บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2021

5 จุดซื้อสินค้าของคนไทยยุคโมบายเฟิร์ส ใครรู้...โคตรรวย

รูปภาพ
ใกล้สิ้นปีทีไร หลายคนเงี่ยหูฟัง ว่าปีหน้าทิศทางการตลาดจะไปทางไหน จะทำธุรกิจแบบไหน ยังไง ถึงจะรวย ผมเองไม่ใช่กูรู แต่ขอสถาปนาตัวเองเป็น “กูรู้” คือ ตูว่าตูพอรู้ แต่ถูกผิดอีกเรื่อง 555 สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ผมมั่นใจว่ามัน “สตรอง” มาก “5 จุดซื้อสินค้า ของคนไทยยุคโมบายเฟิร์ส ใครรู้...โคตรรวย” จัดไปครับ 1.ซื้อแล้วแชะ โชว์ โชว์ ได้ ดูดี มีรสนิยม เนี่ยะ! อันนี้สำคัญสุด กระแสโซเชียลยังแรง และสตรองมาก คนซื้อสินค้าวันนี้ ถ้าคุณไม่หลอกตัวเอง ต้องบอกว่าส่วนหนึ่งของการตัดสินใจซื้อ คือซื้อมาแล้วมันแชะ แชร์ โชว์ได้ ฉิบหายไม่ว่า หน้าตาต้องมาก่อน ใครจับจุดซื้อนี้ได้..รวย 2.ซื้อแล้วดูฉลาด ดูทันสมัย ไม่โง่ บอกแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ไหนๆ จะโชว์ทั้งที แต่โดนด่าว่าโง่ ว่าควาย มีเงิน แต่ไม่มีสมองก็ไม่ไหว ปีหน้ากระแสซื้อแล้วดูฉลาด ดูใช้เงินเป็นมาแน่ ไม่ต้องแพงสุดโต่ง แต่ดูคุ้มค่าฉลาดเลือกสุดๆ ใครจับจุดซื้อนี้ได้...รวย 3.ซื้อด้วยอารมณ์ โดยปราศจากเหตุผล ปีหน้า อะไรที่ซื้อขายบนมือถือ จะซื้อง่ายขายคล่อง ยิ่งเทคโนโลยี ระบบชำระเงินมันง่ายและเร็ว อารมณ์มันจะมาครอบงำการตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้น ช้อปได้

Outsource ทางเลือกฉลาดๆ ของคนทำธุรกิจ

รูปภาพ
ยอมรับกันมาซะดีๆ ว่าเศรษฐกิจปีนี้เรี่ยดินมาก ใครเอาตัวรอดได้ เติบโตได้ ผมปรบมือให้ และขอคาราวะจากใจ “คุณสตองมาก” แล้วปีหน้าจะเป็นยังไง หลายคนปรอบใจว่ามันจะดีขึ้น แต่ดูแนวโน้มแล้ว ผมว่ายาก ยิ่งรายเล็ก บอกเลยเหนื่อย เศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อไม่มี แถมโลกก็เปลี่ยน การตลาดเดิมๆ ก็ใช้ไม่ได้ผล สุดท้ายจบที่เงินหมุนเวียน แล้วถ้าจะเอาตัวรอดหล่ะ จะทำไง บอกเลยนี่คือคาถา ที่คุณต้องท่องให้ขึ้นใจ Outsource, Outsource, Outsource นั่นแหล่ะคือทางออก ที่ผมแนะนำ มันหมดยุคแล้วครับ ที่ทำธุรกิจจะต้องมานั่งจ้างพนักงานเยอะ ต้องมีครบทุกฝ่าย ทุกแผนก ก็บอกแล้วยุคนี้โลกมันเปลี่ยน คนสมัยนี้ผันตัวไปเป็นฟรีแลนซ์ หรือตั้งบริษัทเล็กๆ เน้นงานที่ตัวเองถนัดเพียบ นี่แหล่ะ คือ ทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณ มันจะดีกว่าป่ะ ที่จะจ้างใครสักคนหรือกลุ่มเล็กๆ ที่เค้าทำงานเร็วกว่า ดีกว่า เชียวชาญกว่า และที่สำคัญ สร้างรายได้มากกว่าเราทำในช่วงเวลาจำกัด มาช่วยเราทำธุรกิจ มาช่วยเป็นคู่คิด เป็นพาร๋ตเนอร์ แล้วไม่ต้องจ้างเป็นพนักงานประจำ ต่างคน ต่างพึ่งพาผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่รอด เวลามันมีค่า โอกาสมันมีมาไม่บ่อย ท

Youtuber and TEDtalks ตัวจริงเสียงจริง ของ Personal Branding 2020

รูปภาพ
ผมบอกเสมอๆ ว่ายุคนี้สมัยนี้ การสร้างแบรนด์ที่เวิร์คที่สุด ดีที่สุด เร็วที่สุด ได้ผลมากที่สุด แต่ใช้งบต่ำที่สุด คือการสร้าง Personal Branding และยิ่งกระแส 4G+โมบายเฟิร์ส มาแรงแบบนี้ ยิ่งส่งผลดีและง่ายต่อการสร้าง Personal Branding มากๆ เรียกว่า ถ้าคุณเจ๋งจริง เก่งจริง สามารถดังข้ามคืน เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนได้ในคลิปเดียว เฮ่ย! นี่เรื่องจริงไม่ใช่ล้อเล่น Content ยังสำคัญ แต่สิ่งสำคัญมากกว่าคือการนำเสนอ ปีที่ผ่านมา ใครเขียนเก่ง เขียนเป็น จะได้เปรียบ จะโดดเด่น จะโด่งดัง จะเป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงมากกว่าคนอื่น แต่ปีนี้ไม่ใช่แล้วครับ ใครยังมามัวเขียนอย่างเดียว บอกเลย ยังเวิร์ค แต่อาจช้าไปสักนิด ยุค 4G เร็วปรู๊ด ต้องนี้ครับ อัดคลิปลงยูทูป ถ้า Content คุณโดน บอกเลยคุณดัง ข้อดีของคลิป หรือวีดีโอ คือเป็นทั้งภาพและเสียง มันคือสุดยอดและที่สุดของการนำเสนอตัวเองแล้วครับ ทักษะการพูด จะสำคัญมากกว่าทักษะการเขียน ใครพูดเป็น พูดเก่ง พูดได้น่าสนใจ คนๆ นั้นจะจได้เปรียบ จะโดดเด่น จะโด่งดัง เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงมากกว่าคนอื่น แล้วถามว่าพูดยังไง นี่เลยกระแสแรง TEDTALK ไปหาดูซะ นี่คือรูปแบบวิธ

4 จุดรวยโคตร ยุคโมบายเฟิร์ส : ซื้อ ขาย จ่าย รับเงิน

รูปภาพ
ผมบอกบ่อยครั้ง ว่า 4G มา คือ จะเป็นยุค โมบาย เฟิร์ส เต็มรูปแบบ ทุกอย่าง ทุกสิ่ง ถ้าใครไม่รันบนมือถือ บอกเลย คุณเกิดยาก เพราะนั่นหมายถึงคุณเข้าไม่ถึงลูกค้า ไม่ใช่ แค่ปรับรูปแบบออนไลน์ของคุณ ให้มันเข้ากับสมาร์ทโฟนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ มันต้องเป็นมากกว่าหน้าร้าน หรือเป็นเพียงแคตตาล็อคสินค้าหรือบริการ ถ้าคิดแค่นี้...ก็ไม่เวิร์คอีก โจทย์ยุคโมบายเฟิร์ส ที่คุณต้องตีให้แตก มันมีจุดหลักๆ อยู่ 4 ข้อ ถ้าใครทำได้ก่อน บอกเลยคุณรวยก่อน เฮ่ย! นี่เรื่องจริงไม่ได้ล้อเล่น จุดแรกคือ จุดขาย เชื่อว่า จุดนี้ทุกคนมี เพราะทุกพื้นที่ออนไลน์ เราใช้เป็นจุดวางขายสินค้ากันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค ไอจี ไลน์ เว็บไซต์ ทุกสิ่งอย่างเราทำเพื่อการนี้ ทุกพื้นที่ เราใช้เป็นจุดโชว์สินค้าขายกันหมด อันนี้ ทุกคนรู้ และเข้าใจกันดี จุดสอง คือ จุดซื้อ นี่คือเรื่องสำคัญ และสำคัญกว่าจุดแรกด้วย เมื่อก่อนสมัยเว็บไซต์ เรามักมีระบบตระกร้าไว้รองรับ เพื่อให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้า แต่นอกเหนือจากเว็บไซต์หล่ะ คุณทำไง บนเฟสบุ๊ค บนไอจี บนไลน์ จุดที่มีให้ลูกค้าคุณสั่งซื้อสินค้าอยู่ปุ่มไหน ผมเห็นตอนนี้เราต้องส่งข้อความสั่งกัน ผ่า

3 โมเดลธุรกิจ ที่ Start Up เมืองไทยรู้...แต่ไม่เคยทำ

รูปภาพ
ปีหน้า และปีต่อๆ ไป ผมเชื่อว่ากระแส Start Up ยังมาแรงแน่ๆ แต่จะมีใครประสบความสำเร็จบ้างหรือเปล่า ผมกล้าบอกเลยว่า....ยาก วงการ Start Up นี่มันแปลก คนที่ทำเพราะหวังรวย ส่วนใหญ่จะไม่รวยแถมเจ๊ง แต่คนที่ทำเพราะอยากทำ เรื่องเงินเรื่องทองไว้หลังสุด กับรวยเอา รวยเอา เฮ่ย! นี่เรื่องจริง ไม่ใช่ล้อเล่น โมเดลนี้มักเกิดขึ้นกับเศรษฐีไอที คนพวกนี้มักสร้างอะไรขึ้นมาสักอย่างนึง เสร็จแล้วเอามาลองให้ใช้กันฟรีๆ พอคนใช้เยอะๆ ก็จะต่อยอดด้วยการเอาจำนวนคนใช้ไปหาเงินทุน พอได้เงินทุนมา ก็ขยายแบบให้ฟรี เพื่อให้คนใช้เยอะๆ แบบเท่าทบทวีคูณ แล้วสิ่งสุดท้ายที่เค้าทำ คือการหาเงิน หารายได้ จากคนใช้นั่นเอง กูเกิล ก็โมเดลนี้ เฟสบุ๊ค ก็โมเดลนี้ ยูทูป ก็โมเดลนี้ ไอจี ก็โมเดลนี้ ไลน์ ก็โมเดลนี้ จะเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคุ้นเคยบนมือถือ ใช้โมเดลนี้ กันหมดเลย หัวใจสำคัญของคนทำธุรกิจโมเดลนี้ มีอยู่ 3 ข้อ และผมก็เชื่อว่า Start Up เมืองไทยรู้ “แต่...ไม่เคยทำ” 1.หวังผลระยะยาว คนพวกนี้ไม่เคยคิดจะรวยข้ามคืนหรือรวยฟ้าผ่า แบบที่คนไทย หรือวงการ Start Up เมืองไทยคิด แต่สุดท้าย เค้าก็รวย...นี่คือเรื่องจริง 2.สร้างประโยชน์

10 ข้อเท็จจริง...เกี่ยวกับวันปีใหม่

รูปภาพ
วาระปีใหม่ทั้งที หลายคนตั้งความหวังอย่างดี ว่าชีวิตจะดีกว่าปีเก่า แต่สำหรับผม นี่คือ.... "10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวันปีใหม่" 1.ปีใหม่ ไม่เคยให้อะไรใหม่ นอกจากวันเดือนปีที่เปลี่ยนไปเท่านั้น 2.ปีใหม่ ไม่เคยทำให้ใครรวยหรือจน นอกจากคุณสร้างตัวคุณเอง 3.ปีใหม่ ไม่เคยทำให้ใครประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว อย่าเข้าใจผิด 4.ปีใหม่ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงใคร ถ้าคุณได้แต่คิด แต่ไม่ลงมือทำ 5.ปีใหม่ ไม่ใช่จุดเริ่มต้นอะไรเลย เพราะคุณเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ได้ทุกวัน 6.ปีใหม่ ก็แค่วันใหม่อีกหนึ่งวัน อย่าฝันว่าโลกทั้งโลกจะเปลี่ยนไปเพราะวันๆ เดียว 7.ปีใหม่ ไม่ใช่ชีวิตใหม่ ถ้าคุณยังทำเหมือนเดิม ทุกอย่างก็อยู่ที่เดิมเหมือนปีเก่า 8.ปีใหม่ เป็นแค่เรื่องสมมุติว่ามันใหม่ แต่แท้จริงทุกสิ่งยังเหมือนเช้าวันใหม่ทุกๆ วัน 9.ปีใหม่ มีเพียงวันเดียวที่เหลือคือปีเก่า ควรใส่ใจกับทุกๆ วันของชีวิตจะดีกว่า 10.ปีใหม่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคืออายุ แต่ความรู้ ความคิด และประสบการณ์ ไม่ได้เพิ่มขึ้นอัตโนมัติตามปีใหม่ คุณต้องสร้างขึ้นมาเองเท่านั้น ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น http://www.facebook.com/chatchaitalk http://ww

5 คาถาธุรกิจ ถ้าคิดและทำได้ จะประสบความสำเร็จ

รูปภาพ
หลายคนคงอยากรู้ ว่าในปีหน้า 2016 ถ้าอยากประสบความสำเร็จและร่ำรวย ต้องทำยังไง และต้องรู้อะไรบ้าง สำหรับ ChatTalks ผมอยากจะบอกให้ทุกท่านทราบ ถึงสิ่งสำคัญที่ท่านต้องทราบ ถ้าอยากทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และร่ำรวยตลอดไป ดังนี้ "5 คาถาธุรกิจ ถ้าคิดและทำ จะประสบความสำเร็จ" 1.Mobile First…ข้อแรกออนไลน์ ต้องใช้งานได้บน SmartPhone 2.Personal Branding…วีธีสร้างแบรนด์ที่ง่าย เร็ว ต้นทุนต่ำ แต่ได้ผลมากที่สุด 3.Content Marketing…ข้อมูลคือทุกสิ่ง Advertising อย่างเดียว คือ การตลาดยุคไดโนเสาร์ 4.Social Media…สื่อหลักขวัญใจมหาชน สื่อมวลชนตูไม่เชื่อ 5.Lifestyle….ไลฟ์สไตล์คือพระเจ้า ใครไม่เข้าใจ ทำอะไรก็เจ๊ง ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น http://www.facebook.com/chatchaitalk http://www.chattalks.info Tel.092-387-1241 , Line ID : ChatTalks Email : kittisak1241@yahoo.com

ทุกธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ด้วยการสร้าง Content ผ่านสื่อ" (มวลชนและโซเชียล)

รูปภาพ
ผมมีแนวคิดในการทำธุรกิจง่ายๆ ภายใต้ความเชื่อส่วนตัว ที่ได้พิสูจน์มาแล้ว จากประสบการณ์ในการทำงานมากว่า 30 ปี ความเชื่อและแนวคิดนั้นก็คือ “ทุกธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ด้วยการสร้าง Content ผ่านสื่อ" (มวลชนและโซเชียล)” การทำธุรกิจสมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้งบโฆษณามหาศาล แต่ถ้าคุณใช้มวลชนและโซเชียลให้เป็นประโยชน์ ธุรกิจของคุณไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ มีโอกาสเข้าถึงลูกค้า และสามารถสร้างยอดขายได้เท่าเทียมกัน ความสำเร็จของสินค้าหรือธุรกิจวันนี้ วัดกันที่ใครสร้างเรื่องราว หรือ Content ได้ดีกว่ากัน ใครสร้างได้น่าเชื่อถือกว่า ต่อเนื่องกว่า ก็เอาใจผู้บริโภคไปครอง เอายอดขายไปครอง เพราะคนสมัยนี้ไม่เชื่อโฆษณา ที่บอกแต่จุดเด่น จุดเด่น และจุดเด่น แต่คนทุกวันนี้ ถามหาเหตุผล ว่าจุดเด่นนั้น มาจากเหตุผลอะไร จึงเป็นที่มาของการสร้างเรื่องราว และการสร้าง Content ให้น่าเชื่อถือนั่นเอง และการสร้าง Content แบบนี้ โฆษณาทำไม่ได้ การประชาสัมพันธ์เท่านั้นที่ทำได้ คุณเชื่อมั๊ยครับ เมื่อคุณสร้าง Content ดี เนื้อหาของสินค้าและธุรกิจน่าสนใจ คนเสพสื่อก็จะสนใจ เมื่อคนเสพสื่อสนใจ สินค้าหรือบริก

5 แนวคิด ทำธุรกิจแบบดาวร่วง

รูปภาพ
แนวคิดในการทำธุรกิจ มีความสำคัญต่อความสำเร็จมาก ถ้าคุณมีแนวคิดผิดๆ ทำอะไรก้ไม่ประสบความสำเร็จ นี่คือ... "5 แนวคิด ทำธุรกิจแบบดาวร่วง" ถ้าใครมี...ปรับด่วน! 1.ธุรกิจตามแห่ อยู่ในกระแส ใครๆ เค้าก็ทำกัน.... อะไรก็ตามที่อยู่ในกระแส ใครๆ ก็ทำได้ มันหมายความว่าธุรกิจนี้มีแต่คู่แข่ง เมื่อคู่แข่งเยอะ ก็แย่งกันขาย หาจุดแตกต่างไม่เจอ สุดท้ายก็จบลงด้วยลดราคา ระบายของ ขาดทุน เจ๊ง บอกเลย รอดยากครับ 2.ธุรกิจซื้อมา-ขายไป ฟันกำไรส่วนต่าง... สมัยนี้ผู้บริโภคฉลาดซื้อ ฉลาดเลือก ฉลาดเปรียบเทียบ มันหมดยุคแล้วครับ ที่จะทำธุรกิจเพื่อหวังฟันกำไรส่วนต่างเยอะๆ ซื้อถูกๆ มาขายแพงๆ ใครคิดจะทำธุรกิจแบบนี้ บอกเลย รอดยากครับ 3.ธุรกิจขายของถูก เน้นปริมาณ ... มันไม่มีแล้วครับ ธุรกิจแบบเหมาโหล ยกล็อต ตัดมาทั้งโกดัง เน้นขายราคาถูกๆ เอากำไรน้อยๆ เพราะธุรกิจแบบนี้ บอกเลยใครๆ ก็ทำได้ วันนี้คุณขายถูก พรุ่งนี้ก็จะมีคนที่เหมามามากกว่าคุณ แล้วเอามาขายในราคาที่ถูกกว่า ธุรกิจเอาเงินตุ๊บแบบนี้ รอดยากครับ 4.ธุรกิจออฟไลน์อย่างเดียว ไม่ใช้โซเชียลมีเดีย... มันไดโนเสาร์โคตรๆ ถ้าใครยังไม่เคยใช้โซเชียลมีเดีย เป็นเครื่

หุ้นดิ่ง ทองดิ่ง น้ำมันดิ่ง ธุรกิจคุณจะดิ่งจริงหรือ?

รูปภาพ
เปิดศักราชรับปีใหม่ ข่าวร้าย หุ้นดิ่ง ทองดิ่ง น้ำมันดิ่ง หลายคนเริ่มงง เอาไงดีฟ่ะ ใครที่ตระหนกตกใจกับข่าวพวกนี้ ผมว่าคุณแม่ง! ปญอ. อ่ะ ถ้าคุณเป็นคนทำธุรกิจจริงๆ เป็นพนักงานออฟฟิศ หรือเป็นสตาร์ทอัพ ไม่ใช่พวกนักเก็งกำไรบนตัวเลขที่ขึ้นลง ถามว่าหุ้นดิ่ง มันกระทบอะไรกับธุรกิจคุณ ยอดขายคุณตกป่ะ กำลังซื้อคุณหายป่ะ ตลาดคุณหดป่ะ บอกเลยไม่เกี่ยว คนเล่นหุ้นมันส่วนน้อยของประเทศ แล้วเชื่อว่า เค้าก็ไม่ได้มาซื้อสินค้าคุณเท่าไหร่หรอก ภาพใหญ่คือดูน่ากลัว แต่ภาพจริง คือ มันมาไม่ถึงคุณ ทองดิ่ง อาจกระทบมากกว่าหุ้นดิ่ง เพราะทองเป็นของชอบของคนไทย หลายคนแห่ซื้อทองกันเยอะ ในช่วงยุคตื่นเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา แต่เชื่อผมเถอะ มันไม่ได้กระทบต่อธุรกิจคุณมากมายขนาดนั้นหรอก ภาพใหญ่มันเหมือนน่ากลัว แต่ภาพจริง คือ มันมาถึงคุณน้อยมาก น้ำมันดิ่ง มันกระทบอะไรคุณป่ะ บอกเลยนี่ข่าวดีที่สุดสำหรับคุณ เศรษฐกิจแย่ๆ ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าเพราะราคาน้ำมันมันพุ่งปรี๊ด เลยทำให้ต้นทุนสินค้าทุกชนิดเราสูงตาม แล้ววันนี้น้ำมันดิ่งลง มันน่าจะเป็นข่าวดีโคตรๆ ไม่ใช่เหรอ เพราะต้นทุนธุรกิจคุณจะได้ต่ำๆ กำไรจะได้เพิ่มขึ้น แต่กลับมาทำหน้าตื่

อยากรวย “จงศึกษาจากรายใหญ่ แล้วอย่าทำมัน”

รูปภาพ
มันมีคำสุภาษิตไทยอยู่ข้อนึง “เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด” แต่ถ้าหากมีใครทะลึ่งนำมาใช้กับการทำธุรกิจ แล้วถือสุภาษิตว่า “เดินตามรายใหญ่หมาไม่กัด” บอกเลย หมาไม่กัดจริงๆ ครับ แต่คุณจะโดนรายใหญ่กระทืบตาย และไม่มีวันได้ผุดได้เกิด ด้วยเหตุผลง่ายๆ “เมิงเป็นใครฟ่ะ จะมาแบ่งผลประโยชน์ตู” 555 แล้วมันก็มีความเชื่ออีกอย่างนึง ว่าถ้าอยากทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ให้ศึกษาจากรายใหญ่ จากเจ้าตลาด ว่าเค้าทำแบบไหนอย่างไร ถูกครับ ผมไม่เถียง แต่ความเชื่อมันยังมีอีกส่วนนึงที่คุณอาจไม่รู้ คือให้ศึกษาจากรายใหญ่ แล้วอย่าทำมัน เพราะถ้าคุณทำตามรายใหญ่เมื่อไหร่ คุณไม่มีวันชนะ มีแต่จะแพ้ และโดนกระทืบตายในที่สุด คุณต้องยอมรับความจริง ว่าถ้าคุณเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ คุณยังเล็ก ยังไม่โต ทุนไม่หนา เครือข่ายไม่เยอะ การทะลึ่งทำแบบรายใหญ่ มันคือวิธีคิดที่โง่ที่สุด และเป็นการฆ่าตัวตายที่น่าสมเพศทุเรศที่สุดใน 3 โลก ถ้าไม่เชื่อ คุณลองคิดตามผม ต่อให้คุณเป็นแชมป์โลกปั่นจักยาน แต่แค่ให้คุณปั่นแข่งกับนักบิดมอไซด์ประจำหมู่บ้าน สุดท้ายยังไงคุณก็แพ้...ก็มอไซด์มันใหญ่กว่าอ่ะ ต่อให้คุณเป็นแชมป์โลกมอเตอร์ไซด์ แต่ถ้าให้วิ่งแข่งกับกับรถ

5 เรื่องจริงของความรู้ กับการทำธุรกิจยุคนี้

รูปภาพ
ผมบอกเสมอว่าโลกมันเปลี่ยน ยุคนี้มันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ไม่สำคัญเท่าความคิด การมีความรู้ หาความรู้ เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ และนี่คือ “5 เรื่องจริงของความรู้ กับการทำธุรกิจยุคนี้” 1.หมดยุคความรู้คือแต้มต่อ เรียนสูง เรียนเก่ง ไม่ได้การันตีว่าจะประสบความสำเร็จ ถ้าคุณคิดไม่เป็น 2.ความรู้คือแมสโปรดัก ใครๆ ก็หาได้มีได้ ด้วยอิทธิพลของกูเกิล 3.ยิ่งเรียนสูง ยิ่งรู้มาก ยิ่งยากที่จะประสบความสำเร็จ เพราะคุณจะกรอบเยอะ ทฤษฎีแยะ แต่ชีวิตจริงยุคนี้ คนที่ประสบความสำเร็จ มหาเศรษฐฐีของโลก ทุกคนล้วนคิดต่างและแหกกรอบ ไร้ทฤษฎีทั้งสิ้น 4.เรียนสูง ค่าตอบแทนต่ำโคตร ถ้าคุณคิดไม่เป็น ต่อยอดความรู้ไม่ได้ ก็ความรู้ในตำราที่คุณมี ต่อให้ดีกรีดอกเตอร์ 10 ใบ สมัยนี้มันรวบรวม เก็บ และประมวลได้ ในคอมพิวเตอร์เครื่องหรือในแอพราคากี่พันบาท ก็เมื่อมันเป็นแบบนี้ ต่อให้คนโง่ที่สุดในโลก เค้าก็ไม่มีวันจ้างคุณ 5.เลิกพัฒนาความรู้ แต่ให้หันมาพัฒนาความคิดดีกว่าครับ เพราะยุคนี้ความสำเร็จ ความรวย ไม่ได้ตัดสินที่ว่าใครรู้มาก รู้น้อย แต่ตัดสินที่ใครคิดมาก คิดเป็น คิดต่างต่างหากครับ ChatTalks…คุยธุรกิจ

กฏ 3 ข้อ สร้างความ “ดังและรวย” ยุค 4G

รูปภาพ
ผมบอกเสมอ ว่ายุคนี้มันไม่ใช่ยุค Product Branding แต่มันเป็นยุค Personal Branding ใครที่คิดทำธุรกิจ สร้างแบรนด์ แล้วไม่เข้าใจจุดนี้ ผมบอกเลย ว่าคุณซวยแน่ ทำอะไรก็เจ๊ง ทำอะไรก็จน เฮ่ย! นี่เรื่องจริงไม่ใช่ล้อเล่น แล้วการสร้าง Personal Branding สมัยนี้ก็ง่ายโคตร ง่ายชนิดที่เรียกว่า ตาสีตาสา คนธรรมดาก็ทำได้ ใครก็สร้างได้ ดังได้ รวยได้ ถ้าคุณเข้าใจและใช้โซเชียลเป็น นี่คือ “กฏ 3 ข้อ สร้างความดังและรวย ยุค 4G” 1.คุณต้องคิดเป็น เรื่องนี้สำคัญสุด ถ้าไม่มี ไม่ฝึกซะ ความคิด ต่างจาก ความรู้ เพราะความรู้ยุคนี้มันเป็นแมส ใครๆ ก็หาได้ รู้ได้จากกูเกิล แต่ความคิด หาไม่ได้ คุณต้องเอาความรู้มาต่อยอดด้วยตัวเอง แต่ถ้าคุณคิดได้ คิดเป็น คิดต่าง เมื่อใดที่คุณกล้าบอกเล่าสิ่งที่คุณคิด เมื่อนั้นกจะมีคนยอมรับ ยอมฟัง และยอมเชื่อคุณ 2.คุณต้องพูดเป็น ปีสองปีที่ผ่านมา ด้วยกระแสและข้อจำกัดของเฟสบุ๊คและไวไฟ หากคุณอยากดัง อยากรวย อยากเกิด คุณต้องเขียนเป็น แต่วันนี้ยุคนี้ มันไม่ใช่แล้ว มันมีทางลัดที่มาเร็วกว่า คือ การพูด ยุคนี้คุณไม่ต้องเขียนเป็นก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่คุณคือคุณต้อง “พูดเป็น” เพราะยุคนี้มันยุค 4G ยุคคลิ

อยากรวยยุคนี้ ต้อง "Mass ในหมู่ Niche"

รูปภาพ
หลายคนถามผมว่า วันนี้มันหมดยุคแมสแล้วจริงๆ เหรอ ผมมักตอบเสมอว่า มันไม่ใช่วันนี้ครับ โลกนี้มันหมดยุคแมสไปนานแล้ว พี่เบิร์ดจะมารักทุกคนไม่ได้แล้ว เพราะจะมีคนถามกลับทันที ว่าถามตูก่อนมั๊ย ว่าตูรักพี่เบิร์ดป่ะ ทำสินค้าจะมาขายทุกคนไม่มีแล้ว ไอ้ผลิตมากๆ ต้นทุนต่ำๆ ขายเยอะ มันเป็นการตลาดในตำนาน ก้ขนาดคอนซูเมอร์โปรดักสมัยนี้ยังไม่แมส ใครคิดเริ่มทำธุรกิจแล้วมองแมส ผมบอกเลย เมิงไปตายแล้วเกิดใหม่ป่ะ คนยุค This is a กู มันตัวกูของกูโคตรๆ การทำธุรกิจวันนี้ท่องให้ขึ้นใจ หากอยากตอบโจทย์ความตเป็นตัวกูของกู คุณต้อง Niche Niche และ Niche โฟกัสกลุ่มลูกค้า เจาะตามกลุ่มไลฟ์สไตล์ หาให้เจอ ว่า Niche คุณอยุ่ตรงไหน แล้วคุณจะรวย หลายคนอาจจะสงสัย ว่า Niche แล้วมันจะอยู่ยาวมั๊ยฟ่ะ บอกเลยว่ายาวโคตรๆ ยาวด้วยแล้วรวยโคตร ถ้าคุณสามารถสร้างคุณให้เป็น “Mass ในหมู่ Niche” เฮ่ย! นี่เรื่องจริง ไม่ใช่ล้อเล่น ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น http://www.facebook.com/chatchaitalk http://www.chattalks.info Tel.092-387-1241 , Line ID : ChatTalks Email : kittisak1241@yahoo.com

5 โจทย์ต้องตอบ สร้าง “Mass ในหมู่ Niche”

รูปภาพ
เมื่อวานผมบอกแล้ว ว่าการทำธุรกิจยุคนี้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ อยากรวย คุณต้อง Niche Niche และ Niche และต้องสร้างให้เป็น “Mass ในหมู่ Niche” ถึงจะอยู่ยาวและรวยโคตร ข้อดีของ Niche คือ คุณไม่ต้องปวดหัวเรื่องสงครามราคา เพราะมันเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ และรสนิยมเฉพาะกลุ่ม แต่ถ้าคุณอยาก Mass ในหมู่ Niche คุณต้องมีคุณตอบโจทย์แบบนี้ได้.... "5 โจทย์ต้องตอบ สร้าง "Mass ในหมู่ Niche" 1.ใส่ใจ และพิถีพิถันในรายละเอียดของสินค้า 2.ตอบโจทย์ความต้องการของคนเฉพาะกลุ่ม 3.ทำให้เค้าดูเท่ห์ ดูดี ดูทันสมัย 4.ดูอัพเกรดตัวเอง และบ่งบอกถึงสเตตัสทางสังคม 5.“ห้ามแมสและห้ามถูก” “แพงเวอร์ได้ แต่อย่ามาก” แล้วพวกเค้าจะปีนกระไดไปหาคุณ แล้วคุณจะเป็น “Mass ในหมู่ Niche” สตาร์บั๊ค ไม่ได้ขายทุกคน ไม่แพงเวอร์ ปีนกระไดถึง และตอบโจทย์ทั้ง 5 ข้อ ไอโฟน ไม่ขายทุกคน ไม่แพงเวอร์ ปีนกระไดถึง และตอบโจทย์ทั้ง 5 ข้อ อาฟเตอร์ยู ไม่ขายทุกคน ไม่แพงเวอร์ ปีนกระไดถึง และตอบโจทย์ทั้ง 5 ข้อ โรงเบียร์เยอรมัน ไม่ขายทุกคน ไม่แพงเวอร์ ปีนกระไดถึง และตอบโจทย์ทั้ง 5 ข้อ ฯลฯ ทั้งหมดที่ผมบอก บอกเลยว่าไม่แมส แต่เค้า Mass

"ป๊อปอัพ สโตร์" เทรนด์ฉลาดๆ การตลาดมาแรง

รูปภาพ
การทำธุรกิจวันนี้ หากอยากประสบความสำเร็จ อยากรวย สิ่งสำคัญที่สุด คือ คุณต้องตามไลฟ์สไตล์คนให้ทัน ถ้าไม่งั้น บอกเลยตายก่อนเกิด เมื่อก่อนใครมีร้านมีชอปในห้าง ถือว่าเป็นโอกาสทอง โอกาสรวย แต่วันนี้ใครยังบ้าไปเปิดร้าน เปิดชอปในห้าง บอกเลย คุณหาความซวยมาใส่ตัว เฮ่ย! นี่เรื่องจริง ไม่ใช่ล้อเล่น วันนี้ไม่ใช่ไม่มีคนเดินห้าง เดินช้อปปิ้งมอลล์นะครับ มีครับ แถมมากกว่าเดิมด้วย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือไลฟ์สไตล์ของคนเดินห้าง วันนี้เราไปห้างเพื่อ... ไปตากแอร์ ไปเดินเล่น ไปอัพเทรนด์ ไปพบปะสังสรรค์ ไปทานข้าว ไปดูหนัง ไปเล่นกีฬา ไปออกกำลังกาย ไปเรียนพิเศษ ไปนั่งเมาท์ นั่งคุย นั่งแชะแชร์โชว์...โอย! โคตรเยอะ แต่ไม่มีใครไปซื้อของในห้าง อย่างเดียวที่เรายอมควักจ่ายทุกครั้งที่ไปห้าง คือกิน ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอร์รี่ เพราะมันอัพสเตตัสทางสังคมได้ นอกนั้น ฝันไปเถอะ เงินไม่กะเด็นจากกระเป๋า "ชอปในห้างวันนี้ มันทำหน้าที่แค่เป็นดิสเพลย์สินค้า แต่มันไม่ใช่จุดซื้อ-ขายสินค้าหลักเหมือนเมื่อก่อน" นี่คือโจทย์การตลาดที่คุณต้องเข้าใจ ทางออกฉลาดๆ ของการตลาดวันนี้ ก็ในเมื่อมันไม่ใช่จุดซื้อ-ขาย ก็ไม่ต

การลงทุนที่คุ้มที่สุด คือลงทุนพัฒนาความคิด

รูปภาพ
เศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้ ถามว่าลงทุนอะไรดี ถึงจะคุ้มที่สุด ถึงจะสร้างผลกำไร ได้เป็นกอบเป็นกำที่สุด บอกเลยครับ “ลงทุนพัฒนาความคิด” เพราะเป็นการลงทุนที่ใช้เงินน้อยโคตรๆ แต่ผลลัพท์ที่ได้ คือ กำไรล้วน ถ้าคุณต่อยอดได้ ใช้งานเป็น คุณจะได้ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และความสำเร็จ ความคิดดีๆ มีให้คุณลงทุนทุกแห่ง ง่ายสุด คือลงทุนเวลา หาอ่าน หาดู ได้จากโลกออนไลน์ ทั้งกูเกิล เฟสบุ๊ค ยูทูป และ ฯลฯ หนังสือ คืออีกทางเลือกหนึ่ง อาจจะช้ากว่าโลกออนไลน์ แต่จะตกผลึกความคิดได้ดีกว่า การสัมมนา คือทางเลือกที่กำลังมาแรง เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย แต่อยากได้แนวคิดเชิงลึกกว่าการอ่าน แต่ค่าใช้จ่ายอาจมากหน่อย แต่ถ้าคุณได้แนวคิดดีๆ กลับไป ก็คุ้มค่ากับการลงทุนโคตรๆ ครับ ถามว่าแล้วจะเลือก อะไร แนวไหนดี บอกเลยง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก เลือกเอาตามความชอบ และสิ่งที่คุณขาด เพราะไม่มีใครเหมือนใคร และไม่มีรู้ดีเท่ากับตัวคุณ ว่าคุณจะพัฒนาความคิด เพื่อ..... ถ้าคุณรู้สึกว่า กำลังอ่อนล้า ชีวิตไร้ทิศทาง แนวสร้างแรงบันดาลใจ ปลุกพลังต่างๆ น่าจะเวิร์คสุด เพราะคุณอาจจะได้แนวคิดดีๆ มาสร้างกำลังใจให้กับตัวคุณเอง ถ้าคุณรู้สึกว่าชีวิตไม่ก้า

10 ไลฟ์สไตล์ขำๆ แต่ “ยอมรับมาเถอะ” ว่าทำจริงๆ

รูปภาพ
ผมบอกแล้วว่าโลกมันเปลี่ยน ไลฟ์สไตล์คนไทยก็เปลี่ยน ใครตามไม่ทัน มาอัพเดทกันดีกว่า 10 ไลฟ์สไตล์ขำๆ แต่ “ยอมรับมาเถอะ” ว่าทำจริงๆ 1.ยอมรับมาเถอะ…ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ที่คุณขาดขาดไม่ได้ นอกจากอากาศคือสมาร์ทโฟน 2.ยอมรับมาเถอะ…ว่าทุกวันนี้ คุณดูรายการทีวีจากยูทูป มากที่สุด 3.ยอมรับมาเถอะ…ว่าฟีดข่าวบนเฟสบุ๊ค เข้าถึงคุณได้มากกว่าข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์ 4.ยอมรับมาเถอะ…ว่าทีวีที่บ้าน นานๆ จะเปิดดูสักครั้ง และจำไม่เคยได้ ว่าช่องไหนอยู่เลขไหน 5.ยอมรับมาเถอะ…ว่าคุณไม่เคยดูโฆษณาดังๆ จากทีวี แต่ดูจากยูทูป และดูแค่ครั้งเดียว 6.ยอมรับมาเถอะ...ว่าทุกวันนี้คุณส่องไอจีดารา มากกว่าหน้าบันเทิงบนหนังสือพิมพ์ 7.ยอมรับมาเถอะ..ว่าคุณติด “อีเจี๊ยบเลียบด่วน” มากกว่า “สรยุทธ์เรื่องเล่าเช้านี้” 8.ยอมรับมาเถอะ...ว่าเวลาไปเที่ยวสุดสัปดาห์ สิ่งแรกที่คุณถามหาคือ “มีไวไฟมั๊ย” 9..ยอมรับมาเถอะ...ปัจจัยสี่ในชีวิตคุณตอนนี้ คือ เฟสบุ๊ค ไลน์ ไอจี และยูทูป 10.ยอมรับมาเถอะ...ว่าคุณอ่านโพสต์นี้ แล้วยอมรับเสียงสูงว่า “จิงจิ๊ง” 555 ChatTalks…คุยธุรกิจ คิดให้เป็น http://www.facebook.com/chatchaitalk http://www

คุ้มค่าสุด ๆ กับประกันชีวิตแบบออมเงิน

รูปภาพ
ในภาวะที่ดอกเบี้ยเงินฝากถูกโคตร การฝากธนาคารไว้กินดอกเบี้ยเหมือนเมื่อก่อน อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด เพราะถ้าคุณมีเงินแค่ไม่กี่ล้านบาท ดอกเบี้ยที่ได้อาจไม่พอใช่ในชีวิตจริง หลายคนจึงเริ่มหาทางออก ด้วยการจะเอาเงินที่มีอยู่ ไป "ลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ" อะไรก็ได้ ขอให้ได้ดอกเบี้ยมากกว่าเงินฝาก ถ้ามีใครมาบอก มาเล่า มักจะได้รับความสนใจอยู่เสมอ ๆ และการลงทุนรูปแบบหนึ่ง ที่เชื่อหลายคนที่มีเงินฝากแบงค์ หรือไปแบงค์ มักจะถูกชักชวนจากพนักงานเสมอ ๆ นั่นก็คือการลงทุนในรูปแบบของ “การประกันชีวิต” จริง ๆ แล้วการประกันชีวิตไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ เมื่อก่อนเรามักจะคิดว่าจะได้เงินก้ต่อเมื่อเสียชีวิต แต่วันนี้จุดขายของรูปแบบประกันเปลี่ยนไป มาเน้นเรื่องของการลงทุน การให้ผลตอบแทนกลับแก่ผู้ซื้อประกัน จะมากน้อยแค่ไหน สั้นยาวอย่างไร ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อ ต้องบอกว่า “ประกันเลือกได้” จริง ๆ ครับ หากคุณอยากใช้ “การประกันชีวิต” เป็นทางเลือกในการลงทุน โจทย์คุณต้องชัดใน 2 ด้าน คือ หวังผลตอบแทนจากความคุ้มครอง และหวังผลตอบแทนจากกการออมเงิน เพราะไม่งั้นคุณจะเลือกไม่ถูก และอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

อยากรวยต้อง "คิดต่างคู่แข่ง แต่คิดเหมือนลูกค้า"

รูปภาพ
มันมีคำๆ นึง ที่กำลังฮิตมากๆ ว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จ อยากดัง อยากรวย ต้อง “คิดต่าง” ถ้าไม่งั้น ยากที่จะประสบความสำเร็จ ในมุมมองของการทำธุรกิจ การคิดแบบนี้ถูกครับ แต่ถูกครึ่งเดียว เพราะถ้าใครบ้า มัวแต่ “คิดต่าง” อย่างเดียว ผมบอกเลย คุณทำอะไรก็เจ๊งครับ ยากที่จะประสบความสำเร็จอย่างที่ฝัน เฮ่ย! นี่เรื่องจริง ไม่ได้ล้อเล่น ในการทำธุรกิจ มันมีมุมหลักๆ ที่คุณต้องคิดอยู่ 2 มุม คือ “คู่แข่ง” กับ “ลูกค้า” การ “คิดต่าง” ใช้ได้ดีกับ “คู่แข่ง” เท่านั้น ถ้าอยากสำเร็จ อยากรวย ต้องคิดต่าง ยิ่งต่างจากคู่แข่งเท่าไหร่ นั่นคือโอกาสแห่งความสำเร็จและร่ำรวย แต่ถ้าคิดเหมือนเมื่อไหร่ เมื่อนั้นความซวยจะมาเยือน เพราะถ้าสินค้าเหมือนกัน ทำตลาดเหมือนกัน สุดท้ายจะกอดคอกันเจ๊ง ด้วยสงครามราคา นี่คือเรื่องจริงของการทำธุรกิจ แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณ “คิดต่าง” จากลูกค้า นั่นหมายถึงโอกาสล้มเหลวมีสูงปรี๊ด เพราะมันหมายถึงคุณไม่เข้าใจความต้องการของลูกค้า เพราะนั่นคือคุณไม่ข้าใจไลฟ์สไตล์ลูกค้า เมื่อไม่เข้าใจไลฟ์สไตล์ ความต้องการ ก็ยากจะเข้าไม่ถึงลูกค้า คงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง สิ่งสำคัญที่สุดของการทำธุรก

5 นิสัยบ้าๆ (แต่เจ๋งโคตร) ของคนยุค This is a กู

รูปภาพ
คนแต่ละยุค แต่ละสมัย ย่อมมีบุคคลิก นิสัย ไลฟ์สไตล์ต่างกัน คนรุ่นใหม่ยุคนี้ก็เช่นกัน ถ้าคุณอยากทำงานกับพวกเค้า คุณก็ต้องเข้าใจเค้า ใครบอกว่าเค้าหนักไม่เอาเบาไม่สู้ นี่คือ “5 นิสัยบ้าๆ (แต่เจ๋งโคตร) ของคนยุค This is a กู” 1.บ้าออนไลน์ ติดเทคโนโลยี เพราะคนยุคนี้ ชีวิตอยู่กับ SmartPhone โตมากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็วโคตร จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่พวกเค้าจะปรับตัวเข้ากับแอพใหม่ๆ โปรแกรมใหม่ๆ และพร้อมที่จะทดลองใช้อะไรใหม่ๆ เพื่อให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นเสมอ ไม่ได้ขี้เกียจนะ แต่พวกเค้าใจร้อน อยากเร็ว อยากด่วน อยากเสร็จมากกว่า 2.บ้าความเทพ อยากเป็นผู้เชียวชาญ ก็เพราะพวกเค้าโตมากับคำว่าแตกต่าง ต้องมีตัวตน ต้องมีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร เชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ คือจุดเริ่มต้นความสำเร็จ คนยุคนี้จึงพยายาม หาตัวตนให้เจอ พัฒนาตัวเองให้เป็นผู้เชียวชาญเฉพาะด้าน ไม่จับฉ่ายอะไรก็ได้เหมือนคนยุคอื่น ถ้าใครทำได้ นั่นแหล่ะ “โคตรเทพ” 3.บ้าตัวเอง เชื่อมั่นตัวเองสูงปรี๊ด สิ่งที่ภูมิใจที่สุด ของคนยุคนี้ คือได้สร้างงาน สร้างชื่อเสียง ให้คนยอมรับในความสามารถของตนเอง คนยุคนี้จึงชอบทำอะไรด้วยตัวเอง และเชื่อว่าตนเองทำเองด

10 บทเรียนการตลาด จากปรากฏการณ์ "ลูกเทพ"

รูปภาพ
ทุกกระแสที่เกิดขึ้น มักถูกชักใยด้วยการตลาด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในกระแส มักแปลงเป็นเงินได้อย่างคาดไม่ถึง กระแส "ลูกเทพ" ก็ไม่ต่างกัน ไม่ใช่เพียงผ่านมาแล้วผ่านไป อยากบอกให้คุณรู้ไว้ "10 บทเรียนการตลาด จากปรากฏการณ์...ลูกเทพ" 1.ไสยศาสตร์พาณิชย์เมืองไทย คือที่สุดแห่ง Content Marketing ที่สร้างสตอรี่ได้เก่งโคตรๆ 2.”ลูกเทพ” เป็นชื่อเรียกสินค้าที่สั้นและง่าย อธิบายสินค้าได้ตรง กระชับ และโคตรทรงพลังในเชิงการตลาด 3.สากกะเบือยันเรือรบ จะยอดกระฉูดข้ามคืน เพียงแค่บอกว่า “จ่ายเงินมาเถอะ แล้วเมิงจะรวย” 4.การตลาดยุคนี้ “ปัญญาอ่อนเรื่องเล็ก ตกกระแสเรื่องใหญ่” 5.ธุรกิจที่ปรับตัวเข้ากับกระแสได้เร็วโคตร คือ “ค้ายาบ้า” 6.ปรัชญาการดำเนินชีวิตโคตรฮิตแห่งยุค คือ “ความรวย ความสำเร็จ เสกได้ไม่ต้องทำงาน” 7.Minset แห่งความสำเร็จยุคนี้ “เชื่ออะไรก็ได้ ยกเว้นตัวเอง” 8.เรื่องนี้พิสูจน์ว่า คนไทยยุคโซเชียล “ความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำโคตร” 9.”งมงาย” เป็นเรื่องของจิตใจ ไม่เกี่ยวกับการศึกษา สติปัญญา และความสามารถใดๆ ทั้งสิ้น 10.ไสยศาสตร์พาณิชย์ มักปิดท้า

10 วิธีการสร้างความรวยด้วยตัวเองยุค 4 G

รูปภาพ
เห็นข่าวกระแส 4 G มาแรงโคตร ไม่แปลกครับ เพราะประมูลจบก็ต้องหาตังค์ แต่คนใช้อย่างเราๆ ซิครับ จะสร้างประโยชน์ สร้างความสำเร็จ สร้างความดัง ความรวย หาเงินเข้ากระเป๋ายังไง นั่นแหล่ะ...คือดจทย์ที่ต้องรีบคิด นี่คือ “10 วิธีการสร้างความรวยด้วยตัวเองยุค 4 G” จัดไปครับ 1.เลิกเล่นโซเชียล แล้วหันมาหาวิธีหาเงินจากโซเชียลได้แล้วครับ ไร้สาระมาตั่งแต่ 1G จนถึง 3G แล้ว พอเถอะ 2.หา SmartPhone ถูกมือ ถูกใจ และถูกเงินสักเครื่อง (จะกี่ G ช่างมัน จะไอหรือตูโฟนช่างเถอะ) ไว้ใช้เป็นที่ปล่อยของ ปล่อยสมอง ปล่อยทุกอย่างเพื่อเป็นสื่อดูดเงินเข้ากระเป๋า 3.หาเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสักค่าย ที่เร็วปรู๊ด แต่ถูกโคตร เพราะมันคือต้นทุนที่สำคัญที่สุดของชีวิต ถ้าคิดจะหาเงินบนโลกโซเชียล 4.ยึดโซเชียลมีเดียหลักๆ สักตัวไว้ตัวตัวประกัน จะเฟสบุ๊ค จะยูทูป จะไอจี หรือจะอะไรเอาสักอย่าง แล้วบอกมันว่าต่อไปนี้ เมิงจะเป็นคู่หูตู ในการหาเงิน 555 5.หัดเขียน หัดถ่ายรูป หัดพูด หัดอัดคลิป นั่นแหล่ะ ทักษะพื้นๆ แต่ไม่ธรรมดา มันจะเป็นบันไดขั้นแรก ของการสร้างเงินและงานในยุคโซเชียล 6.หาให้เจอว่าจะขายอะไร ขายสินค้า ขายความคิด ขายสมอง ขายห

หมดยุค "ลูกค้าคือพระเจ้า" ยุค This is a กู "ลูกค้าคือแฟนคลับ

รูปภาพ
แนวคิดการธุรกิจ มักเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพราะลูกค้าคือคนจ่ายตังค์ ถ้าอยากได้ตังค์ ก็ก็ต้องเข้าใจคนจ่าย นี่แหล่ะ! นี่แหละจริงสุด ยุคแมสที่ผ่านมา ใครๆ ก็บอกว่าลูกค้าคือพระเจ้า อยากได้อะไรบอก อยากขออะไรได้ เพราะสินค้าทุกแบรนด์ ถือคติอย่างเดียวกัน คือ “เอาใจเค้าเพื่อเอาตังค์มา” ถ้าลูกค้าไม่พอใจ ก็จะขายไม่ได้ อดได้ตังค์ 555 แต่มายุคนี้ มันยุค This is a กู ใครยังคิดว่าลูกค้าคือพระเจ้า บอกเลยตกยุค เพราะคนยุคนี้เค้าตัวกูของกูสูงโคตร “เมิงไม่ต้องมาเอาใจตู ตูคิดเป็นตัดสินใจเป็น” “แหม! ทำมาเอาใจ รู้นะ ว่าอยากขายของ” “อย่าเอาใจ อย่ามาง้อตูมาก ตูรำคาญ แต่ถ้าตูอยากได้ เดี๋ยวตูจัดให้เอง” นี่แหล่ะ! คนยุคนี้มันเป็นแบบนี้ เมื่อลูกค้าไม่ยอมให้ยกเป็นพระเจ้า แล้วคราวนี้เอาไงดีฟ่ะ! 555 นี่เลยครับ ยุคนี้ วิธีที่จะกระชากใจลูกค้าได้ง่ายที่สุด และทำให้เค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายที่สุด คือ “ยกลูกค้าเป็นแฟนคลับ” เฮ่ย! นี่เรื่องจริงไม่ได้ล้อเล่น แฟนคลับคืออะไร คงไม่ต้องบอก แต่ถ้าเมื่อใดก็ตาม ที่คุณสามารถเปลี่ยนลูกค้าให้มาเป็นแฟนคลับได้ รับรอง กุมใจ กุมมือ กุมกระเป๋ากันไปนานแสนนาน พูดอะไร แฟนคลับเชื่อ

รู้ได้ไง! ไอเดียไหน สินค้าไหน เวิร์คหรือไม่เวิร์ค

รูปภาพ
มีคนมาถามผม คุณฉัตร ผมมีไอเดียเยอะแยะ ทำไงถึงจะรู้ว่าเดียไหนเวิร์ค ไม่เวิร์ค ทำไงถึงจะรู้ ว่าอันไหนขายได้ ขายไม่ได้ บอกเลย ไม่มีครับ ใครกล้าฟันธง ไอ้นั่นโกหก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่มีเครื่องมือไหน จะมาหาคำตอบได้ขนาดนั้น สิ่งที่ทำ ทุกอย่างคือการคาดเดาครับ จะวิธีการไหน ทฏษฎีอะไร สุดท้ายทุกอย่างคือการคาดเดาทั้งสิ้นครับ เฮ่ย! นี่เรื่องจริง ไม่ใช่ล้อเล่น มันมีทางเดียวที่คุณต้องทำ ถ้าคุณอยากได้คำตอบ ว่าอันไหนเวิร์ค ขายได้ ก็คือ คุณต้องลองเอาสินค้านั้นมาขายจริงๆ มาลองกับตลาดจริงๆ ให้คนซื้อได้สัมผัสจริงๆ นั่นแหล่ะ...คุณถึงจะรู้ สตีป จ๊อบ ไม่รู้หรอก ว่าไอโฟนจะขายได้ป่ะ ตอนคิด พี่มาร์ค ไม่รู้หรอก ว่าเฟสบุ๊คจะมีคนใช้ขนาดนี้ ตอนคิด แจ๊คมา ไม่รู้หรอก ว่าอาลีบาบา จะสร้างให้เค้าร่ำรวย ตอนคิด และเชื่อว่าจริงๆ แล้ว ไม่มีใครรู้หรอก ว่าสินค้า หรือสิ่งที่เค้าสร้างขึ้น จะเวิร์คหรือไม่เวิร์ค ตอนคิด รุ้อย่างเดียว ตุว่ามันเจ๋งโคตร ไม่มีใครว่าสิ่งที่ตัวเองคิด ห่วยแตกหรอครับ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเค้าประสบความสำเร็จ คือพวกเค้ากล้าทำออกมาขาย กล้าเอาออกมาให้คนใช้เลย และยอมรับ และปรับแก้ไขทันที ถ้ารู