “นาวาร่า” และมีสัดส่วนโครงการบ้านนอกพื้นที่นนทบุรี 40% เพื่อสร้างผลกำไรมากขึ้นแทนที่ไปแข่งขันราคากับคู่แข่งในตลาดในระดับราคาต่ำว่า 3ล้านบาท
ขณะนี้บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการในการทํางานแบบไปป์ไลน์ (Pipeline)จำนวน 9 โครงการ มูลค่า 14,000 ล้านบาทที่สามารถพัฒนาได้ 10 ปีนับจากนี้ และปัจจุบันมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการไปจนถึงปี 2570 โดยขณะนี้มีที่ดินย่านบางบัวทอง1 แปลง ขนาด 38 ไร่ และที่อำเภอบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา 4 ไร่ หากต้องการพัฒนาสามารถซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงเพิ่มได้อีก ซึ่งต้องรอจังหวะและโอกาส เพราะปัจจุบันที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวยังมียอด การปฏิเสธสินเชื่อสูง สำหรับในปี 2567 วางเป้ารายได้เติบโต 10-15% หรือมีรายได้1,000 ล้านบาท และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการ ทำเลบางบัวทองในช่วงปลายปี 2567
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นต่อบทความนี้